เอกชนโคราชปัง มาตรการรัฐหรูแต่ปฏิบัติไม่ได้

ประธานสภาอุตฯโคราชระบุภาคอุตสาหกรรมเดือดร้อนมาก ส่งออกไม่ได้ มาตรการรัฐสวยหรูแต่ปฏิบัติไม่ได้จริง แนะให้แบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้ง่ายขึ้นเพราะเป็นสภาวะไม่ปกติ ฝากรัฐทบทวนมาตรการผ่อนปรนจังหวัดไม่ติดเชื้อ ให้เศรษฐกิจสามารถเดินต่อไปได้

นายหัสดิน สุวัฒนะพงษ์เชฎ ประธานสภาอุตสาหกรรม จ.นครราชสีมา เปิดเผยอีสานบิซ ว่า ผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ทำให้รัฐประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ส่งผลให้โรงงานอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบมากพอสมควร โดยบางโรงงานแม้จะสามารถทำงานได้ แต่มีปัญหาการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ บางแห่งขนส่งทางอากาศไม่มีไฟลท์ในการส่งสินค้า การขนส่งทางน้ำก็มีปัญหาเพราะลูกค้าปลายทางได้ชะลอตัวในการรับสินค้า จะยกเว้นเพียงสินค้าบริโภค หรือข้าวสาร ที่มีความต้องการของตลาดโลกเพิ่มขึ้นแต่ก็เป็นเพียงดีมานด์เทียม

“ลูกค้าที่เคยสั่งสินค้าใช้ 1 เดือนก็สั่งซื้อ 3 เดือน เพื่อที่จะได้นำมาสำรองไว้ เพราะไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น ทำให้เกิดดีมานด์เทียม โรงงานที่ใช้วัตถุดิบจากต่างประเทศ โดยเฉพาะจากประเทศจีน การผลิตก็ต้องหยุดชะงักไป โรงงานอุตสาหกรรมไม่สามารถหยุดกิจการได้”นายหัสดินกล่าวและว่า

หากหยุดกิจการชั่วคราวผู้ประกอบการจะต้องจ่ายค่าแรงงาน 75 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะลำบากมาก เศรษฐกิจก่อนที่จะเกิดโควิดก็ไม่ดีอยู่แล้ว หากไม่ได้มีการผลิต และลูกจ้างหยุดไปก็จะไม่มีงานทำ โรงงานเองก็ต้องฝืนผลิตไป โดยโรงงานเคยแบ่งกะการผลิต 3 ช่วงเวลา ก็เหลือไว้เพียง 2 ช่วงเวลา เพื่อให้ทุกคนได้ทำงานและมีรายได้

ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.นคราชสีมา กล่าวอีกว่า เจ้าของโรงงานถือว่าหนักมาก ผลิตออกมาแล้วส่งออกไม่ได้ ตลาดในประเทศก็ซบเซามาตรการรัฐไม่ให้ออกจากบ้าน สินค้าที่ไม่ใช่เพื่อการบริโภคหยุดชะงัก สินค้าไม่จำเป็นไม่มีออเดอร์ หากผลิตไปเรื่อยก็เป็นปัญหาค้างสต็อค บางส่วนก็ต้องไปขอร้องให้ภาครัฐประกาศปิดเพื่อให้คนงานได้สิทธิประกันสังคม เช่นกรณีโรงแรม เพราะมีโอกาสแพร่เชื้อ

“ประชาชนตระหนกเชื้อโควิด19 มากว่าจะติดเขาหรือไม่ บางร้านก็ปิดตัวเอง แต่ปิดไปสักพักก็ไม่ไหวทุกคนต้องทำมาหากิน ไม่มีรายได้ เงินเก็บที่มีไม่มากก็เริ่มมีปัญหาจะต้องกลับมาทำมาหากินได้ ภาครัฐจะต้องดูว่าทำอย่างไรให้คนเหล่านั้นกลับมาทำมาหากินได้ โดยปลอดภัย”นายหัสดินกล่าว

นายหัสดินกล่าวอีกว่า มาตรการของรัฐที่ออกมามีมาก แต่ว่าในทางภาคปฏิบัติยาก เช่นให้กู้เงินจากกองทุนต่างๆ ที่เป็นซอฟท์โลน ผ่านธนาคารพาณิชย์ ซึ่งเขาก็จะต้องประเมินความเสี่ยงการกู้เงิน  สถานการณ์ปกติธนาคารพาณิชย์ก็เข้มงวดการปล่อยกู้อยู่แล้ว เมื่อรัฐบาลให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยเขาต้องรับผิดชอบความเสี่ยงเอง

“ผมอยากบอกรัฐบาลว่า ขณะนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ การให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยกู้ซอฟท์โลนก็ควรประเมินว่าขณะนี้ไม่ได้อยู่ในภาวะปกติด้วย การปล่อยกู้ควรที่จะง่ายกว่านี้”นายหัสดินกล่าวและว่า

