“ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงษ์” นำคณะกรรมการไตรภาคีแจ้งความตำรวจตามล่าผู้กระทำผิดฐานยักยอกทรัพย์เงินสหกรณ์ครูฯ 400 ล้านบาท ปลอมแปลงเอกสารทำงบดุลเท็จและเข้าข่ายฟอกเงิน เปิดชื่อ “เอกราช ช่างเหลา” ส.ส.ระบบบัญชีนสยชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นหนึ่งใน 4 ผู้มีอำนาจลงนามถอนเงินและขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการในการจัดทำงบการเงินที่เป็นเท็จร่วมกับหัวหน้าฝ่ายการเงินและสำนักงานตรวจสอบบัญชีเอกชน
เมื่อเวลา 10.30 น. ดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงษ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด พร้อมด้วยนายทนงศักดิ์ วังสงค์ ผู้จัดการสหกรณ์ฯ นายอุดม สงวนชม นายไพทูรย์ พิมพ์ทอง ผู้แทนชมรมสมาชิกสหกรณ์ ฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการไตรภาคีที่จัดตั้งขึ้นตามมติของที่ประชุมใหญ่วิสามัญสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.ที่ผ่านมา และนายสุธน สอนตำแก้วทนายความที่ได้รับมอบอำนาจ
เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อร.ต.ท.จิรกฤต พินิจ รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองขอนแก่น ให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดกรณีปลอมแปลงเอกสารและใช้เอกสารปลอมในการยักยอกเงินในบัญชีเงินฝากประจำ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง ซึ่งเปลี่ยนเป็นสาขาเทสโก้ โลตัส ฟอร์จูนทาวน์ ชื่อบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เลขที่ 144-101918-9 และนำมาบันทึกบัญชีเพื่อจัดทำรายงานกิจการประจำปีของสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ประจำปี 2561
เป็นเหตุให้สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ได้รับความเสียหายจึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ โดยได้มอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ใบสำคัญจดทะเบียนสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่นจำกัด รายงานประจำปี 2561 ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ชุดที่ 57 ครั้งที่ 31/2561 เหตุเกิดที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เลขที่ 432 บ้านหนองกุง หมู่ 2 ถนนมิตรภาพ ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น ระเบียบวาระการประชุมคณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ชุดที่ 57 ครั้งที่ 34 วันที่ 3 ธ.ค.2562
สำเนาสมุดเงินฝากประจำ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง ซึ่งเปลี่ยนเป็นสาขาเทสโก้ โลตัส ฟอจูนทาวน์ ชื่อบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด เลขที่ 144-101918-9 สำเนารายงานการประชุมคณะกรรมการชุดที่ 48 วันที่ 23 ส.ค.2553 รายงานสรุปยอดเงินประจำวันวันที่ 16 ส.ค.2554 รายงานสรุปยอดเงินประจำวัน 29 ส.ค.2555 และรายละเอียดใบแจ้งรายงานธนาคารกรุงไทย สาขามอดินแดง เลขที่ 438-0-090817
ร่างบันทึกคำให้การโดยสรุประบุว่า เมื่อวันที่ 4 ส.ค.2553 คณะกรรมการดำเนินงานสหกรณ์ ได้มีมติให้มีการเปิดบัญชีเงินฝากประจำ ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง เลขที่ 144-101918-9 โดยผู้มีอำนาจในการลงลายมือชื่อถอน 3 ใน 4คน ประกอบด้วย นายสมศักดิ์ โคตวงศ์ นายนิวัตร นิราศสูงเนิน นายเอกราช ช่างเหลา และนายนพรัตน์ สร้างนานอก โดยนำเงินเข้าฝากครั้งแรกจำนวน 748,000,000 (เจ็ดร้อยสี่สิบแปดล้านบาทถ้วน)
ขณะที่การทำรายงานงบการเงินประจำปี 2561 ฝ่ายบัญชีสหกรณ์ฯ คือ นางมยุรี แพงสอน หัวหน้าฝ่ายบัญชี เป็นผู้มีหน้าที่ในการจัดทำบัญชี นายเอกราช ช่างเหลา ผู้จัดการสหกรณ์ และนายวิวัฒน์ สุดาจิต เป็นผู้ตรวจสอบและรับรองบัญชี ซึ่งเป็นงบแสดงฐานะการเงิน ณ วันที่ 31 ธ.ค.2561 เงินสดและเงินฝากธนาคารแสดงด้วยยอด 898,096,378.04 โดยอ้างถึงหมายเหตุประกอบงบการเงินที่ 2 และรายละเอียดประกอบงบการเงิน หมายเหตุที่ 2 (หน้า 50 รายงานประจำปี 2561) ปรากฎว่ายังมีบัญชีเงินฝากประจำจำนวเงิน 427,136,498.98 บาท
ทั้งนี้ในวันที่ 25 พ.ย.2562 คณะกรรมการดำเนินงานได้ตรวจสอบเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาถนนดินแดง เลขที่ 144-101918-9 ปรากฎว่าเจ้าหน้าที่ธนาคารฯแจ้งว่าไม่สามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากสมุดที่ปรับยอดนั้นไม่ตรงกับสมุดของธนาคาร และระบุว่าหากจะตรวจสอบยอดต้องให้บุคคลที่มีอำนาจ 3 ใน 4 คน ตั้งแต่ครั้งเปิดบัญชีครั้งแรกดำเนินการ
เมื่อคณะกรรมการดำเนินงานชุดปัจจุบัน ได้ตรวจสอบจึงทราบว่า ตั้งแต่มีการเปิดบัญชีไม่มีการเปลี่ยนแปลงลายมือชื่อ ผู้มีอำนาจถอนเงินจากบัญชีเป็นอย่างอื่นจนถึงปัจจุบัน คณะกรรมการฯจึงได้ขอใบแจ้งรายการเงินฝากประจำ ปรากฎว่ามียอดเหลือเพียง 78,924.94 บาท(เจ็ดหมท่นแปดพันเก้าร้อยยี่สิบสี่บ้านเก้าสิบสี่สตางค์) ซึ่งไม่ตรงกับยอดรายงานงบการเงิน โดยมีจำนวนเงินขาดหายไปจำนวน 427,057,574 บาท (สี่ร้อยยี่สิบเจ็ดล้านห้าหมื่นเจ็ดพันห้าร้อยเจ็ดสิบสี่บาทถ้วน) ปรากฎตามรายงานการประชุมคณะกรรมการชุดที่ 57 ครั้งที่ 31/2562
นอกจากการนี้ในการตรวจสอบพบว่า มีการถอนเงินออกไปเข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขามอดินแดง เลขที่บัญชี 438-0-09081-7 แต่มี 2 รายการที่ไม่สามารถตรวจสอบที่ไปของเงินได้ คือ ยอดที่ถอนวันที่ 16 ส.ค.54 จำนวน 296 ล้านบาท และยอด 100 ล้านบาท รวมเป็นเงินจำนวน 396 ล้านบาท จึงขอให้พนักงานสอบสวนตามอำนาจหน้าที่
หากพบผู้ที่บังอาจกระทำความผิดให้นำตัวมาลงโทษตามกฎหมายฐานปลอมแปลงเอกสาร ยักยอกทรัพย์และความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือความผิดอื่นตามที่ได้ความจากการสอบสวนและขอให้เรียกเงินคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยคืนให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ครูต่อไป
พ.ต.อ.ภาคภูมิ พิศมัย ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบรายละเอียดของการแจ้งความของคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น คงจะต้องขอดูข้อมูลว่ามีพยานหลักฐานอะไรมาแจ้งบ้างและเป็นความผิดทางอาญาหรือไม่เป็นรูปแบบของการทำคดีโดยทั่วไป เราจะตรวจสอบดูว่ามีใครรับผิดชอบในช่วงเวลาไหนอย่างไรบ้าง
“บุคคลที่ปรากฎมีชื่อเป็นนักการเมืองก็ไม่ได้มีผลอะไร พนักงานสอบสวนก็จะดำเนินการตามหน้าที่ แต่ต้องขอดูพยานหลักฐานให้รัดกุม การวางแผนการสอบสวนว่ามีใครเกี่ยวข้องบ้างในช่วงใด และทางตำรวจภาค4 จะตั้งคณะกรรมการฯเข้ามาดูแล หรือจะให้ระดับจังหวัดหรือโรงพักดูแลเองขอเวลาผมดูรายละเอียดและนิดครับ”พ.ต.อ.ภาคภูมิพิศมัยกล่าว