ผศ.อาวุธ ยิ้มแต้ รองอธิการบดีฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยขอนแก่น เผยว่า น้ำที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นใช้อยู่เริ่มต้นจากชลประทานหนองหวายบริเวณน้ำพอง มาตามคลองส่งน้ำ ซึ่งเป็นคลองคอนกรีตเสริมเหล็กระหว่างทางจะมีผู้ใช้น้ำ ดึงน้ำไปใช้อยู่ตลอดส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่นถือเป็นปลายทางจึงได้รับผลกระทบในกรณีที่ขาดน้ำ ชลประทานหนองหวายส่งน้ำในคลองประมาณ 200,000 ลูกบาศก์เมตร มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ใช้น้ำจริง 70,000 ลูกบาศก์เมตรปัญหาคือเราได้น้ำในปริมาณที่น้อยและก็คุณภาพค่อนข้างจะแย่เมื่ออยู่ปลายทาง เนื่องจากจะมีพวกสาหร่าย น้ำที่รับมาจะถูกเก็บอยู่ในสถานีสูบน้ำ โรงผลิตน้ำประปา และสระพลาสติก ซึ่งมีความสามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 50,000 ลูกบาศก์เมตรเศษ
“ในส่วนของมหาวิทยาลัยขอนแก่นที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาของน้ำ ด้วยสถานการณ์น้ำในปัจจุบันทำให้ชลประทานหนองหวายสามารถส่งน้ำมาให้มหาวิทยาลัยขอนแก่นสัปดาห์ละ 1 วัน แต่มหาวิทยาลัยขอนแก่นมีความต้องการใช้น้ำอยู่ประมาณ 70,000 ลูกบาศก์เมตร ต่อ 7 วัน ซึ่งปัจจุบันความจุของการกักเก็บน้ำทั้งหมดของมหาวิทยาลัยขอนแก่นสามารถเก็บน้ำได้ประมาณแค่ 6 วัน ก็คือประมาณ 60,000 ลูกบาศก์เมตรจึงต้องบริหารจัดการการใช้น้ำเพื่อจะให้เพียงพอ”
มหาวิทยาลัยขอนแก่นจึงมีแนวนโยบายการบริหารจัดการน้ำ โดย 1. ลดแรงดันจ่าย การลดแรงดันจ่ายจะทำให้ปริมาณที่รั่วไหลลดน้อยลง โดยวิธีนี้จะกระทบกับผู้ใช้น้ำน้อยที่สุด 2. หาพื้นที่กักเก็บน้ำให้มากขึ้นเร่งด่วนคือขุดรอกตรงหนองโกทา เพื่อให้มีความจุที่มากขึ้น คาดว่าความจุมากขึ้นราวร้อยละ 20 ถึง 30 ของที่มีอยู่ 3. เหนือสิ่งอื่นใด การแก้ไขภัยแล้งที่ยั่งยืน คือรณรงค์แคมเปญเพื่อกระตุ้นให้บุคลากร นักศึกษา ในมหาวิทยาลัยขอนแก่น ช่วยกันประหยัดน้ำ ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม แม้ ณ เวลานี้เรายังไม่ถึงขั้นขาดแคลนน้ำ แต่ คิดว่าในเวลาอันใกล้อาจมาถึงวิธีนี้ยั่งยืนที่สุด หากดำเนินครบตาม 3 วิธีหลัก มหาวิทยาลัยขอนแก่นจะมีความเสี่ยงในเรื่องของการประสบปัญหาภัยแล้งก หรือการขาดน้ำน้อยมาก”
ที่มา:ประชาสัมพันธ์มหาวิทยาลัยขอนแก่น