ผู้ว่าขอนแก่นเผยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 1,216 ราย พ้นระยะกักตัว 14 วันยืนยันไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19

ผู้ว่าขอนแก่นเผย ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง 1,216 ราย พ้นระยะกักตัว 14 วันยืนยันไม่พบผู้ติดเชื้อ พร้อมคุมเข้มมาตรการคัดกรองผู้โดยสารทางรถโดยสาร รถไฟ และเครื่องบิน ป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 ยอดผู้ติดเชื้อ 2 ราย รักษาหายกลับบ้านแล้ว 1 ราย

เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 63  ที่สถานีรถไฟขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่สถานีรถไฟขอนแก่น เพื่อตรวจติดตามการดำเนินมาตรการคัดกรองสุขภาพผู้โดยสารที่เดินทางโดยรถไฟ โดยมีเจ้าหน้าที่ บุคลากรด้านสาธารณสุข ทหาร ตำรวจ และจิตอาสาร่วมปฏิบัติงาน และอำนวยความสะดวกประชาชนผู้เดินทาง

เมื่อผู้โดยสารเดินทางมาถึงยังสถานี จะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง โดยมีการตรวจวัดอุณหภูมิ การแจกเอกสารแบบ ขก.-1 การล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ การประชาสัมพันธ์ให้คำแนะนำ ให้ความรู้ในการป้องกันโรค

ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นยังคงยืนยันจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด- 19 จำนวน 2 ราย โดยรายที่ 1 ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 มีนาคม เข้าสู่กระบวนการรักษาและทีมแพทย์ ยืนยันว่ารักษาหายแล้ว และกลับไปพำนักที่บ้านได้ตามปกติ ส่วนผู้ป่วยรายที่ 2 เข้ารับการรักษาเมื่อวันที่ 18 มีนาคม ขณะนี้อาการโดยทั่วไปดีขึ้นตามลำดับ สรุปภาพรวมจังหวัดขอนแก่น มีผู้ที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จำนวน 11 ประเทศ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น จำนวน 2,262 ราย และได้เข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวังสุขภาพตนเองเป็นระยะเวลา 14 วัน ครบถ้วน จำนวน 1,216 ราย เหลืออีก 1,046 ราย จะครบระยะเวลาการเฝ้าระวังสุขภาพ 14 วัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการของจังหวัดขอนแก่น ในการให้ อสม.กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ลงไปดูแลให้กำลังใจและเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางกลับมาจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล ในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล โดยให้กรอกข้อมูลส่วนบุคคลในแบบ ขก.- 1 สำหรับผู้โดยสารเครื่องบิน รถโดยสาร รถไฟ ณ สถานีขนส่งแต่ละแห่ง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการตรวจสอบหากพบว่ามีผู้ติดเชื้อในพื้นที่

เมื่อประชาชนเดินทางถึงบ้านหรือที่พักอาศัย กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม.จะนำข้อมูลที่ได้ ไปตรวจทานตรวจสอบ เพื่อยืนยันข้อมูลและใช้เป็นฐานข้อมูลในระดับพื้นที่ เพื่อรวบรวมข้อมูลส่งไปยังอำเภอ โดยจะต้องลงบันทึกข้อมูล 2 แบบ คือ แบบ ขก.- 1 และแบบฟอร์มของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อบันทึกข้อมูลสุขภาพประจำวัน เป็นเวลา 14 วัน โดยจะมีเจ้าหน้าที่ อสม.ไปตรวจสุขภาพและจดบันทึกข้อมูลไว้เป็นประจำทุกวัน และขอให้ประชาชนปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง กินร้อน ใช้ช้อนส่วนตัว หมั่นล้างมือบ่อยๆ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่แออัด และการสัมผัสจุดเสี่ยง เว้นระยะห่างเพื่อความปลอดภัย ปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด

ที่มา  #PRKHONKAEN

แสดงความคิดเห็น