ไม่ง้อผงชูรส นักวิจัยมข.แนะ“ผงผักนัว”ทางเลือกคนรักสุขภาพ

นักวิจัย มข. แนะทางเลือกใหม่ คนรักสุขภาพไม่อยากบริโภคผงชูรส ด้วย “ผงผักนัว” เผย ผลิตจากผักสมุนไพรธรรมชาติ 100% ใช้ปรุงอาหารเพิ่มรสชาติแทนผงชูรสได้ พร้อมต่อยอดงานวิจัยสู่อุตสาหกรรมอาหาร

ที่ห้องประชุมสิริคุณากร 4 สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีงานนักวิจัยพบสื่อมวลชน โดย ดร.พิมพ์นิภา หิรัณย์สร สาขาวิชาเทคโนโลยีอาหาร คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น  แนะทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภค หันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ด้วยผงผักนัวปรุงรส ที่ทำจากพืชผักสมุนไพรหลากหลายชนิดทดแทนการใช้ผงชูรส และยังมีการสาธิตการใช้ผงผักนัวปรุงรสให้กับส้มตำ ซึ่งให้รสชาติไม่แตกต่างจากใช้ผงชูรสทั่วไป

ดร.พิมพ์นิภา เปิดเผยว่า ได้ทำการวิจัยร่วมกับกับวิสาหกิจชุมชนสมุนไพรเกษตรปลอดภัยตำบลศิลา เพื่อพัฒนาและปรับปรุงสูตรผลิตภัณฑ์ให้สามารถใช้แทนผงชูรสได้ เป็นการวิจัยที่อยู่ภายใต้แผนบูรณาการอาหารอีสานปลอดภัย ซึ่งได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ

โดยผลิตภัณฑ์ที่นำมาวิจัย เป็นผงผักปรุงรสที่เกิดจากภูมิปัญญาท้องถิ่น ไม่มีสารเคมี แต่มีการผสมรสชาติเฉพาะตัวของผักสมุนไพรหลายชนิด เช่นผักหวาน ให้รสชาติหวาน ฟักทองให้รสชาติมัน ชะมวงให้รสชาติเปรี้ยว กระเทียมให้รสเผ็ดและให้กลิ่น รวมทั้งผักชีและใบหม่อนด้วย เมื่อนำมาผสมกัน ในสัดส่วนที่เหมาะสมจะทำให้เกิดรสและกลิ่นที่หอมนัว สามารถใช้ปรุงเพิ่มรสชาติแทนผงชูรสได้ นอกจากได้รสชาติแล้ว ผักสมุนไพรทั้งหมด ยังมีฤทธิ์ทางยา เช่น ชะมวงที่มีสรรพคุณบำรุงเลือด ต้านมะเร็ง และต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคทางเดินอาหาร

ปัจจุบัน ผงผักนัว มีการผสมผสานของสมุนไพรถึง 13 ชนิด และจะมีการปรับปรุงพัฒนาให้มีจำนวนผักสมุนไพรที่น้อยลงเพื่อเป็นการลดต้นทุนแต่รสชาติยังคงเดิม ผงผักนัวเป็นผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวตำบลศิลา ปัจจุบันยังไม่ได้มีการตีตลาด เป็นเพียงการทำเป็นแบบเพื่อพัฒนาและเป็นของฝากประจำหมู่บ้านในช่วงเทศกาล และอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการยื่นจดสิทธิบัตร

“จะมีการต่อยอดนำสมุนไพรชนิดนี้ออกสู่ตลาดผู้บริโภควงกว้างมากขึ้น ปรับปรุงให้มีการลงตัวให้มีความเหมาะสมที่จะใช้ในวงการอุตสาหกรรมอาหารในวงกว้างมากขึ้น เพื่อตอบสนองผู้บริโภคที่ปัจจุบันหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีโครงการที่จะพัฒนาน้ำปลาร้าปรุงรส ที่จะเป็นเครื่องปรุงรสที่มีส่วนผสมจากผักสมุนไพรเช่นกัน” ดร.พิมพ์นิภา

อาจารย์บรรจบ ชาทอง ประธานกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มสมุนไพรเกษตรปลอดภัยตำบลศิลา เผยว่า นำแนวคิดการผลิตผงผักปรุงรสมาจากชนเผ่ากะเลิง ที่ จ.สกลนคร เพราะชนเผ่านี้เขาไม่กินผงชูรส แต่มีผงปรุงรสเรียกว่า”แป้งนัว” ซึ่งมีการผสมแป้งข้าวเหนียวกับผงสมุนไพร กลุ่ม ได้นำสูตรมาปรับปรุง โดยการนำแป้งข้าวเหนียวออกให้มีแค่ผงสมุนไพร เนื่องจากสูตรของชนเผ่ากะเลิงสามารถนำไปประกอบอาหารได้แค่บางเมนูเท่านั้น แต่ยังต้องการพัฒนาต่อยอดอีกเพราะผงสมุนไพรยังไม่สามารถละลายน้ำได้ จึงต้องพึ่งภาควิชาเทคโนโลยีการอาหาร เพื่อให้สามารถผลิตเป็นอุตสาหกรรมได้

แสดงความคิดเห็น