แบงก์ชาติอีสาน ประสานคุยกับผู้แทนธุรกิจรายย่อยแสดงความห่วงใย พร้อมระบุไม่นิ่งนอนใจได้เสนอข้อเรียกร้องให้หน่วยงานกลาง ทั้งแบงก์พาณิชย์ทุกแห่ง สมาคมธนาคารและแบงก์ชาติสำนักงานใหญ่ทราบ เบื้องต้นน่าจะเปลี่ยนคำว่าพักชำระหนี้เป็นเลื่อนชำระหนี้
นายสมยศ พัดเกาะ ผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อย จ.นครราชีมา เปิดเผยกับ “อีสานบิซ” ว่า หลังจากที่ตนได้เข้าพบนายทรงกรด เพ็ชรนารถ ประธานชมรมธนาคารจ.นครราชสีมา เพื่อยื่นข้อเสนอมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการรายย่อย ล่าสุดเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) นายประสาท สมจิตรนึก ผอ.อาวุโสธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้โทรศัพท์มาแสดงความห่วงใย และแจ้งว่า ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ได้นิ่งนอนใจต่อข้อเรียกร้อง ของกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจรายย่อย
ทั้งนี้ผอ.อาวุโสแบงก์ชาติฯ ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ยังต้องคิดดอกเบี้ยในกรณีการพักชำระเงินทั้งต้นและดอกเบี้ย โดยให้เหตุผลว่า ธนาคารพาณิชย์ก็ต้องแบกภาระดอกเบี้ยเงินฝาก ให้กับลูกค้าเงินฝาก ซึ่งตนได้บอกว่าดอกเบี้ยเงินกู้ที่พวกตนกู้น่าจะมากกกว่าเงินฝาก
“ผอ.แบงก์ชาติฯบอกว่าที่จริงมาตรการ ข้อ 3 อาจจะใช้คำผิด ควรจะต้องใช้คำว่า”เลื่อนชำระ”แทนคำว่าพักชำระ” ซึ่งทำให้หลายคนเข้าใจผิด และด้วยเหตุผลนี้เอง เงื่อนไข ข้อ 3 จึงยังคงต้องคิดดอกเบี้ย ตลอดเวลาที่พักหนี้”นายสมยศกล่าวและว่า
ส่วนข้อเสนอที่กลุ่มตนได้ยื่นผ่าน ประธานชมรมธนาคารจ.นครราชสีมา ผอ.อาวุโสแบงก์ชาติภาคอีสานบอกว่าได้รับแล้ว และจะส่งให้หน่วยงานส่วนกลางได้แก่ 1.ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง 2.สมาคมธนาคารไทย 3.และธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานใหญ่
นอกจากนี้ตนยังเขียนข้อเรียกร้องเพิ่มเติม เป็น 4 ข้อ 1. อย่าเอาดอกเบี้ยไปทบต้น แล้วคิดดอกเบี้ย 2. ภายใน 1ปี หลังจาก การพักชำระหนี้ ดอกเบี้ย อย่าคิดเกิน 1% 3. พักชำระหนี้อย่างน้อย 1 ปี 4. ปีถัดไปปีที่ 2 ต้องใช้แต่เงินต้นก่อน โดยชำระตามที่มีกำลัง
ข้อเรียกร้องที่เพิ่มขึ้น ทั้ง 4 ข้อนี้เกิดขึ้นหลังจากได้ เข้าพูดคุยกับ ประธานชมรมธนาคารพาณิชย์ จ.นครราชสีมา ซึ่งได้แจ้งตนว่า ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้มีมติหาทางช่วยเหลือก่อนที่ทางตนจะไปยื่นข้อเรียกร้องแต่ทางยังไม่ได้ยื่นส่วนกลาง
สรุปก็คือ ถ้ามีหนังสือตอบกลับมาจากส่วนกลางแล้วจะส่งมาให้ตนพิจารณาและบอกกับตนว่า ทางธนาคารพาณิชย์ก็มีนโยบายช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจรายย่อย หรือ SME อยู่แล้ว เพียงแต่รอการอนุมัติงบจากรัฐบาล
นายสมยศกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องมาตรากรเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำหรือ ซอฟท์โลน ซึ่งน่าจะมีข้อที่ชัดเจนช่วงปลายเดือนเมษายนนี้ ตนก็เลยถามว่าเงื่อนไขการกู้ซอฟท์โลนจะเหมือนการกู้เงินที่เคยทำไหม คือ 1. ต้องใช้หลักทรัพย์หรือไม่ 2.ต้องตรวจประวัติการจ่ายคืนดอกเบี้ยไหม 3. ต้องมีคนค้ำไหม
“ผมบอกว่าถ้าต้องมี 3ข้อนี้ หาคนกู้ผ่านยาก เพราะโดนตั้งแต่จ่ายช้าแล้วและน้อยมากที่เจ้าของธุรกิจรายย่อยจะมีหลักทรัพย์มาค้ำประกันเพิ่ม”นายสมยศกล่าว
นายสมยศกล่าวอีกว่า ตนถามว่าทางธนาคารพาณิชย์มีมาตรการผ่อนปรน อย่างไร ผอ.แบงก์ชาติก็ตอบว่า การอนุมัติจะเร็วขึ้น เอกสารจะไม่ช้าเหมือนเดิม ส่วนมาตรการช่วยเหลือด้านอื่นๆต้องประชุมหารือกันก่อน ตนยืนยันว่าการพักชำระหนี้ต้องทั้งต้นทั้งดอกเบี้ย โดยจะต้องหยุดจริงๆ เช่น พัก ต้นและดอกเบี้ย 6 เดือน ไม่ใช่มีดอกเบี้ยโผล่ขึ้นมาเดือน ที่ 7 อีกโดยผอ.แบงก์ชาติอีสานก็บอกว่า หากมีความเคลื่อนไหวอะไรจากส่วนกลางจะแจ้งให้ทราบทันที
ข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้
ไม่จริงใจ หมกเม็ดนำดอกเบี้ยทบเงินต้น เพิ่มภาระให้ผู้กู้ รวมกลุ่มวางหรีดดำไว้อาลัย
ธนาคารไม่จริงใจ!! หมกเม็ดนำดอกเบี้ยทบเงินต้นเพิ่มภาระให้ผู้กู้…สัมภาษณ์ คุณสมยศ พัดเกาะ
Posted by อีสานบิซ on Wednesday, April 15, 2020