- “อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์”นั่งประธานฯวาระ 2 อนุมัติโบนัสตนเองและกรรมการฯ 20 ล้านบาท ไม่ฟังเสียงทักท้วงบริหารบกพร่องเงินหาย 431 ล้าน กรรมการฯรวยสมาชิกจน เลือกตั้งใหม่กลุ่มอำนาจเก่าทั้งกรรมการฯและผู้สอบบัญชีกลับมายึดเก้าอี้เหมือนเดิม ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์เตรียมยื่นเปิดวิสามัญสู้ต่อไป
เมื่อวันที่ 13 ก.พ.63 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติ (KICE) จ.ขอนแก่น มีการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด ประจำปี 2562 ตามข้อบังคับของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นที่ 61 และ 63 โดยมีดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ฯทำหน้าที่เป็นประธานการประชุมและผู้แทนสมาชิกฯเข้าร่วมจำนวน 390 คน ถือว่าครบองค์ประชุม นอกจากนี้ยังมีสมาชิกสหกรณ์ฯครูขอนแก่นมากกว่า 100 คนเข้าร่วมสังเกตการณ์แต่ไม่มีสิทธิ์ลงคะแนน และเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังการประชุมครั้งนี้ด้วยกว่า 20 คน
ทั้งนี้มีระเบียบวาระการประชุมที่สำคัญได้แก่ รายงานงบการเงินแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุน งบกระแสเงินสด พิจารณาและจัดสรรกำไรสุทธิ ปี 2562 พิจารณาอนุมัติแผนธุรกิจสหกรณ์อนุมัติการจัดตั้งงบประมาณปี 2563 พิจารณาเลือกตั้งประธานกรรมการฯ กรรมการ ผู้ตรวจสอบกิจการฯปี 2563-2564 ผู้สอบบัญชี และพิจารณาค่าธรรมเนียมการสอบบัญชี กำหนดวงเงินกู้ยืม และการค้ำประกันของสหกรณ์ประจำปี 2563
ก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น ผู้แทนสมาชิกได้ลุกขึ้นอภิปรายเสนอให้งดการเลือกตั้งประธานกรรมการสหกรณ์ฯ คณะกรรมการฯ ตลอดจนผู้ตรวจสอบกิจการออกไปให้ก่อน เนื่องจากเห็นว่าสหกรณ์อยู่ในภาวะวิกฤตที่ต้องมีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับและระเบียบการสรรหาเลือกตั้งประธานและคณะกรรมการ
โดยเสนอให้มีแต่งตั้งรักษาการ และกรรมการไตรภาคี ขึ้นมาร่างข้อบังคับให้เรียบร้อยก่อน จึงค่อยจัดให้มีการเลือกตั้งโดยได้ชี้ให้เห็นว่า คณะกรรมการสรรหาฯจำนวน 6 คน ก็เป็นคนหน้าเดิมที่เคยเป็นกรรมการฯชุดที่แล้วถึง 4 คน และการหมดวาระของคณะกรรมการสหกรณ์ก็เหลื่อมล้ำกัน ทำให้เกิดปัญหาขึ้น โดยข้อเสนอดังกล่าวได้รับเสียงปรบมือสนับสนุนจากผู้เข้าร่วมประชุม
อย่างไรก็ตาม ดร.อนุศาสตร์ ในฐานะประธานที่ประชุมได้ขอความเห็นเป็นมติจากผู้แทนสมาชิก ปรากฎว่ามีผู้สนับสนุนให้มีการเลือกตั้งตามวาระเช่นเดิมจำนวน 137 เสียง ผู้ไม่เห็นด้วย 82 คน ประธานฯที่ประชุมจึงได้ดำเนินการตามระเบียบวาระเช่นเดิม
