พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร นำคณะร่วมงานการค้าระหว่างประเทศ – การท่องเที่ยวและการลงทุนยุติธรรมของระเบียงเศรษฐกิจแนวตะวันออก – ตะวันตก (EWEC International Trade, tourism and Investment fair 2019) ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการ นครดานัง ประเทศเวียดนาม พร้อมศึกษาดูงานเส้นทาง EWEC ด้านตะวันออกสาย R9 จากสปป.ลาวสู่เส้นทาง R 1 ที่เมืองกวางตรี พร้อมร่วมผลักดันรถส่วนตัว 2 เมืองคู่แฝด 2 ประเทศ ไทย – เวียดนาม สามารถขับเข้าสู่เมืองชายแดนทั้งสองเมืองได้ เพื่อรองรับการค้าการท่องเที่ยวระหว่าง 2 เมือง 2 ประเทศ
นางจันทิภา ปัทมเสวี พาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จากการนำคณะไปร่วมงานที่เมืองดานังประเทศเวียดนาม ทำให้เห็นว่าเส้นทางเศรษฐกิจ EWEC ในเวียดนามกลางมีการพัฒนาด้านการค้า การลงทุนด้านการท่องเที่ยวเติบโตสูงมาก เห็นได้จากการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกรอบด้าน มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวปรับแต่งแสงสีของบ้านเมืองให้สดใส โครงสร้างรูปแบบสิ่งก่อสร้างที่ทันสมัยมากขึ้น และจากการเข้าพบผู้ว่าเมืองกวางตรีซึ่งเป็นเมืองคู่แฝดกับมุกดาหาร ได้จับมือร่วมผลักดันรถยนต์ท่องเที่ยวสามารถเข้าสู่พื้นที่เมืองคู่แฝดทั้ง 2 เมือง
เส้นทางสาย EWEC ออกจากมุกดาหาร – สะหวันนะเขต สปป.ลาว ถึงด่านชายแดนลาว – เวียดนาม ระยะทาง 245 กิโลเมตร จากด่านชายแดนลาวเข้าพื้นที่ประเทศเวียดนามกลาง บนเส้นทาง R9 ตลอดระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตรเข้าสู่เมืองดานัง จะเห็นการพัฒนาของทุกพื้นที่มีความเติบโตอย่างก้าวกระโดด พัฒนาด้านการเกษตรและประมงสมัยใหม่ โดยใช้หลักวิชาการ และเทคโนโลยี่ เข้ามาช่วยเพิ่มผลผลิตด้านการเกษตร ทำพืชเกษตรตามความต้องการของตลาด
“มุกดาหารบ้านเรา ควรพัฒนาเขตเศษฐกิจพิเศษที่รัฐบาลคาดหวังให้โต พัฒนาการท่องเที่ยวของท้องถิ่นชุมชน ให้มีความโดดเด่นหลากหลาย เล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์แหล่งท่องเที่ยวในพื้นที่มุกดาหารให้น่าสนใจ สร้างเรื่องสะกิดความความอยากรู้ที่มาของก้อนหินที่วางทับซ้อนกันเป็นรูปทรงแปลกบนภูผาเทิบ ให้ท่องเที่ยวเมื่อได้ฟังต้องเกิดความสงสัยฝังใจที่จะมาศึกษาค้นคว้า การจัดกิจกรรมท่องเที่ยวลักษณะเชื่อมโยงให้หลากหลาย ด้านธรรมมะ ธรรมชาติ วัฒนธรรม เชิงประวัติศาสตร์ หรือ การท่องเที่ยวเชิงกีฬา นำมาเชื่อมโยงให้ครอบคลุมข้ามไปถึงประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อมาเที่ยวมุกดาหารสามารถสัมผัสได้ถึง 2 ประเทศไทย – ลาว “สะหวันอยู่ข้างหน้า”
