ทีพีเอ็น เดินหน้าขยายท่อน้ำมันอีสาน คาดแล้วเสร็จปี’64 ลดขนส่งน้ำมันกว่า 200,000 เที่ยว/ปี

รมว.พลังงานร่วมวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันขอนแก่น  เดินหน้าขยายท่อน้ำมันอีสาน คาดแล้วเสร็จปี’64  ลดขนส่งน้ำมันกว่า 200,000 เที่ยว/ปี สร้างงาน สร้างรายได้ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น  

ภาพปชส.ขอนแก่น

วันนี้ (5 ก.พ. 63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน พร้อมด้วย ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น นายกัมพล ตติยกวี ประธานกรรมการบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด (ทีพีเอ็น – TPN) และหัวหน้าส่วนราชการภาครัฐ แขกผู้มีเกียรติ ร่วมกันประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมัน บริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ณ สถานที่ก่อสร้างคลังน้ำมัน หมู่ 8 ต.เมืองเพีย อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น โดยมีการประกอบพิธีสงฆ์ ประกอบพิธีบวงสรวงเทวดา บูชาฤกษ์ วางแผ่นอิฐทอง อิฐนาค อิฐเงิน ในหลุมศิลาฤกษ์ หลังจากนั้นประกอบพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการพัฒนาคลังน้ำมันขอนแก่นให้ระบบขนส่งน้ำมันทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภาพปชส.ขอนแก่น

 นับตั้งแต่บริษัท TPN ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ให้ดำเนินการขยายท่อขนส่งน้ำมันในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพื่อประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นแก่ความมั่นคงทางพลังงานของประเทศในอนาคต โดยการขยายระบบท่อขนส่งน้ำมันภาคพื้นดินในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด มีระยะทางทั้งสิ้น 342 กิโลเมตร ผ่าน 70 ตำบล 22 อำเภอ 5 จังหวัด เริ่มจาก อ.เสาไห้ จ.สระบุรี มาสิ้นสุดที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และมีการก่อสร้างคลังน้ำมันปลายทาง อ.บ้านไผ่ขนาด 140 ล้านลิตร ซึ่งเมื่อระบบขนส่งแล้วเสร็จจะสามารถลดปริมาณการขนส่งน้ำมันทางรถบรรทุกลงไป 200,000 เที่ยว/ปี หรือคิดเป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร/ปี ลดการใช้เชื้อเพลิงในการขนส่ง 21 ล้านลิตร/ปี ซึ่งจะเป็นการลดการเกิดฝุ่นละออง PM 2.5 ลงไปได้มาก ที่สำคัญ คลังน้ำมันแห่งนี้จะเกิดประโยชน์ต่อชุมชนโดยรอบและประชาชนในท้องถิ่นจากการสร้างให้แก่พี่น้องที่อยู่ใกล้เคียง และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้จากธุรกิจที่เกี่ยวข้องต่อเนื่องอื่นๆอีกมาก จึงเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่นโดยตรง

ภาพปชส.ขอนแก่น

 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน กล่าวว่า ในพิธีวางศิลาฤกษ์คลังน้ำมันของบริษัท ไทย ไปป์ไลน์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ในวันนี้ ซึ่งนับเป็นอีกก้าวที่สำคัญของการดำเนินงานด้านพลังงานเพื่ออนาคต หลังจากที่บริษัท ได้ดำเนินการขยายระบบการขนส่งน้ำมันทางท่อ ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติที่ต้องการให้ทั้งภาครัฐหรือเอกชนขยายท่อส่งน้ำมันไปยังระดับภูมิภาคมากขึ้น เพื่อความมั่นคงทางพลังงาน ลดต้นทุนการขนส่ง ทำให้ราคาน้ำมันในภูมิภาคใกล้เคียงกับราคาน้ำมันในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ ยังช่วยลดปัญหาการจราจรรวมถึงลดอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นบนท้องถนนจากการขนส่งด้วยรถยนต์ พร้อมทั้งการลดปริมาณการปล่อยฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งเป็นปัญหาในระดับชาติ กระทรวงพลังงานจึงได้ส่งเสริมให้ภาคธุรกิจดำเนินการขนส่งน้ำมันทางท่อในภูมิภาคสำคัญๆ เพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์ในการกระจายน้ำมันเชื้อเพลิงสู่ภูมิภาคและกลุ่มประเทศอาเซียน เพื่อต้องการยกระดับไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านพลังงานของประเทศอาเซียน

ภาพปชส.ขอนแก่น

ที่มา:PR.KHONKAEN ปชส.ขอนแก่น

 

แสดงความคิดเห็น