“บิ๊กโจ๊ก” ลุยโคราชจัดเต็มคาราเบลเอาผิด 3 ข้อหา “ครูเทียม” ครูเพลงรายการทีวีชื่อดังล่อลวงเยาวชนชาย 16 ปี ทำอนาจาร 

“บิ๊กโจ๊ก” ลุยโคราชจัดเต็มคาราเบลเอาผิด 3 ข้อหา “ครูเทียม” ครูเพลงรายการทีวีชื่อดังล่อลวงเยาวชนชาย 16 ปี ทำอนาจาร
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 3 มกราคม ที่ศูนย์ปฏิบัติการ สภ.จักราช อ.จักราช จ.นครราชสีมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ต.สมพจน์ ขอมปรางค์ รอง ผบช.ภาค 3 และ พ.ต.อ คเชนทร์ เสตะปุตตะ รอง ผบก.ภ.จ.นครราชสีมา ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) นครราชสีมา ,มูลนิธิเอทเวนตี้วันประจำประเทศไทย,มูลนิธิสปริงค์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้ากรณีนายชุติเดช ทองอยู่ หรือครูเทียม อายุ 60 ปี ประกอบอาชีพคอมเมนท์เตเตอร์ 3 รายการชื่อดัง ประกอบด้วยชิงช้าสวรรค์,ไมค์ทองคำ,สงครามไมค์และออกแบบท่าเต้นให้กับนักร้องและแดนซ์เซอร์จากรายการทีวีชื่อดังก่อเหตุล่วงละเมิดทางเพศเยาวชนผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 รายการ ซึ่งผู้ปกครองของเยาวชนผู้เสียหายได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษตามกระบวนการ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยพฤติการณ์ของคดีว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน 65 ที่ผ่านมา ผู้ปกครองได้นำนายจักร (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ. จักราช เพื่อแจ้งความโดยกล่าวหานายชุติเดช หรือครูเทียม อายุ 60 ปี ได้พานายจักร เยาวชนผู้เสียหายไปกระทำอนาจารที่ห้องพักในพื้นที่ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวมาเป็นลำดับ โดยสั่งการให้ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภาค 3 พล.ต.ต.อิทธิพล นาคคำ ผบก..จ.นครราชสีมาและ พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ พรหมหมื่นไวย ผกก.สภ.จักราช ดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดรอบคอบ เนื่องจากเป็นคดีที่มีความเกี่ยวข้องกับบุคคลมีชื่อเสียงได้กระทำทางเพศต่อเด็กซึ่งสังคมให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
จากการสืบสวนนายจักร ผู้เสียหายเป็นนักเรียนและอยู่ในวงดนตรีของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่งได้รู้จักและติดต่อกับนายชุติเดช หรือครูเทียม เนื่องจากทราบเป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีความน่าเชื่อถือ เมื่อวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา นายจักรได้นัดหมายกับนายชุติเดช หรือครูเทียม ให้เดินทางมารับที่บ้านพักในพื้นที่ อ.จักราช จ.นครราชสีมา เพื่อพาไปศึกษางานและช่วยหางานให้ทำ โดยนายชุติเดช หรือครูเทียมได้ขับรถยนต์มารับแล้วพาไปที่ห้องพักในพื้นที่ ต.ยายแย้มวัฒนา อ.เฉลิมพระเกียรติ และได้กระทำอนาจารโดยกอดจูบใช้มือจับอวัยวะเพศของผู้เสียหายและพยายามซุกใบหน้าไปที่หว่างขาแต่ผู้เสียหายขัดขืนจึงไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้พาผู้เสียหายมาส่งที่บ้าน ต่อมานายจักร ได้แจ้งให้ผู้ปกครองทราบและได้แจ้งความร้องทุกข์ เจ้าหน้าที่ได้สั่งการให้ชุดปฏิบัติการ TICAC สนับสนุนการปฏิบัติและได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของนายชุติเดช พร้อมนำตัวมาพบพนักงานสอบและแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีในความผิดฐาน “พรากผู้เยาว์อายุกว่า 15 ปีแต่ไม่เกิน 18 ปีไปเสียจากบิดา มารดา ผู้ปกครองหรือผู้ดูแล โดยปราศจากเหตุสมควรเพื่อการอนาจาร,พาผู้อื่นไปเพื่อการอนาจารโดยใช้อุบายหลอกลวงขู่เข็ญใช้กำลังประทุษร้ายใช้อำนาจครอบงำผิดครองธรรมหรือใช้วิธีข่มขืนใจด้วยวิธีอื่นใด,กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่า 15 ปี โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้หรือทำให้บุคคลนั้นเข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น”
ทั้งนี้ได้ดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ได้รับการลงโทษ ขอฝากเป็นข้อคิดกรณีได้รับการชักชวนหรือติดต่องานกับคนแปลกหน้าแม้ว่าจะเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงขอให้ระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลโดยละเอียดและแจ้งผู้ปกครอง เพื่อให้คำปรึกษาและดูแลอย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้ตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาผลประโยชน์ทางเพศต่อ หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว ผู้เป็นแม่ของผู้เสียหายได้นำกระเช้าดอกไม้มาแสดงความขอบคุณ พล.ต.อ สุรเชษฐ์ รอง ผบ.ตร ที่ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัว
นครราชสีมา/เกษม ชนาธินาถ 086 6486006
แสดงความคิดเห็น