นายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน สาธารณสุขนิเทศก์และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข และนายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป แถลงข่าวความคืบหน้าสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ว่า ประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่กำหนดให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตาม พ.ร.บ. โรคติดต่อ พ.ศ.2558 มีผลบังคับใช้ในวันนี้ (1 มี.ค.63)
เน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังและการแจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ กรณีพบผู้ป่วยหรือสงสัยว่าป่วย ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ซึ่งต้องรายงานภายใน 3 ชั่วโมง หากฝ่าฝืนจะมีความผิด โดยปรับไม่เกิน 20,000 บาทล่าสุด สถานการณ์วันนี้ มีผู้ป่วยยืนยันรักษาหายกลับบ้านได้ 2 ราย
รายที่ 1 เป็นชายชาวจีน อายุ 33 ปี
รายที่ 2 เป็นเด็กหญิงไทย อายุ 3 ขวบ ทั้งคู่รักษาอยู่สถาบันบำราศนราดูร
รายที่ 1 เป็นชายชาวจีน อายุ 33 ปี
รายที่ 2 เป็นเด็กหญิงไทย อายุ 3 ขวบ ทั้งคู่รักษาอยู่สถาบันบำราศนราดูร
ในส่วนผู้ป่วยอาการหนัก 2 ราย ขณะนี้เสียชีวิต 1 ราย เป็นชายไทย อายุ35 ปี ผู้ป่วยรายนี้ ป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก ต่อมามีการติดเชื้อโควิด-19 ร่วมด้วย ถูกส่งต่อมาจาก รพ.เอกชน รักษาที่ สถาบันบำราศนราดูร ทำการรักษาด้วยยาต้านไวรัสที่ดีที่สุด ตรวจไม่พบเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ 16 กุมภาพันธ์ 2563 หลังจากรักษาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือน ด้วยสภาพปอดที่เสื่อมแต่เดิม หัวใจและอวัยวะภายในทำงานหนัก ทำให้อวัยวะภายในหลายระบบล้มเหลว (Multiorgan failure) จึงเสียชีวิตในที่สุด
ทั้งนี้ เนื่องจากตรวจไม่พบเชื้อแล้ว ดังนั้น สาเหตุแห่งการเสียชีวิตจะเกี่ยวกับโควิด-19 หรือไม่ จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการวิชาการ (ภายใต้คณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ) ต่อไป ส่วนอีก 1 ราย ที่มีการติดเชื้อวัณโรคร่วมด้วย ตรวจไม่พบเชื้อต่อเนื่องเป็นเวลา 1 สัปดาห์แล้ว ยังอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด
สรุปขณะนี้ มีผู้ป่วยยืนยันที่รักษาหายแล้ว 30 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 11 ราย เสียชีวิต 1 ราย รวมยอดผู้ป่วยสะสม 42 ราย ส่วนการกระจายหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชนในวันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.63) ที่กระทรวงสาธารณสุข เป็นไปตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้ประชาชนที่หาซื้อไม่ได้นำไปใช้สำหรับตนเองและครอบครัว เพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย สำหรับป้องกันเชื้อโรคตามความจำเป็น โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การเภสัชกรรมบริจาคให้ประชาชน
ทั้งนี้ หน้ากากอนามัยที่แจกฟรีให้ประชาชนเป็นคนละส่วนกับที่จัดสรรให้กับสถานพยาบาล ซึ่งมีแผนการจัดสรรชัดเจนตามความต้องการที่แจ้งผ่านมายังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและเขตสุขภาพ ต้องมีเพียงพอต่อการใช้งานในการบริการผู้ป่วย
ส่วนกรณีที่เป็นข่าวการพบเชื้อไวรัสโคโรนาในสุนัข ยังไม่มีรายงานในประเทศไทยแต่อย่างใด อยู่ระหว่างเฝ้าระวังและค้นหาข้อมูลทางวิชาการเพิ่มเติม ขอแนะนำให้เจ้าของ ผู้ดูแลสุนัข รักษาความสะอาดของทั้งผู้เลี้ยงและสุนัข และหมั่นล้างมือบ่อยๆ หลังสัมผัสสุนัข
แสดงความคิดเห็น