ขณะนี้มีธนาคารพาณิชย์มาถามปล่อยกู้ว่า ดอกเบี้ยถูกมาก 2-3 เปอร์เซ็นต์ แต่ความเข้มงวดมีอยู่มาก ทางปฏิบัติจำนวนเงินมากแต่จะปล่อยได้เท่าไหร่ยังไม่มั่นใจ

ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.นครราชสีมา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เรื่องเงื่อนไขการจ้างงานต่อเนื่องที่สามารถนำไปหักลดค่าจ่ายได้  3 เท่า แต่ให้ไปเทียบปลายเดือนธันวาคมปี 62 ซึ่งธรรมชาติของโรงงานสิ้นปีก็จะมีคนออกไป ต้นปีก็จะรับแรงงานมาเพิ่ม แต่ภาวะเศรษฐกิจไม่ดี มีคนเกษียณแล้วโรงงานก็จะไม่รับคนเพิ่ม ซึ่งตนเห็นว่าถ้าจะเปรียบก็ควรจะเทียบวันที่ 1 เม.ย.กับ 30 เม.ย. ครบหนึ่งเดือนสามารถได้ลดได้เลย 3 เท่าได้หรือไม่

“มาตรการรัฐบาลออกสวยหรูแต่ปฏิบัติยาก เราได้เสนอความเห็นผ่านกรอ.ซึ่งประกอบด้วย สภาอุตฯ หอการค้าและ ชมรมแบงก์ ไปแล้ว ว่า มาตรการที่ออกมาปฏิบัติยาก มีกี่ข้อเราขอให้ปฏิบัติได้ ช่วยเหลือผู้ประกอบการได้จริง และจะได้มีผลต่อเนื่องจะไปถึงลูกจ้างและประชาชนทั่วไปด้วย”นายหัสดินกล่าว

นายหัสดิน กล่าวว่า ภาคเอกชนได้ประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ว่าน่าจะยืดเยื้อ มาตรการปิดเมืองจะมีผลก็ต่อเมื่อเราสามารถผลิตวัคซีนได้  โดยทางทฤษฎีโรคโควิด 19 อัตราการตายไม่สูง แต่การแพร่ระบาดรวดเร็ว ทำให้มีผู้ติดเชื้อมาก ผลกระทบจึงมากและติดเชื้อกันทั้งโลก

ระบบเศรษฐกิจขยับไม่ออกเลย ถือว่าประเทศไทยไม่ได้ล็อคดาวน์ทั้งประเทศ เป็นเซมิล็อคดาวน์ และหลายภาคส่วนยังทำงาน ภาคราชการ ภาคโรงงานอุตสาหกรรม ยังทำงานได้

“ปัญหาคือการไม่ล็อคดาวน์ทำให้มีการแพร่เชื้ออยู่ แต่หากล็อคดาวน์ภาคเศรษฐกิจจะชัตดาวน์ มาตรการเซมิฯมาถูกทางแล้ว เพียงแต่การแก้ไขปัญหาต้องยืดเยื้อออกไป ภายในสองสามเดือนไม่จบแต่ วิธีการของรัฐบาลต้องเปลี่ยนแปลงไม่ทำอย่างนี้ตลอดไป เพื่อให้ประชาชนออกมาใช้จ่ายด้วย ทำงานหาเงินได้ด้วย”นายหัสดินกล่าวและว่า

มาตรการช่วยเหลือของรัฐนั้นไม่แน่นอน เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา คนด้อยโอกาสไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้มีจำนวนมาก รัฐบาลไปตัดสินเอาเองว่าเขาไม่เดือดร้อนและยังไม่ให้เงินเขา ปัญหาโควิด 19 เดือดร้อนกันหมด รัฐบาลไม่ควรมองว่าใครเดือดร้อนมากหรือน้อย แต่ต้องเหวี่ยงแหออกไปให้ทั่ว

ประธานสภาอุตสาหกรรมจ.นครราชสีมา กล่าวว่า รัฐบาลจะต้องกลับมาทบทวน ชีวิตประชาชนอันดับหนึ่งแน่ๆ แต่เศรษฐกิจก็สำคัญ ต้องกลับมามองว่า จังหวัดบางแห่งไม่มีการติดเชื้อก็ควรที่จะใช่มาตรการผ่อนปรน ผ่อนคลายให้ประชาชนกลับมาดำรงชีวิตปกติได้ โดยวิธีการสแกนคนยังต้องมี การสวมแมส ล้างมือ สามารถทำงานได้ ตอนนี้ร้านอาหารย่อยเดือดร้อนมาก

“เราเข้าใจว่ารัฐบาลต้องปกป้องชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ที่สำคัญที่สุด ส่วนจังหวัดที่มีการติดเชื้อจำนวนมากอย่างสมุทรปราการ  กรุงเทพฯ หรือนนทบุรี ก็จะต้องเข้มงวดต่อไป”นายหัสดินกล่าว

 

 

 

แสดงความคิดเห็น