“ระดมพลจิตอาสาในการสื่อสาร สู้ COVID-19

สิ่งที่ทุกคนช่วยทำได้ นอกจากการอยู่บ้านเฉยๆ ในวิกฤต COVID-19
.


วันนี้ได้คุยกับท่านโฆษกและท่านรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้แทนกองทุนสื่อ เพื่อหาทางช่วยเหลือเรื่องการสื่อสารของสาธารณสุข เพื่อช่วยแก้วิกฤต COVID-19
.
ทางสธ.ให้โจทย์พวกเราว่า สิ่งที่ สธ.ต้องการสื่อสารเพื่อรณรงค์โดยเร่งด่วน มี 6 ประเด็น กับ 2 กลุ่มเป้าหมาย ดังนี้
.
ประเด็นที่ 1-5 สำหรับกลุ่มประชาชนทั่วไป
1. Social Distancing ซึ่งมีหลักๆ 2 แนวทางคือ
1.1 Isolation การแยกตัว ไม่พบปะสังสรรค์ ไม่นัดกันทำกิจกรรม
1.2 Self-Quarantine การกักตัวเอง 14 วัน เมื่อรู้ว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยง
.
2. การปฏิบัติตนเพื่อป้องกัน COVID19 อื่นๆ เช่นกินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ ใส่หน้ากากอนามัย/หน้ากากผ้าให้มากที่สุดเมื่อต้องอยู่ใกล้กัน
.
3. Social Cohesion ความสามัคคี ร่วมแรงร่วมใจกันต้านภัย COVID ไม่ดูดาย เช่นช่วยตรวจสอบ แจ้งเตือน ไม่ส่ง Fake News
.
4. การสร้างวินัย ในการปฏิบัติตามมาตรการของทางการ และการทำตามข้อต่างๆข้างต้น เพราะเรายังต้องอยู่กับ COVID19 ไปอีกหลายเดือน
.
5. การสร้างทัศนคติที่ดีของคนทั่วไปต่อผู้ป่วย เนื่องจากขณะนี้กลุ่มผู้ป่วย กำลังถูก stigmatize หรือ “ตีตรา” ว่าเป็นโรคที่น่ารังเกียจ จึงเกิดปัญหาว่า การหาสถานที่รองรับผู้ป่วย (เตรียมการเผื่อในอนาคตที่ผู้ป่วยจะเพิ่มขึ้น) จะถูกต่อต้านจากชาวบ้านในพื้นที่ ทั้งที่อยู่ในสถานที่ปิด มีระบบกำจัดเชื้อตามมาตรฐาน แต่จะทำอย่างไรให้เกิดการยอมรับว่า นี่เป็นการเสียสละและช่วยชาติสู้กับวิกฤตครั้งนี้
.
ประเด็นที่ 6 สำหรับกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์
ุ6. ช่วยคิดหาวิธีให้กำลังใจ หาทางช่วยบุคลากรทางการแพทย์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้ทำงานต่อไปได้ ตอนนี้บุคลากรหลายคนเริ่มเหนื่อยล้า จากการต่อสู้ต่อเนื่องมาหลายเดือนโดยไม่ได้พักผ่อน ทำยังไงให้พวกเค้ามีกำลังใจทำงานต่อ
.
ซึ่งทั้ง 6 ประเด็นนี้ ทางกองทุนสื่อจะนำไปพิจารณาเพื่อหาทางสร้างการสื่อสารต่อไปอย่างเร่งด่วน แต่ที่ผมนำมาเล่าให้ทุกๆคนฟัง ก็เพื่ออยากจะขอความช่วยเหลือจากทุกๆคนที่เห็นข้อความนี้ ในการช่วยคิด ช่วยทำ ช่วยแนะนำ ช่วยชักชวนเพื่อน ในการทำการสื่อสารทั้ง 6 ประเด็นนี้ ให้ออกไปในวงกว้างที่สุด ซึ่งทุกคนช่วยได้แน่นอน เพราะทุกคนมี Social Media ในมืออยู่แล้ว
.
