อิทธิพลพายุ “โพดุล” ส่งผลดีต่อนาข้าวที่กำลังขาดน้ำ นอกจากนั้นยังมีน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์วันเดียวเกือบ 3 ล้าน ลบ.ม. ช่วยเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนในอ่าง
หลังกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับ 9 เรื่องพายุโซนร้อน “โพดุล” ซึ่งเป็นพายุระดับ 3 ได้เคลื่อนตัวเข้าสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทยบริเวณ จ.นครพนม ในเช้าวันที่ 30 ส.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในทุกภาคของประเทศพบว่า ที่ จ.ขอนแก่น อิทธิพลของพายุ “โพดุล” ส่งผลให้มีฝนตกหนักและน้ำหลากท่วมพื้นที่ อ.บ้านไผ่ จนทำให้ถนนมิตรภาพถูกตัดขาด แต่ในอีกด้านหนึ่งฝนที่ตกลงมาจำนวนมากเหนือพื้นที่รับน้ำ และมีน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มขึ้น ตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.เป็นต้นมา มีน้ำไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์ถึง 4.31 ล้าน ลบ.ม.และเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เป็น 5.80 ล้าน ลบ.ม. จากปกติที่จะมีน้ำไหลเข้าเขื่อนเฉลี่ยเพียง 1.40 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้นโดยเฉพาะในวันนี้ (2 ก.ย.62) พบว่า มีน้ำไหลเข้าเขื่อนมากที่สุดถึง 8.76 ล้าน ลบ.ม. ส่งผลให้เขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณน้ำเก็บกัก 568 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 23.36% สามารถรองรับน้ำได้อีก 1,863 ล้าน ลบ.ม. น้ำที่ไหลเข้าจำนวนมากนี้ช่วยให้ปริมาณน้ำใช้งานติดลบน้อยลงอยู่ที่ -13.63 ล้าน ลบ.ม. หรือ -0.74% ส่วนการระบายน้ำของเขื่อนยังคงระบายที่วันละ 5 แสน ลบ.ม. เพื่อใช้ในการอุปโภคบริโภค ผลิตน้ำประปา และ รักษาระบบนิเวศน์ในลำน้ำพอง แต่ไม่สามารถใช้เพื่อการเกษตร
นายพิพัทต์ คงสินทวีสุข ผอ.โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ให้สัมภาษณ์กับ77ข่าวเด่นว่า “ปัจจุบันเราต้องใช้น้ำก้นอ่างไปแล้ว 14 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งปริมาณน้ำก้อนนี้จะใช้เพื่อแก้ปัญหากรณีที่ฝนแล้ง ไม่มีน้ำมาเติมในอ่าง แต่หากใช้ไปจนหมด ในปีหน้าหากเกิดปัญหาฝนทิ้งช่วงขึ้นมา เราจะขาดปริมาณน้ำสำรองที่จะใช้ได้เมื่อพูดถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันก็ถือว่า ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด แต่เขื่อนอุบลรัตน์เคยพบสถานการณ์น้ำน้อยที่สุดในปี 2536 ในปีนั้นมีน้ำในอ่างเพียง 13% ถือว่าน้อยที่สุดตั้งแต่ก่อสร้างเขื่อนมา รองลงไปคือปี 2537 มีน้ำเพียง 14% มีน้ำในเขื่อนประมาณ 300 กว่าล้าน ลบ.ม. ในปี 2536 เราต้องใช้น้ำก้นอ่างไปถึง 166 ล้าน ลบ.ม. แต่ปัจจุบันใช้น้ำก้นอ่างไปแล้ว 14 ล้าน ลบ.ม. ตอนนี้ก็ติดตามสถานการณ์ซึ่งโดยปกติในภาคอีสานจะมีฝนตกชุกในเดือน ส.ค. ก.ย. และ ต.ค. ก็คาดว่า จะมีฝนตกและมีน้ำมาเติมในเขื่อนมากขึ้น
ขณะนี้ทางเขื่อนได้ติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิดและได้มีการทำงานประสานกับทุกภาคส่วนและคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำ จ.ขอนแก่น ในการบริหารน้ำที่มีอยู่ไม่มากให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ก็ขอฝากประชาชนทุกท่านขอให้เชื่อมั่นว่า ทางเขื่อนสามารถจ่ายน้ำเพื่อการผลิตน้ำประปาได้อย่างเพียงพอ ไม่มีปัญหาขาดน้ำอย่างแน่นอน” นายพิพัทต์ กล่าว
นอกจากนี้ยังมีมีรายงานว่า ปริมาณฝนที่ตกลงมาเพิ่มขึ้นขณะนี้ช่วยให้ต้นข้าวในพื้นที่ อ.อุบลรัตน์ ที่ขาดน้ำมานานเริ่มกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังประสบปัญหาฝนทิ้งช่วงจนทำให้นาข้าวเสีย หายหลายร้อยไร่
ที่มาhttps://www.77kaoded.com