เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้องประชุมอาคารพุทธศิลป์(ริมบึงสีฐาน) มหาวิทยาลัยขอนแก่น โดยมี รศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เป็นประธานในการประชุม มีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับเครือข่ายชมรมหมอลำเรื่องต่อกลอน
ศ.ดร. นิยม วงศ์พงษ์คำ รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรมและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า จากมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 กระทรวงสาธารณสุข ได้รายงานสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง พบว่ามีผู้ติดเชื้อดังกล่าวแล้วเป็นจำนวนมาก และโรคติดเชื้อนี้ยังได้แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วไปยังหลายประเทศในภูมิภาคต่างๆของโลกประกอบกับคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 2/2563 วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2563 เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ให้เพิ่มโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่ออันตรายลำดับที่ 14 ตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ. 2558
มหาวิทยาลัยขอนแก่น เล็งเห็นถึงความสำคัญและสนองต่อนโยบายของรัฐบาล จึงได้เรียนเชิญเครือข่ายพี่น้องหมอลำเรื่องต่อกลอนมาร่วมประชุมและขอความร่วมมือในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยขอให้คณะหมอลำปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น การสัมผัสกับมิตรรักแฟนเพลง เพื่อป้องการการติดเชื้อ และการปฏิบัติตัวตามมาตรการของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น รวมถึงการให้ความรู้กับผู้เข้าชมหมอลำ ก่อนรับชมการแสดง เป็นต้น และขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องหมอลำดูแลสุขภาพ ให้อดทนและปรับตัว เพื่อให้เราผ่านพ้นวิกฤติในครั้งนี้ไปด้วยกัน
ด้าน นายภรภัทร สัตตรัตนพลดล จากคณะหมอลำ ใจเกินร้อย กล่าวว่า คณะหมอลำใจเกินร้อยในวันนี้ได้มีโอกาสมารับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีโรคระบาดเกิดขึ้น ทางคณะหมอลำของเราก็ยังไม่มีนโยบายที่ควบคุมหรือมาตรการป้องกันใดๆ หลังจากที่โรคนี้มีแนวโน้มที่จะอันตรายมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ส่งผลกระทบเกี่ยวกับเรื่องงานเป็นอย่างมากทั้ง เจ้าภาพหลายงานยกเลิกคิวงานทำให้วงขาดรายได้ ซึ่งก็เชื่อว่าคณะหมอลำ หรือ ศิลปินหลายคน เจอวิกฤติแบบนี้เช่นกัน ผู้จ้างงานเกิดความกังวลในเรื่องของการใช้สถานที่ที่จะใช้ในการแสดง ซึ่งอาจจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น
สำหรับมาตรการของเราคือ จะให้ความรู้กับสมาชิกของวงก่อนทั้ง การป้องกัน การดูแลตนเอง และจะงดการสื่อสารกับแฟนเพลงด้วยการสัมผัสลง อีกทั้งยังให้ความรู้ก่อนการแสดงให้แก่ประชาชน เพราะประชาชนบางกลุ่มหรือในชุมชนอาจไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลหรือไม่มีความทั่วถึง จึงจำเป็นที่เราจะต้องนำวิกฤตนี้มาเป็นโอกาสในการประชาสัมพันธ์ ให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไป