ความคืบหน้าการการก่อสร้างมอเตอร์เวย์สายบางปะอิน-นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม. วงเงิน 8.46 หมื่นล้านนั้น ในปัจจุบัน มีความคืบหน้าประมาณ 94% การก่อสร้างจะล่าช้าออกไปประมาณ 6 เดือน เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องการปรับแบบโครงการฯ จำนวน 17 ตอน มีความล่าช้า ส่งผลให้การเสนอขออนุมัติวงเงินปรับแบบที่เพิ่มขึ้นจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ล่าช้าตามไปด้วย ซึ่งเดิมจะเสนอ ครม. ตั้งแต่เดือน ม.ค. 2564
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งรวบรวมผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ คาดว่าจะเสนอให้ ครม. พิจารณาภายใน มิ.ย.นี้ ส่วนวงเงินที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้น อยู่ระหว่างการหารือกับกรมบัญชีกลาง ทั้งนี้ ยืนยันว่า วงเงินที่เพิ่มขึ้น น้อยกว่า 6,800 ล้านบาท และยังอยู่ในกรอบวงเงินก่อสร้างที่ ครม.เคยอนุมัติไว้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังยืนยันอีกว่า การปรับแบบทั้ง 17 ตอนดังกล่าว เป็นไปตามหลักวิศวกรรม และมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพความเป็นจริงในปัจจุบันที่เปลี่ยนไปจากผลการศึกษาเมื่อปี 2555 นอกจากนี้ ยังเป็นไปตามการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบฯ ซึ่งประกอบด้วย อาจารย์จากสถาบันอุดมศึกษา 12 สถาบัน รวมถึงสภาวิศวกร และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.)
ทั้งนี้การก่อสร้างงานโยธามอเตอร์เวย์ สายบางปะอิน-นครราชสีมา ตามแผนเดิมจะแล้วเสร็จประมาณปลายปี 2565 แต่เมื่องานล่าช้าออกไปนั้น คาดว่า งานก่อสร้างจะแล้วเสร็จ และสามารถเปิดให้บริการได้ครบตลอดทั้งเส้นทางประมาณกลางปี 2566 สำหรับความคืบหน้าการลงนามสัญญาการก่อสร้างงานระบบ พร้อมการดำเนินงานและบำรุงรักษา (O&M) มอเตอร์เวย์ บางปะอิน-นครราชสีมา ซึ่งกลุ่มกิจการร่วมค้าบีจีเอสอาร์ นำโดยบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะการประมูลนั้น เบื้องต้นจะรอให้ ครม. อนุมัติวงเงินปรับแบบที่เพิ่มขึ้นก่อน หากเห็นชอบภายใน มิ.ย.นี้ ก็จะสามารถดำเนินการลงนามสัญญา O&M ภายใน มิ.ย.นี้เช่นกัน นอกจากนี้ การยืนยันราคาของเอกชน ที่จะครบกำหนดใน มิ.ย.นี้ หากมีการเปลี่ยนแปลง เอกชนสามารถขอขยายการยืนยันราคาออกไปได้อีกครั้งละ 3 เดือน ซึ่งไม่กระทบกับราคาที่ชนะการประมูล