จากนั้นนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ ได้มีการายงานสถานการณ์เงินของสหกรณ์ฯครูขอนแก่นว่า มีเงินฝากประจำ 568,643,729.98 บาท เงินทุนรวมดำเนินการจำนวน 27,201,288,341.83 บาท ผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานประจำปี 2562 ทั้งสิ้น 1,126 ล้านบาท สำหรับแผนธุรกิจประจำปี 2563 ให้ดำเนินการตามแผนงานเดิม โดยมีผู้ตรวจสอบบัญชีคือ นายวิวัฒน์ สุดาจิต ซึ่งเป็นผู้ตรวจสอบบัญชีคนเดิม ช่วงก่อนที่จะมีการตรวจสอบว่ามีการยักยอกเงินออกจากบัญชีเงินฝากประจำของสหกรณ์ พร้อมกับขอมติที่ประขุมให้มีการปันผลจำนวน 6 เปอร์เซ็นต์ และเห็นชอบอนุมัติโบนัสให้คณะกรรมการฯจากผลกำไรจำนวน 20 ล้านบาท
ส่วนระเบียบวาระการพิจารณาเลือกตั้งประธาน ปรากฎว่าที่ประชุมได้มีมติเลือก ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ซึ่งเป็นผู้สมัครเพียงรายเดียวเป็นประธานกรรมการสหกรณ์ด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 2 ปี
จากนั้นได้พิจารณาคณะกรรมการฯแทนชุดที่หมดวาระ 6 คน ปรากฏว่า มีการลงคะแนนลงคะแนนเลือกนายสวัสดิ์ แก้วชนะ นางอภิรดี นิราศสูงเนิน นายสุพรรณ ศรีตะวัน นายวิเชียร ไกรศรีวรรธนะ นายบดินทร์ บุญลือ และนายสุพรรณ ประพาศพงษ์ เป็นคณะกรรมการดำเนินการชุดปี 2563 -2564 ซึ่งเป็นชุดที่มีส่วนผัวพันกับเงินหาย 431 ล้าน และเลือกนายฉลวย หล่องบุศรี นายสัมพันธ์ โพยนอก นายวัศนัย ล้นเหลือ นายสุรินทร์ หล้าหา และนายกวี วรรณศรี เป็นผู้ตรวจสอบกิจการ ชุดปี 2563 -2564
ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ ประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูคอนขอนแก่น เปิดเผยภายหลังการประชุมเกี่วกับความคืบหน้ากรณีการยักยอกเงินจำนวน 431 ล้าน ว่า ภายหลังที่ตนเข้ารับตำแหน่งประธานสหกรณ์ฯครูขอนแก่น ตั้งแต่เดือน ต.ค. 63 ได้ดำเนินการค้นหาข้อเท็จจริงและพิสูจน์ทราบว่ามีเงินสหกรณ์กรณ์ฯครูขอนแก่นหายไปจากบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาดินแดง (ยุบรวมเป็นสาขาฟอร์จูนทาวน์) เลขที่บัญชี 144-101918-9 กรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี 2554 โอนเงินไปบัญชีของนายเอกราช ช่างเหลา และได้มีการดำเนินการให้เซ็นยอมรับสภาพหนี้ในวันที่ 27 ธ.ค. 62 ดังที่เป็นข่าว
“ผมยืนยันกระบวนการดำเนินการทางกฎหมายยังดำเนินต่อไป ไม่เกี่ยวข้องกับการคืนเงินของนายเอกราช และคณะกรรมการฯได้ว่าจ้างทนายความให้ดำเนินคดีถึงที่สุดทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ทำให้สหกรณ์ฯครูขอนแก่นเสียหายทั้งหมด โดยเฉพาะคดีอาญาผมยืนยันว่ายอมความไม่ได้ให้เป็นไปตามกฎหมายหมาย”ดร.อนุศาสตร์กล่าว
ดร.อนุศาสตร์ กล่าวอีกว่า ส่วนการเซ็นยอมรับสภาพหนี้ของนายเอกราช ช่างเหลา ที่สมาชิกกังกวลว่า อาจส่งผลให้การสอบสวนเงินสหกรณ์ฯยุติเพียง 431 นั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะตนและคณะกรรมการฯได้ระบุไว้อย่างชัดเจนในสัญญาการเซ็นรับสภาพหนี้ว่า หากมีเงินสหกรณ์สูญหายมากกว่า 431 ล้านบาท ให้ทนายความดำเนินการเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสมาชิกทุกท่าน
