ผู้เฒ่าโคราชเตรียมเฮ!!ผู้ว่าฯ-อัยการ – คลัง เร่งช่วย 610 รายที่ถูกเรียกคืนเงินเบี้ยชรา

ผู้ว่าโคราช อัยการ​ ท้องถิ่น​ คลังจังหวัด​ หารือข้อกฏหมาย​ ช่วยเหลือผู้สูงอายุ 610 ราย ที่ถูกเรียกคืนเงินเบี้ยชรา  เตรียมเสนอแนวทางแก้ไขให้รัฐบาลพิจารณา
วันนี้(1 ก.พ.64) ที่ห้องประชุมสำนักงานคลังจังหวัด ชั้น 1 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เรียกประชุมท้องถิ่นจังหวัด อัยการจังหวัด ยุติธรรมจังหวัด คลังจังหวัด เข้าหารือเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้สูงอายุ ทั้ง 610 ราย ที่ถูกเรียกเบี้ยผู้สูงอายุคืนย้อนหลัง โดยนายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการสำรวจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา พบจำนวนผู้สูงอายุที่แจ้งในระบบสารสนเทศที่ได้รับสวัสดิการจากภาครัฐซ้ำซ้อนกับเบี้ยผู้สูงอายุ จำนวน 610 ราย โดยมีจำนวนเงินที่รับเกินสิทธิ์จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 26,952,157,.86 บาท สถานการณ์เรียกคืนเงินเบี้ยผู้สูงอายุจากผู้ไม่มีสิทธิ์ ดำเนินการแล้ว จำนวน 195 ราย เป็นเงิน 7,802,898.86 บาท อยู่ระหว่างการดำเนินการ 285 ราย เป็นเงิน 15,026,896 บาท ยังไม่ดำเนินการ 89 ราย เป็นเงิน 3.792,300 บาท ไม่เบิกจ่าย 41 ราย รวม 610 ราย
สำหรับแนวทางการให้ความช่วยเหลือ จะต้องแบ่งออกเป็นกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มผู้สูงอายุที่ไม่สามารถหาเงินมาคืนได้ตามระเบียบ ซึ่งต้องมาดูรายละเอียดว่าสาเหตุที่ไม่สามารถนำเงินมาคืนได้มาจากสาเหตุใด เช่น เป็นผู้สูงอายุ อยู่ตัวคนเดียว ส่วนอีกกลุ่มคือกลุ่มที่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จะต้องหาวิธีช่วยเหลือ เช่นการผ่อนชำระหรือไม่ ซึ่งจะต้องหารือกับหน่วยงานด้านกฎหมายและศึกษาถึงกฎระเบียบให้ชัดเจน หากมีการศึกษาข้อกฎหมายแล้วมีแนวทางที่สามารถช่วยเหลือผู้สูงอายุทั้งหมดได้ ทางจังหวัดก็จะให้คำแนะนำและช่วยเหลือทันที ผู้สูงอายุทั้งหมดถือว่าน่าสงสารและรับเงินไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ ซึ่งการหารือทั้งหมด จะเสนอแนวทางการช่วยเหลือไปทางกระทรวงมหาดไทย อย่างไรก็ตาม ท่านนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยให้ทางจังหวัดหาข้อมูลและเสนอแนวทางที่พอจะเป็นไปได้ไปให้ทางกระทรวงมหาดไทยพิจารณาทั้งนี้ผู้สูงอายุควรรอฟังข่าวดีทางภาครัฐไม่นิ่งนอนใจและจะหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับทุกฝ่าย นายวิเชียร กล่าว
นางวันเพ็ญ อำพาส คลังจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 30 ม.ค.64 นางนิโลบล แวววับศรี รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง ได้ชี้แจงกรณีมีคนชรารับเงินเบี้ยยังชีพคนชราและเงินบำนาญซ้ำซ้อนกันกว่า 15,000 คนทั่วประเทศ โดยจังหวัดนครราชสีมา มีจำนวน 610 คน ว่า กรมบัญชีกลาง ไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ตรวจสอบความซ้ำซ้อน โดยเรื่องดังกล่าวมาจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้ส่งข้อมูลเลขบัตรประชาชน 13 หลักมาให้กรมบัญชีกลาง ซึ่งทำหน้าที่ดูแลระบบจ่ายเงินกลางให้รัฐบาล ช่วยตรวจสอบว่าข้อมูลบุคคลเหล่านั้นมีการรับเงินบำนาญ หรือบำนาญพิเศษหรือไม่ ซึ่งเมื่อกรมตรวจเสร็จก็ได้ส่งกลับไปให้กรมส่งเสริมการปกครองฯ ตามจำนวนใกล้เคียงกับที่เป็นข่าว
ส่วนจะมีการรับเบี้ยคนชราซ้ำซ้อนกับเงินบำนาญ หรือบำนาญพิเศษ หรือไม่นั้น เป็นขั้นตอนที่กรมส่งเสริมการปกครองฯ จะนำข้อมูลที่ได้รับจากกรมบัญชีกลาง ไปตรวจสอบกับฐานข้อมูลการจ่ายเบี้ยคนชราเองว่า มีการซ้ำซ้อนกันหรือไม่ ซ้ำซ้อนตั้งแต่เมื่อไร และมีจำนวนเงินซ้ำซ้อนกี่บาท ที่สำคัญการขอเรียกเบี้ยคนชราคืน เป็นอำนาจของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ไม่ใช่อำนาจของกรมบัญชีกลาง เพราะกรมบัญชีกลางทำหน้าที่ตัวกลางในการสั่งจ่ายเงิน ตามรายชื่อและงบประมาณที่กรมส่งเสริมการปกครองฯ แจ้งมาให้เท่านั้น
ที่มา>>สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดนครราชสีมา
แสดงความคิดเห็น