“ผมบ่เกี่ยว!” โกงเงินสหกรณ์ฯครูขก. หลักฐานชัดเงินเข้าบัญชี ‘เอกราช’ คนเดียว

“สุริยนต์ วะสมบัติ” อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ชุด 48/53 ยอมรับว่า ดำเนินการอนุมัติให้ซื้อขายลอตตารี่จริง แต่หลังจากนายทะเบียนสั่งให้ยุติก็ทำปฎิบัติตามคำสั่ง และให้นำเงินกลับเข้าบัญชีสหกรณ์ แต่ “เอกราช ช่างเหลา” ไม่นำเงินเข้าบัญชีสหกรณ์จึงเกิดปัญหา และอ้างว่ามีการพิมพ์มอบอำนาจเบิกเงินเพิ่มเติมลงในรายงานการประชุมหลังจากตนเองลงนาม

นายสุริยนต์ วะสมบัติ อดีตประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่น จำกัด ชุดที่ 48 – 49 ประจำปี 2553 – 2554 กล่าวถึงกรณีที่ชมรมฯสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จะฟ้องต่อศาลฯฐานมีมติดำเนินการซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลหรือ “ลอตตารี่” ซึ่งขัดต่อวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ว่า ตามระเบียบของสหกรณ์คณะกรรมการฯจะดำเนินการสิ่งใดจะต้องขอความเห็นชอบจากที่ประชุมใหญ่ก่อน

“ผมในฐานะประธานฯได้นำเรื่องนี้เข้าบรรจุในระเบียบวาระการประชุมใหญ่สามัญประจำปีของสหกรณ์ฯ และได้รับความเห็นชอบจากสมาชิกฯ เป็นการดำเนินการอย่างถูกต้อง และภายหลังเมื่อนายทะเบียนสหกรณ์ได้สั่งให้ยุติ เราก็ดำเนินการตามคำสั่งของนายทะเบียนสหกรณ์”นายสุริยนต์กล่าวและว่า

เมื่อสหกรณ์ยุติการดำเนินการก็ต้องนำเงินค้ำประกันคืนมาจากธนาคาร นำกลับเข้าบัญชีสหกรณ์ฯ แต่ปรากฏว่าผู้จัดการฯ (นายเอกราช ช่างเหลา) ไปดำเนินการคนเดียว และไม่ได้นำเงินเข้าบัญชีสหกรณ์แต่นำเงินไปเข้าบัญชีตนเอง ความผิดเริ่มต้นตรงนี้ ถ้าชมรมสมาชิกฯฟ้องเราจะถือว่าเป็นการฟ้องเท็จ และเป็นการนำความเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งชมรมฯอาจจะยังไม่รู้ตรงนี้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อีสานบิซ

นายสุริยนต์ กล่าวอีกว่า ตนได้เห็นหลักฐานเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาสอบปากคำตนเมื่อวันที่ 10 เม.ย.ที่ผ่านมา ว่าได้มีการทำบันทึกเพิ่มเติมในเอกสารมติที่ประชุมคณะกรรมการฯ ซึ่งไม่ได้บอกว่าให้ใครมีอำนาจไปเบิกถอนเงินแต่มีการไปเขียนเพิ่มเติมว่าให้บุคคล 4 คนมีอำนาจถอนเงิน

“ผมไม่รู้ว่าใครไปเขียนเพิ่มเติมว่าแต่งตั้งบุคคล 4 คน มีอำนาจเบิกจ่ายเงิน แต่มีลายเซ็นต์ของผมจริง ตอนที่ให้ผมเซ็นต์เขาบอกว่า เป็นรายงานการประชุมคราวที่แล้ว แต่เรื่องการมอบใครนั้นไม่ได้นำเข้าที่ประชุม แต่ไปเขียนเพิ่มเติมภายหลัง”นายสุริยนต์กล่าวและว่า

เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมา ตนไม่เคยได้คุยกับนายเอกราช ช่างเหลา อดีตผู้จัดการฯ เพราะตอนนี้ต้องแยกกันเป็นคนละฝ่าย และไม่ได้มีการสอบถามอะไรกับนายเอกราช ซึ่งเขาจะต้องไปแก้ข้อกล่าวหาของตัวเอง ตนยืนยันว่าตนและคณะกรรมการไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำเรื่องนี้ ทั้งปี 53 และปี 54 ตำรวจมาสอบปากคำตนเองไปแล้ว และหากจะมาคุยเพิ่มเติมตนพร้อมเสมอ

นายสุริยนต์กล่าวอีกว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะแก้อย่างไรนั้น ขณะนี้ทุกอย่างถือว่าได้ลงตัวแล้ว การกล่าวหาว่าพวกตนว่าทำผิดระเบียบ ถ้ามองแล้วก็อาจจะผิดระเบียบจริง แต่เมื่อนายทะเบียนสั่งให้ยกเลิกตนก็ดำเนินการตามที่นายทะเบียนสั่งแล้ว เพียงแต่คนไปถอนเงินหลักประกันคืนจากธนาคารฯไม่ได้นำเงินกลับคืนสู่เข้าสู่บัญชีสหกรณ์ ส่วนตัวเลขจำนวนเงินนั้น ตนจำไม่ได้น่าจะราว 400 กว่าล้านบาท  แต่เท่าที่ทราบเงินค้ำประกันของสหรณ์ฯแห่งอื่นที่ดำเนินการเรื่องลอทตารี่เหมือนกันน่าจะราว 700 กว่าล้านบาทบาท

ตนเป็นประธานฯต่อในปี 2554  รายงานการเงินแต่ละเดือนก็ทำมาถูกต้อง หมายถึงโกหก เป็นการโกง เพราะระบุว่าเงินสหกรณ์มีเท่านั้นเท่านี้ คือมีเจตนาโกงมาแต่ต้นจนถึงปี 2561 ซึ่งคนทำไม่รอดแน่ ปฏิเสธอย่างไรก็ไม่รอด แต่ที่มาบอกว่าจะฟ้องพวกตนขอยืนยันว่า ได้รับอนุมัติจากสมาชิกและได้ทำการแก้ไขให้ถูกต้องแล้วแต่คนปฏิบัติโกงมีเพียงแค่นั้นและมีหลักฐานชัดเจน

ผู้สื่อข่าวรายงาน ได้มีพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ไปยัง อดีตประธานคณะกรรมการดำเนินการอีก 2 คน ได้แก่ ดร.สายัณห์ ผาน้อย ประธานคณะกรรมการฯชุดที่ 50/55 51/56 ช่วงแรกไม่ได้รับโทรศัพท์ของผู้สื่อข่าว แต่ภายหลังได้โทรฯกลับมาเมื่อทราบว่า เป็นผู้สื่อข่าวจึงปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ โดยยืนยัน ว่าการดำเนินการของตนเองในฐานะประธานฯตลอดจนคณะกรรมการเป็นไปอย่างถูกต้องทั้ง 4 ปีที่เป็นประธาน

ขณะที่ ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ประธานคณะกรรมการดำเนินการฯชุดที่ 52/57 53/58 และชุด 56/61 ชุด 57/62 (ลาออกจากตำแหน่งเดือนตุลาคม 62) เพื่อขอข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่าเป็นอย่างไร แต่ดร.เชิดศักดิ์ ไม่รับโทรศัพท์ และไม่ได้โทรฯกลับมายังหมายเลขที่ผู้สื่อข่าวใช้โทรฯไปแต่อย่างใด

…………………….

แสดงความคิดเห็น