ขณะนี้การยื่นฟ้องคณะกรรมการสหกรณ์ชุดที่ 48/2553 จนถึงชุด 56/2561 ที่ชมรมสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น (สอ.ขก.) ยังไม่สามารถดำเนินการได้ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากต้องการเอกสารบางส่วนเพิ่มเติมให้มีน้ำหนักในการดำเนินคดีเพิ่มขึ้น
ทว่า…ในอีกทางหนึ่งชมรมสมาชิกสอ.ขก.ได้ทำหนังสือไปยังสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น ในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ รวมทั้งอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการกำกับดูแลให้สหกรณ์ฯดำเนินการตามพ.ร.บ.สหกรณ์ฯ
ตลอดจนระเบียบ ข้อบังคับต่างๆ ให้เป็นไปด้วยความถูกต้อง เพื่อให้ทำการฟ้องร้องดำเนินการคดีกับคณะกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น (สอ.ขก.) นับแต่คณะกรรมการชุดที่ 48/53 – 56/61 ด้วยเช่นกัน
เหตุผลประการสำคัญที่ชมรม สก.ขก.ระบุ คือ พวกเขาได้ตรวจสอบติดตามประเมินผลการดำเนินงานของคณะกรรมการชุดที่ 57/62 และ58/63 (ชุดปัจจุบัน)ที่มีดร.อนุศาสตร์ สอนศิลพงศ์ เป็นประธานคณะกรรมการฯเห็นว่าไม่ได้ไปตามมติที่ประชุมใหญ่วิสามัญครั้งที่ 1 /2562
เมื่อคราวการประชุมเมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2562 โดยมติในวันดังกล่าวนั้นระบุไว้ว่าให้คณะกรรมการชุดที่ 57 ดำเนินการร้องทุกข์กล่าวโทษและฟ้องร้องดำเนินคดีผู้กระทำการให้สหกรณ์เสียหายทั้งทางอาญาและทางแพ่งจนกว่าคดีจะถึงที่สุด
แต่คณะกรรมการชุด 57/62 และ 58/63 มิได้ปฏิบัติตามมติที่ประชุมใหญ่ให้ครบถ้วน ครอบคลุมมีประสิทธิภาพเพื่อประโยชน์ของสหกรณ์แต่อย่างใด โดยมีแนวโน้มว่า ชมรมฯสมาชิกจะได้ดำเนินการบางอย่างกับคณะกรรมการฯทั้งสองชุดนี้ด้วย
มีเพียงการแจ้งความร้องทุกกับพนักงานสอบสวนในทางอาญา แต่ก็ปล่อยให้ระยะเวลาผ่านมานานกว่า 4 เดือน แม้ต่อมาได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดขอนแก่น ก็เป็นการดำเนินคดีกับบุคคลเพียง 4 คนได้แก่ นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.พลังประชารัฐ อดีตผู้จัดการสหกรณ์ ในฐานะผู้มีอำนาจเบิกจ่ายเงินร่วมกับ นายนพรัตน์ สร้างนานอก นายสมศักดิ์ โคตรวงศ์ และนายนิวัฒร นิราศสูงเนิน ซึ่งเกี่ยวข้องเฉพาะกับการเบิกถอนเงินจำนวน 431 ล้านบาทเท่านั้น
โดยการดำเนินคดียังไม่ครอบคลุมครบถ้วนของรูปคดี ทั้งที่สมควรดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญากับกลุ่มผู้กระทำความผิด
ถือว่าเป็นการเปิดเกมรุกอีกทางหนึ่ง โดยได้มีการส่งเอกสารประกอบด้วยบัญชีรายชื่อคณะกรรมการสหกรณ์ ฯรวมทั้งสำเนารายการฝากถอนเงินบัญชี เลขที่ 144-101918-9 ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด สาขาดินแดง (เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน) กรุงเทพฯ
ทั้งนี้ได้มีการวิเคราะห์พฤติการณ์แห่งกระทำความผิด ประกอบกับรายงานงบการเงินของสก.ขก.จำกัด ตั้งแต่ปี 2553- 2561 เพื่อเป็นข้อมูลหลักฐานประกอบการพิจารณา