“ผมและคณะกรรมการฯไม่เปิดช่องให้ นายเอกราช ช่างเหลา รอดพ้นจากคดี ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ดีที่สุดเพราะถ้าเกิดความไม่ชอบขึ้น คณะกรรมบริหารสหกรณ์ฯทั้งหมดต้องรับผิดชอบและถูกดำเนินคดี สมาชิกทุกท่านสามารถฟ้องร้องได้”ดร.อนุศาสตร์กล่าวและว่า
ตนต้องการบริหารสหกรณ์ฯเพื่อสมาชิกไม่ให้ได้รับผลกระทบจากการปันผลจึงได้หารือภายในคณะกรรมการฯว่าจะมีช่องทางอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหาเงินขาดบัญชี 431 ล้านบาท ซึ่งผลการหารือเห็นชอบให้นายเอกราช ช่างเหลา เซ็นสัญญายอมรับสภาพหนี้เพื่อกันหนี้สูญและต้องชำระให้ครบจำนวนภายในเดือน ธ.ค. 63 หากสมาชิกไม่เห็นด้วยกับมติของคณะกรรมการฯเรื่องเซ็นรับสภาพหนี้สามารถขอมติในที่ประชุมใหญ่ให้ยกเลิกสัญญาดังกล่าวได้
ด้าน ดร.วิศร์ อัครสันตติกุล ประธานชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น เปิดเผยกับ “อีสานบิซ” ว่า ในการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ฯ มีเรื่องที่สมาชิกแคลงใจเกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้สมัครประธานฯและผู้ตรวจสอบกิจการสหกรณ์ฯ ตลอดจนโบนัสของคณะกรรมการที่ได้รับไปเป็นเงิน 20 ล้านบาท เช่นเดิมกับปี 61 ทั้งที่ได้มีการทักท้วงจากสมาชิกถึงเรื่องการบริหารงานที่สร้าความเสียหายมีเงินของสหกรณ์หาย 431 ล้านบาท
“ถึงแม้จะไม่เกี่ยวข้องกับคณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดปัจจุบันโดยตรง แต่ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยเช่นกัน เพราะสหกรณ์ฯครูขนาดใหญ่อย่าง เช่น สหกรณ์ฯครูนครราชสีมาเป็นสหกรณ์ฯครูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศคณะกรรมการได้รับโบนัสเพียง 6 ล้านบาท”ดร.วิศร์กล่าวและว่า
โบนัสจำนวน 20 ล้านบาท ไม่สมควรอย่างยิ่ง สมาชิกสหกรณ์จนลงทุกวันแต่คณะกรรมการร่ำรวยมีเงินมีทองจะซ้ำเติมสมาชิกผู้เป็นเจ้าของสหกรณ์ที่แท้จริงซ้ำแล้วซ้ำอีก
ดร.วิศร์ กล่าวอีกว่า ตนได้หารือกับคณะทำงานชมรมสมาชิกสหกรณ์ฯถึงแนวทางพิทักษ์ผลประโยชน์ของสมาชิกโดยจะขอเปิดประชุมใหญ่วิสามัญสหกรณ์ฯครู เนื่องเพราะในการประชุมใหญ่ผู้แทนสมาชิกสหกรณ์ฯครูขอนแก่นวันที่ 13 ก.พ. 63 สมาชิกได้สิทธิในการแสดงความคิดน้อยเห็น จึงขอพื้นที่ต่อประธานสหกรณ์ฯครูขอนแก่นให้เปิดประชุมวิสามัญ ทั้งนี้ตนยังไม่ได้กำหนดวันเนื่องจากต้องปรึกษากับสมาชิกสหกรณ์ฯครูผู้ได้รับความเดือดร้อน
“เรื่องการปันผลสมาชิกสหกรณ์ฯครูขอนแก่นจำนวน 6 เปอร์เซ็นต์ของกำไรทั้งสิ้น 1,126 ล้านบาท ผมถามไปสมาชิกที่เข้าร่วมประชุมส่วนใหญ่ เห็นชอบให้มีการปันผลตามมติที่ประชุม และปรับลดดอกเบี้ยเพื่อลดภาระสมาชิกในคราวประชุมต่อไป”ดร.วิศร์กล่าว