จ.ขอนแก่นจับมือ 5 หน่วยงานลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ค้นหาคัดกรองช่วยเหลือนร.นำร่อง3อำเภอตั้งเป้า1ปี ไม่ต่ำกว่า 48,000คน
วันที่ 13 สิงหาคม 2562 ที่โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น นายสันติ เหล่าบุญเสงี่ยม รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานในการลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา ของจังหวัดขอนแก่น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างจังหวัดขอนแก่นกับหน่วยงานในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,ศึกษาธิการจังหวัด,สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และมหาวิทยาลัยขอนแก่น ท่ามกลางบุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรในทุกสังกัด เข้าร่วมเป็นสักขีพยานและรับทราบแนวทางการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวกว่า 500 คน
สำหรับ แผนการดำเนินงานดังกล่าวจะจัดการในระยะเริ่มต้น 1 ปี โดยจังหวัดได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายในการดำเนินงานคือในพื้นที่3 อำเภอได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น อำเภอน้ำพอง และ อำเภอชนบท โดยคณะทำงานหลักคือบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งครูในสังกัดสำนักงานการศึกษานอกระบบ หรือที่เราเรียกว่าครู กศน. และครูในสังกัดของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขององค์กรการปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งที่จากนี้ไปจะเป็นกองหน้าตัวรุกของจังหวัดทำการจัดเก็บข้อมูลของเด็กในพื้นที่ทั้ง 3 อำเภอ โดยจะเป็นการสำรวจใหม่ทั้งหมด ด้วยการจัดเก็บข้อมูลในระบบแอพพลิเคชั่น ที่ถูกออกแบบขึ้น มีการจัดเก็บข้อมูลใหม่ทั้งหมด ที่เรานับหนึ่งวันนี้ และใน 1 ปี พื้นที่นำร่อง 3 อำเภอนั้นจะต้องมีฐานข้อมูลในกลุ่มเด็กในระดับปฐมวัย โดยครูที่รับผิดชอบจะต้องกรอกข้อมูลของเด็กแต่ละคน ในระบบแอพพลิเคชั่น ที่กำหนดไว้ และที่สำคัญคือการเก็บภาพถ่ายทั้งภาพของเด็กและสภาพบ้านของเด็ก ตามหลักเกณฑ์เพื่อที่จะได้ทราบถึงความเสมอภาคของเด็กที่จะผลต่อการต่อยอดตามการดำเนินงานโครงการการสร้างกลไกลความร่วมมือในการสร้างความเสมอภาคและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา
และที่สำคัญคือเป็นการติดตามช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาตามความต้องการและเหมาะสม เพราะระบบดังกล่านี้จะเป็นการคัดกรองกลุ่มเด็กว่ามีความพร้อมหรือความต้องการอะไรบ้างที่หน่วยงานรัฐจะเข้าไปทำการช่วยเหลืออย่างไรก็ตามการดำเนินงานดังกล่าวนี้และ 1 ปีจากนี้ไป มีการวางเป้าหมายในการสำรวจข้อมูลในพื้นที่ 3 อำเภอที่จะมีเด็กที่รับการบันทึกข้อมูลด้วยระบบดังกล่าว 48,000 คน และใน 3 ปีจากนี้จะสามารถจัดเก็บข้อมูลเด็กในระดับปฐมวัยได้ในภาพรวมทั้ง 26 อำเภอเพื่อให้จังหวัดขอนแก่นมีความความเสมอภาคทางการศึกษา