พฤติการณ์ของคณะกรรมการสหกรณ์ฯชุดที่ 48/53 เป็นการกระทำความผิดด้วยการมีมติคณะกรรมการระหว่างปี 2553 ให้มีการลงทุนหากำไร โดยอ้างว่าเพื่อนำเงินของสอ.ขก.ไปจองสิทธิ์ ซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลซึ่งไม่ได้เป็นความจริง
โดยระบุว่า การกระทำดังกล่าวไม่ได้อยู่ในขอบเขตวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสหกรณ์ ซึ่งต่อมาก่อให้เกิดความเสียหายต่อสหกรณ์และสมาชิกเบื้องต้นเป็นเงิน 431 ล้านบาท
ความผิดดังกล่าวเริ่มจากคณะกรรมการฯชุดที่ 48//2553 ซึ่งมีนายสุริยนต์ วะสมบัติ เป็นประธานพร้อมคณะกรรมการ 14 คนได้กระทำการร่วมกันลงมติให้มีการลงทุนรายการสลากกินแบ่งรัฐบาล
ดังปรากฏรายงานกิจการประจำปี 2553 ณ วันที่ 31 ธ.ค.2553 พิจารณาจาก งบดุล รายการเงินประกันซื้อสลากจำนวน 748 ล้านบาท งบดุลรายการสลากการกุศลเป็นเงิน จำนวน 1,077.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นการนำไปใช้ทำข้อตกลงกับคู่สัญญา และยังไม่ชัดเจนว่า เงินจำนวนข้างต้นนี้ได้นำกลับคืนสหกรณ์แล้วหรือยังด้วย
รวมทั้งยังได้มีมติให้เปิดบัญชีเงินฝากประจำแบบ 12 เดือน บัญชีเลขที่ 144-101918-9 ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด สาขาดินแดง (เทสโก้โลตัสฟอร์จูน) กรุงเทพฯ
นอกจากนี้ คณะกรรมการชุด 49/54 หรือชุดต่อมา ซึ่งยังคงมีนายสุริยนต์ วะสมบัติ เป็นประธานต่อเนื่องในปีที่ 2 ยัง ได้ดำเนินการลงทุนและเบิกถอนเงินต่อไปโดยไม่มีการระงับยับยั้งและเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่ แม้เขาจะอธิบายว่า ได้ยุติโครงการฯตามที่นายทะเบียนได้สั่งการมาแล้วก็ตาม
ดังปรากฏในรายงานประจำปี เป็นเงินสลาก (งบดุล) จำนวน 1,077 ล้านบาท รายการเงินจองซื้อสลากล่วงหน้าจำนวน 290 ล้านบาท (งบกระเงินสด) เงินรายได้จากการจำหน่ายสลาก 46,237,770 บาท (งบกำไรขาดทุน) และรายการเงินฝากประจำบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ 1,144 ล้านบาท(หมายเหตุประกอบงบการเงิน)
ขณะที่มีจำนวนเงินฝากในบัญชีจริงเพียง เพียงจำนวน 748 ล้านบาท โดยสรุปพบว่า งบการเงินมากกว่าเงินในบัญชีจำนวน 396 ล้านบาท
เหตุการณ์นำเงินไปลงทุนซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาล ของสหกรณ์ได้เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน มีพฤติการณ์ทำผิดเหมือนกัน ในสหกรณ์ออมทรัพย์ครู รวม 13 แห่งทั่วประเทศ อาทิ กาฬสินธ์ สกลนคร ร้อยเอ็ด ชัยภูมิ เลย เชียงราย ราชบุรี สงขลา ฯ เป็นต้นฯ
ทั้งนี้แต่ละสหกรณ์ได้มีการดำเนินคดีกับคณะกรรมการฯ ผู้จัดการฯ บริษัทคู่สัญญาและคดีแพ่งได้มีคำพิพากษาชั้นฎีกาและคดีถึงที่สุดไปแล้ว ส่วนคดีอาญาศาลชั้นต้นได้พิพากษาแล้วคดีอยู่ในระหว่างจำเลยและโจทก์อุทธรณ์
กลับมาที่คณะกรรมการชุดที่ 50/55 และ 51/56 โดย ดร.สายัณห์ ผาน้อย อดีตผอ.สำนักงานเขตพื้นที่มัธยมศึกษา (สพม.) 25 เป็นประธานคณะกรรมการฯต่อเนื่อง 2 ปี ได้ดำเนินการลงทุนและขอเบิกถอนเงินต่อไปโดยไม่ระงับยับยั้ง และเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่
