พล.ต.ท.เจริญวิทย์ ศรีวนิชย์ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ขอนแก่น ได้รับแจ้งจากว่า จะมีกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด ซื้อขายยาบ้ากันที่ริมถนนเลี่ยงเมือง ใกล้ทางเข้ามิโกะรีสอร์ท พื้นที่ตำบลศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและวางแผนจับกุม โดยวางกำลังซุ่มใกล้กับทางเข้ารีสอร์ทดังกล่าว กระทั่งมีรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีดา ทะเบียน ขข-1710 ขอนแก่น มาจอดข้างทาง ลักษณะตรงตามที่พลเมืองดีให้ข้อมูลไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวเข้าตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 2,000 เม็ด ในเบื้องต้นนายสุเทพ รับสารภาพว่ายาบ้าดังกล่าวเป็นของนายจ้างชาว สปป.ลาว ทั้งยังมีบางส่วนเก็บไว้ที่คอนโดแห่งหนึ่งในเมืองขอนแก่น
” กำลังเจ้าหน้าทีตำรวจจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นที่ห้องพักในคอนโดดังกล่าว พบยาบ้า จำนวน 60 มัด และ 3 ถุงซุกในตู้เสื้อผ้าภายในห้องพัก รวมกับสมุดบัญชีรายชื่อลูกค้าอีก1 เล่ม มีรายชื่อลูกค้ากว่า 100 ราย เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงทำการยึดไว้เป็นของกลาง”
ผบช.ภ.4 กล่าวต่ออีกว่า ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพเพิ่มเติมอีกว่า เป็นลูกจ้าง ที่รับจ้างจากเอเย่นยาบ้าชาวสปป.ลาวชื่อนายสวัสดี ไม่ทราบนามสกุล เพื่อทำหน้าที่ส่งยาบ้าตามคำสั่งของนายสวัสดี โดยจะได้รับค่าจ้างในราคามัดละ 2,000 บาท และก่อนจะมารับจ้างส่งยาบ้านั้น ผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมในคดียาเสพติด ในปี 2554 ติดคุกที่เรือนจำจังหวัดพล จ.ขอนแก่นและได้รับการปล่อยตัว เมื่อเดือน ก.พ.2557 ในขณะติดคุกนั้นมีเพื่อนชื่อ นายเก๋ แนะนำให้รู้จักกับนายสวัสดีชาวลาว เมื่อรู้จักกันก็รับจ้างทำงานให้นายสวัสดี ทำหน้าที่ส่งยาบ้าให้กับลูกค้าในพื้นที่ขอนแก่น และอุดรธานี
“‘ยาบ้าที่ถูกจับกุมพร้อมผู้ต้องหาในครั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การว่า มียาบ้าจำนวน 3 มัด หรือ 6,000 เม็ด เป็นยาบ้าที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษตะกั่ว แต่ผู้ต้องหาบอกว่า เป็นยาบ้าที่มีคุณภาพตำกว่าที่ห่อหุ้มด้วยกระดาษสีน้ำตาล ลูกค้าจำนวน 3 รายที่รับยาบ้าไปแล้วนำมาส่งคืนและแลกเอายาตัวใหม่ ที่มีสัญลักษณ์สิงโตเหยียบโลกไปแทน ส่วนยาบ้า3 มัดที่คุณภาพต่ำกว่านี้ ผู้ต้องหากำลังจะส่งให้ลูกค้าใน ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น ส่วนที่เหลือเป็นยาบ้าเกรดเอคุณภาพดี ที่ผู้ต้องหาจะทยอยส่งให้ลูกค้าในพื้นที่อุดรธานี และขอนแก่น ซึ่งยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้แต่ละมัดจะมีตราสิงโตคู่เหยียบโลกประทับอยู่ ซึ่งจากข้อมูล บช.ปส และ ป.ป.ส. พบว่ายาบ้าที่บรรจุหีบห่อลักษณะดังกล่าว ไม่มีเคยมีการจับกุมในประเทศไทยมาก่อน และยากต่อการที่เครื่องสแกนจะตรวจพบได้ จึงเชื่อได้ว่าเป็นยาบ้าที่นำเข้ามาใหม่ ซึ่งในพื้นที่ของตำรวจภูธรภาค 4 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจเข้มในทุกจุด เพื่อจับกุม กลุ่มผู้ค้าและผู้ที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาดำเนินการตามกฎหมายให้ได้มากที่สุด ส่วนยาบ้าที่จับกุมได้ในครั้งนี้ทั้งหมด 122,600 เม็ด รวมมูลค่า 12,260,000 บาท”
ผบช.ภ.4 กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าภายหลังการจับกุมและสอบสวนรายละเอียดทั้งหมด โดยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา จึงตั้งข้อกล่าวหาว่า มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย พร้อมทั้งควบคุมตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป