“โพดุล”ถล่มกาฬสินธุ์ทำน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาว

อิทธิพลพายุโพดุลถล่มกาฬสินธุ์ ทำน้ำไหลเข้าเขื่อนลำปาว ชาวบ้านงง?..ชลประทานเร่งระบายทำน้ำท่วม 10 ชุมชนหรือกลัวอ่างแตก เหตุสร้างมากว่า 60 ปี แล้วไม่เคยได้รับการปรับปรุงแก้ไข หรือเกิดจากการบริหารจัดการน้ำผิดพลาด จนทำให้เกิดปัญหาท่วมซ้ำซาก

จากการติดตามผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโพดุล ซึ่งทำให้เกิดฝนตกหนักในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์อย่างหนักในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบ ทั้งน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลัน ตลอดจนบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายจำนวนมาก โดยเฉพาะบ้านเรือนประชาชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์กว่า 1,500 ครัวเรือนยังถูกน้ำท่วมขังเข้าสู่เป็นวันที่ 4 แล้ว และล่าสุดยังมีฝนตกซ้ำลงมาในพื้นที่ตลอดทั้งคืน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแหล่งกักเก็บน้ำต่างๆ เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะเขื่อนลำปาว ซึ่งมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างล่าสุดมากถึง 61 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ปริมาณน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 948 ล้าน ลบ.ม.จากความจุ 1,980 ล้าน ลบ.ม.คิดเป็น 47 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งยังสามารถรับน้ำได้อีกกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม. โดยทางเขื่อนลำปาวได้หยุดการระบายน้ำและส่งน้ำเข้าคลองชลประทานในช่วงนี้

สำหรับสถานการณ์ของอ่างเก็บน้ำห้วยสีทน ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลางที่ตั้งอยู่เขต อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ที่เป็นสาเหตุหลักทำให้เกิดน้ำท่วม ปริมาณน้ำยังล้นอาคารระบายน้ำ และทางโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ยังคงติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่หลายเครื่อง เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากอ่างลงสู่แก่งดอนกลาง ซึ่งยังส่งผลกระทบทำให้ประชาชนภายในเขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ 10 ชุมชน บ้านเรือนประชาชนกว่า 1,500 ครัวเรือน ถูกน้ำท่วมขังเป็นบริเวณกว้าง และขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากมีฝนตกลงมาซ้ำอีกตลอดทั้งคืนทำให้ประชาชนเดือดร้อนอย่างหนัก โดยระดับน้ำหลายจุดยังท่วมสูง และทรงตัว

อย่างไรก็ตามสำหรับปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ที่เกิดจากการระบายน้ำของอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนครั้งนี้ ประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมหลายคนเกิดความสงสัยว่า เหตุใดทางโครงการชลประทานกาฬสินธุ์ จะต้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ และเร่งระบายลงมาสู่แก่งดอนกลางมากจนทำให้น้ำท่วมขยายวงกว้างมากขึ้น แทนที่จะนำเครื่องสูบน้ำเข้ามาช่วยสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังผลักดันน้ำออกสู่ลำน้ำปาว เพื่อลดระดับน้ำ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า หรือเป็นเพราะทางเจ้าหน้าที่เกรงว่าสันอ่างและตัวอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนจะไม่สามารถรองรับน้ำปริมาณมากได้จนเกิดการแตกได้ เนื่องจากอ่างเก็บน้ำห้วยสีทนนั้นได้ดำเนินการก่อสร้างมานานกว่า 60 ปีแล้ว ถือเป็นอ่างเก่าแก่ แต่กลับไม่ได้มีการปรับปรุงหรือพัฒนา เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกักเก็บน้ำในช่วงหน้าฝน เกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซากทุกครั้งเมื่อมีพายุเข้าหรือฝนตกหนักในพื้นที่ ส่วนในช่วงหน้าแล้งน้ำก็ไม่เพียงพอจนต้องขอน้ำจากเขื่อนลำปาว

นอกจากนี้ชาวบ้านยังตั้งข้อสังเกตว่า สาเหตุหลักที่น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชนครั้งนี้นอกจากปริมาณฝนที่ตกหนักในพื้นที่แล้ว ก่อนที่พายุโพดุลจะเข้ามาและมีฝนตกไม่กี่วัน ทางโครงการชลประทานได้ขอน้ำจากเขื่อนลำปาวเติมเข้าอ่างห้วยสีทนจำนวน 2 ล้าน ลบ.ม.จากความจุที่รับได้ 3.50 ล้าน ลบ.ม.จากนั้นมีฝนตกลงมาซ้ำทำให้ปริมาณน้ำล้นอ่าง และทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ซึ่งอาจเป็นเพราะการบริหารจัดการน้ำที่เกิดความผิดพลาดของชลประทาน โดยเฉพาะการวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ หรือการเช็คข้อมูลพายุจากกรมอุตุนิยมวิทยา จึงเกิดคำถามว่าเหตุใดทางชลประทานจึงเติมน้ำเข้าอ่างจำนวนมากถึง 2 ล้าน ลบ.ม.ในครั้งเดียว ทำไมไม่เติมน้ำในปริมาณที่พอดี หรือไม่ทราบเลยว่าจะมีพายุโพดุลเข้ามา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยตรวจสอบ และช่วยเหลือแก้ไขปัญหาระยะยาวด้วยอาจจะเป็น

ที่มาhttps://www.innnews.co.th

แสดงความคิดเห็น