หากท่านทำได้เอง ขอให้ท่านช่วยเขียน ผลิต ทำรูป อะไรก็ได้ ที่เป็นการรณรงค์ทั้ง 6 ข้อนี้ ในแง่มุมต่างๆ ในรูปแบบต่างๆที่ท่านทำได้ หากท่านเป็นนักข่าว ขอให้ท่านช่วยทำข่าวในสื่อของท่าน พูดในรายการของท่าน โดยเฉพาะตอนนี้ในต่างจังหวัดเริ่มมีความเสี่ยง แต่สื่อของทางการยังไปไม่ถึง หากท่านเป็นวิทยุท้องถิ่น ท่านอาจจะช่วยพูดในรายการของท่านเป็นภาษาถิ่น หากท่านเป็นแอดมินเพจ หรือ influencer ท่านสามารถช่วยสื่อสารกับสมาชิกในเพจของท่าน หากท่านรู้จักเพจ หรือ influencer ขอให้ท่านช่วยจูงใจให้เพจเหล่านั้นช่วยสื่อสารในประเด็นเหล่านี้ หากท่านมีป้ายว่าง ท่านอาจจะช่วยรณรงค์ประเด็นเหล่านี้ หากท่านเป็นองค์กร บริษัท ผู้ประกอบการ ท่านอาจจะช่วยคิดว่าจะมีนโยบายช่วยเหลืออะไรได้บ้างในทั้ง 6 ประเด็นนี้ และวิธีอื่นๆอีกมากมาย แล้วช่วยกันเผยแพร่ให้มากที่สุดในช่องทางที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากที่สุด หรือหากท่านคิดว่าผมจะนำไปเผยแพร่ได้ดีกว่าท่าน ท่านส่งมาให้ผมอีกทางก็ได้ครับ
.
โดยท่านไม่ต้องทำทั้ง 6 ประเด็นนี้ แต่อาจเลือกประเด็นใดประเด็นหนึ่งที่ท่านสนใจมาทำก็ได้ โดยประเด็นที่เร่งด่วนที่สุดในตอนนี้ ก็น่าจะเป็น Social Distancing***
.
สรุปก็คือ เครือข่ายของทุกคน จะเป็นพลังอันมหาศาล ยิ่งกว่าโทรทัศน์ช่องไหนๆ ที่จะนำเอาข้อมูลเหล่านี้ ไปสู่ประชาชนกลุ่มเสี่ยงได้
.
และทั้งหมดนี้ ท่านทำในนามของท่านเอง ไม่ต้องอ้างอิงกระทรวง หรือกองทุนสื่อใดๆทั้งสิ้น เป็นจิตอาสาเพื่อชาติของท่านเอง ในการช่วยสู้กับไวรัสผ่านหน้าจอ ผมเพียงแต่นำเอาโจทย์ของสธ.มาแจกให้ท่าน เพื่อให้การสื่อสารของเราเป็นไปในทางเดียวกัน เพื่อให้เกิดพลังในการขับเคลื่อนไปพร้อมกัน
.
หรือหากท่านเป็นผู้ผลิตสื่อมืออาชีพ และท่านมีจิตอาสา ท่านสามารถอาสาช่วยผลิตสื่อ ทั้งในแบบจิตอาสาหรือแบบลดค่าใช้จ่าย (เนื่องจากกองทุนไม่ได้มีงบประมาณจำนวนมาก) หรือหากท่านเป็นผู้มีชื่อเสียง เรายินดีรับจิตอาสาในการช่วยรณรงค์ทั้ง 6 ประเด็นนี้ (แต่คงต้องเป็นโครงการเร่งด่วนพอสมควรนะครับ เราคงรอเป็นเดือนไม่ได้)
.
วิกฤตนี้เป็นของคนทั้งชาติ และทั้งโลก และตอนนี้สถานการณ์มาถึงจุดหัวเลี้ยวหัวต่อที่จะตัดสินว่าจะเป็นอย่างไร ต้องขอแรงทุกคนช่วยกันให้มากที่สุดครับ แม้เราจะไม่ได้เป็นบุคลากรทางการแพทย์ แต่เราก็ร่วมรบกับสงครามครั้งนี้ได้เช่นกัน ขอบคุณล่วงหน้าครับ
.
(หากมีข้อสงสัยใดๆ หรือต้องการปรึกษาในเรื่อง concept สามารถติดต่อผมมาทาง inbox ได้เลยครับ)

ถ้าท่านยังไม่รู้ว่าจะช่วยยังไง ก็ #ช่วยแชร์ให้ถึงคนที่ช่วยได้ ก่อนเลยครับ!

โดย -ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสื่มวลชน

แสดงความคิดเห็น