นางสาวรุจาภา วีสเพ็ญ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า จะเห็นการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวของประเทศเวียดนาม สิ่งก่อสร้างรับการท่องเที่ยวจึงเห็นบ้านเมืองเขาเจริญอย่างรวดเร็ว เขาเล็งเห็นประโยชน์ช่องทางการค้าและการท่องเที่ยวบนเส้นทางสาย EWEC ที่เชื่อมต่อถึง 4 ประเทศ จากทิศตะวันออกเมืองดานังผ่านแขวงสะหวันนะเขต สปป.ลาว เข้าสู่จังหวัดมุกดาหาร ประเทศไทย ออกด่านแม่สอด จ.ตาก เข้าสู่เมืองเมาะละแหม่ง ประเทศพม่า จะพบเห็นนักท่องเที่ยวนานาชาติเดินทางสู่ประเทศเวียดนามจำนวนมาก ส่งผลให้มีรายได้จากการท่องเที่ยวสูงมากๆ
ทั้งการสร้างกระเช้าลอยฟ้าขึ้นสู่ยอดเขาบานาฮิลล์มีความยาวถึง 5,801 เมตร สูง 1,368 เมตร เป็นกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวและสูงที่สุดในโลก ข้ามเขาทีเดียว 3-4 ลูก สู่แหล่งท่องเที่ยวบนเขาสูงติดตัวเมือง เป็นสถาปัตยกรรมที่สร้างขึ้นให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวบนยอดเขา ในรูปทรงปราสาทโบราญสไตล์ฝรั่งเศส อาคารทุกหลังถูกออกแบบอย่างอลังการหรูหราสวยงามยิ่ง มีจุดเช็คอินใหม่ๆเกิดขึ้นบนแหล่งท่องเที่ยวแห่งนี้ตลอด มีสะพานชมวิวอ้อมหน้าผาโค้งกว้างวางอยู่บนมือสีทองลอยฟ้ามีความยาว 150 เมตร เป็นจุดชมทิวทัศน์และถ่ายรูปของนักท่องเที่ยว มีเครื่องเล่นสมัยใหม่ให้บริการเป็นที่สนุกสนาน ลานกลางแจ้งแสดงวัฒนธรรมนานาชาติด้วยจังหวะเสียงเพลงกระหึ่มเร้าใจผู้ผ่านพบ เป็นสถานที่ดึงดูดความสนใจของหญิงชายทุกวัยทุกชนชั้นที่เดินมาตามเสียงที่ได้ยิน พร้อมเคาท์เตอร์อาหารเครื่องดื่มนานาชนิดไว้รองรับกระจายทุกจุด
สำหรับมุกดาหารเรามีวัดมโนรมย์ที่อยู่ในตัวเมือง ดังนั้น จึงมีความเหมาะสมที่จะสร้างกระเช้าลอยฟ้า เชื่อมต่อขึ้นไปบนภูและสถานที่ท่องเที่ยวตลาดริมโขงในตัวเมือง ชุมชนท้องถิ่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนทุกฝ่ายต้องหารือ จัดทำยุทธศาสตร์การท่องเที่ยว ในช่วงเทศกาล และสถานที่สำคัญ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว เดิมมุกดาหารมียอดนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมปีละ 2 ล้านคน เราต้องลงมือกระตุ้นให้เพิ่มมากขึ้นโดยเร็ว กระเช้าลอยฟ้าจะเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง สามารถสร้างเศรษฐกิจของจังหวัดมุกดาหารให้เติบโตขึ้นได้ ประชาชนในท้องถิ่นมีงานทำจากนักท่องเที่ยวทำให้มีเม็ดเงินกระจายในชุมชน ทุกคนมีหน้าที่การงานทำที่มั่นคงยั่งยืน ความสุขจะเกิดขึ้นทุกครัวเรือน
เวียดนามพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวพื้นที่เดิมแบบเก่าๆ ขายความเป็นโบราณสร้างจุดขายให้เป็นที่สนใจของนักท่องเที่ยว เช่นเมืองฮอยอัน พระราชวังที่เมืองเวห์ขายความเก่าเล่าเรื่องประวัติศาสตร์ ทุกวันจะมีท่องเที่ยวนานาชาติแวะเวียนเยี่ยมชมวันละหลายหมื่นคน เราเห็นการปรุงแต่งพัฒนาบ้านเมืองให้มีความสวยงามความศิวิไลน์ เพื่อรองรับการท่องเที่ยวจึงสามารถดึงเงินเข้าสู่ประเทศได้มหาศาล ตึกอาคารบ้านเรือนของทุกเมือง มีการประดับตกแต่งไฟแสงสีระยิบระยับเลิศหรูตระการตา โดยรัฐบาลเวียดนามมีนโยบายปลุกเมืองให้ตื่นในยามค่ำคืน เพื่อขายการท่องเที่ยวแก่ผู้มาเยือน เป็นเหตุให้ทุกค่ำคืนร้านอาหารร้านกินดื่มจะมีผู้คนเข้าออกกันเนืองแน่น