เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำ รัฐบาลลุงตู่จึงดิ้นร้นหาโครงการต่างๆมาแก้ไข และหนึ่งในโครงการที่มาแรงคือ โครงการ ชิม ช้อป ใช้
โครงการนี้มีความชัดเจนในชื่อแล้ว ชิม คืออยากให้คนออกไปกิน ข้าวนอกบ้านกันมากๆเป็นกากระตุ้นให้เกิดความคึกคัก ช้อป คืออยากให้ทุกคนไปจบจ่ายกันเยอะๆร้านค้าจะได้คึกคัก และ ใช้ ใช้เงินในการเดินทางเพื่อให้การท่องเที่ยวที่เงียบเหงา คึกคักขึ้น นี่คือวัตถุประสงค์หลักของโครงการนี้
ลุงตู่ใจดี
โครงการนี้ใช้ระบบรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ตั้งเป้า 10 ล้านคน มีผู้สนใจเกินความคาดหมาย ถือว่าประสบผลสำเร็จ กลุ่มเป้าหมายจะได้รับเงิน 10,000ล้านคน คือตกคนละ 10,00 บาท โดยมีเงื่อนไขการใช้เงินตามที่รัฐบาลกำหนดไว้ คือใช้ได้เฉพาะร้านที่เข้าร่วมโครงการ เงิน 10,000ล้านบาททำให้ตลาดคึกคักได้จริงๆ ทุกร้านที่เข้าร่วมโครงการพอใจในยอดขาย ที่มีประชาชนแห่มาจับจ่ายใช้สอย เหตุที่คึกคักเพราะการใช้เงินมีกำหนดเวลาไม่ใช้จะมดสิทธิ์
ใช้ปลาซิวตกกุ้ง
เงิน1,000บาทที่ลุงตู่แจกให้ ยังมีโปรโมชั่นอีกถ้าออกไปใช้ในต่างจังหวัดตามเงื่อนไขแล้ว เชื่อว่าคนที่ไปต้องจ่ายเงินจากกระเป๋าของตัวเองรัฐบาลจัดโปรโมชั่น จ่ายเกิน 30,000 บาท จะได้เงินคืน 15% เม็ดเงินจำนวนนี้อาจสูงถึง 100,000 ล้านบาท นี่คือกลยุทธ์ที่น่าสนใจว่าจะเป็นจริงคาไหน เพราะคนที่รับเงิน 1,000 บาท จะมีกำลังซื้อตามที่โครงการคาดหวังหรือเปล่า?
ความคาดหมาย
รัฐบาล คาดว่าจะช่วยกระตุ้นGDP ให้โตได้ 0.3% เพราะเงินที่เกิดจากกระเป๋า1,000 บาท จะทำให้เกิดการใช้เงินอีกหลายหมื่นบาท
คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ภาคเอกชนด้านเศรษฐกิจ เชื่อว่าแรงเหวี่ยงของเงิน1,000 บาท จะเกิดการใช้จ่ายเพิ่ม จะทำให้GDP โตได้ประมาณ 0.1% เพราะเชื่อว่าคนที่ได้ 1,000 บาท จำนวน 10 ล้านคน คงไม่มีกำลังซื้อได้ตามที่รัฐบาลคาดหมาย
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) นักวิชาการด้านเศรษฐศาสตร์ ได้คาดว่า GDP จะโตแค่ 0.01%เพราะสภาพเศรษฐกิจยังไม่เอื้อให้ประชาชนกล้าใช้จ่ายแม้นจะมีเงินตั้งต้น 1,000 บาท ในกระเป๋าก็ตาม
โครงการนี้ต้องรอสรุปหลังจบโครงการ มีข่าวว่า ชิม ช้อป ใช้ เฟส2 กำลังจะตามมา หากผลของเฟส1 เป็นไปตามคาดหมาย
ความเป็นจริงของเศรษฐกิจในขณะนี้
กระทรวงการคลัง มีมติขยายการขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มหรือVATจาก7%เป็น8%จะขยายไปอีก1 ปี
กนง.คณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติ 7ต่อ 0 ให้คงอัตราดอกเบี้ย พื้นฐานไว้เท่าเดิม
ทั้งสองหน่วยงานนี้มีเหตุผลเหมือนกันคือ เศรษฐกิจของประเทศยังอยู่ในขาลง