ขอนแก่นเตือนฝุ่นพิษ ชักธงสีแดง อากาศแย่ สีฟ้า อากาศดี

จ.ขอนแก่นร่วมกับสิ่งแวดล้อมภาค 10 จัดหนักรับมือฝุ่น PM2.5 PM10 และ O3 เน้นให้โรงเรียน “ชักธงเตือนภัย” สีแดง อากาศแย่ สีฟ้า อากาศดี  

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2562 จังหวัดขอนแก่นร่วมกับ สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาค10 จัดพิธี “ชักธงเตือนภัยและประชุมเชิงปฎิบัติการใช้ข้อมูลดาวเทียมเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ” เพื่อเตือนภัยมลพิษทางอากาศ สู่สาธารณะ มีการเตรียมความพร้อม สำหรับการใช้ชีวิตประจำวัน เพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยมี ดร.สมศักดิ์ จังตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่นเป็นประธาน ที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 10

ดร.สมศักดิ์ ผู้ว่าฯขอนแก่น กล่าวว่า สถานการณ์ฝุ่นที่จังหวัดขอนแก่นล่าสุด(7 ต.ค. 62) คุณภาพอากาศดีมาก สำหรับพิธี “ชักธงเตือนภัยและประชุมเชิงปฏิบัติการใช้ข้อมูลดาวเทียมเฝ้าระวังคุณภาพอากาศ” ในวันนี้ เพื่อให้ประชาชนได้ตระหนัก รับรู้คุณภาพอากาศ  และขอขอบคุณคณะทำงานแก้ไขและตอบโต้ปัญหามลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง PM2.5 PM10 และ O3

สำหรับมาตรการเฝ้าระวังนั้น จังหวัดขอนแก่น มีการประชุมและได้ขอความร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อให้โรงเรียนทุกโรงเรียน เฝ้าดูคุณภาพอากาศ และชักธงสีต่างๆตามภาพอากาศในพื้นที่ของเขา บางพื้นที่อาจเป็นธงสีแดง ซึ่งมีคุณภาพอากาศแย่ บางพื้นที่จะมีคุณภาพอากาศดีเยี่ยม เป็นธงสีฟ้า แต่ละพื้นที่จะได้เรียนรู้และมีวิธีการจัดการเตรียมรับกับสภาวะที่มีฝุ่นละออง

นอกจากนี้ยังให้ท้องถิ่นทุกแห่ง ฉีดล้างถนนเป็นประจำเพื่อลดฝุ่นละออง ที่ฟุ้งกระจายจากการใช้รถใช้ถนน

และแนวทางการป้องกันเรื่องฝุ่นพิษซึ่งเราเพิ่งประชุมหารือกันล่าสุด คือทางท้องถิ่นจะต้องมีการควบคุมการก่อสร้าง เพื่อไม่ให้ฝุ่นละอองจากการก่อสร้างฟุ้งกระจายไปในอากาศ การควบคุมรถควันดำ ทุกประเภท และมีการแจ้งเตือนไปที่โรงงานต่างๆที่จะต้องดูแลคุณภาพของเครื่องยนต์  เครื่องจักร ที่เขาผลิตแล้วอาจ จะมีควันเกิดขึ้น

แจ้งเตือนไปยังผู้ผลิตอ้อย ที่สำคัญปีนี้เราโชคดี ประธานสภาอุตสาหกรรมเข้าไปมีส่วนร่วม นำรถตัดอ้อยที่เหมาะสมไปใช้แต่ละพื้นที่ ซึ่งปกติร่องอ้อยต่างประเทศจะประมาณ 1.8 เมตร แต่บ้านเราจะถนัดปลูกกันที่ 1 เมตรบ้าง 1.20เมตรบ้างทำให้เรานำเอารถตัดของต่างประทศนำมาใช้ไม่ได้

นอกจากนี้เรายังจะมีการประชุมเพื่อเตรียม จุดเซฟตี้โซน หากเกิดคุณภาพอากาศแย่มากๆ

การคาดการณ์สภาพอากาศเรายังคาดการณ์เหมือนกับปีที่แล้ว เนื่องจากสภาพอากาศปีที่แล้วค่อนข้าแห้งแล้ง ปีนี้ก็เช่นกัน เพราะฉะนั้นความแห้งแล้งก็อาจจะเป็นจุดหนึ่งที่จะทำให้ดินหรือฝุ่นละอองแห้ง แล้วฟุ้งกระจายได้มากขึ้น

ฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ปลูกอ้อยด้วยว่า ขอความร่วมมือในการที่จะตัดอ้อยสด และให้โรงงานน้ำตาลนั้นได้มีมาตรการด้วยในการที่จะให้บริการกับลูกค้า ที่ตัดอ้อยสด เป็นอันดับแรก ส่วนอ้อยที่เผานั้นก็ขอให้ความสำคัญน้อยลงไป เพื่อที่จะให้เขาปรับตัว จากการเผา มาตัดอ้อยสด รวมถึงขอความร่วมมือไปกับ โรงงานผลิตไฟฟ้าชีวมวล อาจจะซื้อใบอ้อยที่เขาตัดที่ไม่เกิดจากการเผาด้วย

ในส่วนระยะยาว 3ปีนี้ เริ่มตั้งแต่มิถุนายน 2562 เราจะปลูกต้นไม้ไม่ต่ำกว่า 3 ล้านต้น ซึ่งขณะนี้ เราปลูกได้2แสน7พันต้นแล้ว เราจะยังปลูกต้นไม้เช่นนี้ไปเรื่อยๆให้คืนสู่สภาพอากาศที่ดีขึ้น

แสดงความคิดเห็น