ดังปรากฏตามรายงานการประจำปี 2555 ดังนี้ รายการเงินจองซื้อสลากล่วงหน้าลดลง จำนวน 162 ล้านบาท (งบกระแสเงินสด) เทียบกับปี 54 จำนวน 290 ล้านบาท รายการค่าธรรมเนียมสัญญาค้ำสลาก จำนวน 701,250 บาท เทียบกับปี 54 จำนวน (5,364,586 ล้านบาท) รายการค่าใช้จ่ายทำลายสลากฯ จำนวน 1,296,180.06 บาท (งบกำไรขาดทุน)
รายการเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 791,001,380.82 ล้านบาท (หมายเหตุประกอบงบการเงิน) ขณะที่เงินฝากมีอยู่จริงในธนาคารเพียง 395,001,380.82 ล้านบาท โดยงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชีจำนวน 396 ล้านบาท
ต่อเนื่องถึงคณะกรรมการชุดที่ 51/56 ซึ่งดร.สายัณห์ ผาน้อย เป็นประธานฯ ยังคงมีพฤติกรรมเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ดังปรากฏในรายงานงบการเงินประจำปี รายการเงินฝากประจำหมายเหตุประกอบงบการเงิน 403,900,146.35 บาท รายการเงินฝากที่มีอยู่จริงเพียง 73,916 บาท รายการงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชี 403,826.250.31 บาท
คณะกรรมการชุดที่ 52/57 ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย อดีตศึกษาธิการจังหวัดขอนแก่น ได้เข้ามาเป็นประธานฯต่อเนื่องอีก 2 ปี ยังมีการเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตามรายงานงบการเงินประจำปี 2557
รายการเงินฝากธนาคาร(หมายเหตุประกอบงบการเงิน) 408,444,023.00 บาท รายการ เงินฝากมีอยู่จริง 75,357.40 บาท งบการเงินมากกว่าเงินในบัญชี 408,368,665.60 บาท
ต่อเนื่องกรรมการชุดที่ 53/58 ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย ประธานฯ และคณะยังได้เสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตามรายงานงบการเงินประจำปี 2558 รายการเงินฝากธนาคาร (หมายเหตุประกอบงบการเงิน) เงินฝากประจำ 413,039018.26 บาท รายการจำนวนเงินจริงในบัญชี 76,457.76 บาทงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชี 412,962,560.50 บาท
คณะกรรมการชุดที่ 54/59 ดร.สายัณห์ ผาน้อย ย้อนกลับมาเป็นประธานฯวาระที่สองต่อเนื่องอีก 2 ปี ก็ยังไม่มีการตรวจสอบหรือเปลี่ยนแปลงอะไร มีการเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ตามรายงานงบการเงินประจำปี รายการเงินฝากธนาคาร(หมายเหตุประกอบงบการเงิน) 417,685,707.22 บาท รายการเงินฝากมีอยู่จริง 77,369.18 บาท รายงานงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชี 417,608,338.00 บาท
คณะกรรมการชุดที่ 55/60 ดร.สายัณห์ ผาน้อย เป็นประธานฯ ทุกอย่างเหมือนเดิมมีการเสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ตามรายงานงบการเงินประจำปี 2560 รายการเงินฝากธนาคาร (หมายเหตุประกอบงบการเงิน) 422,384,671.43 บาท รายการเงินฝากมีอยู่จริงเพียง 78,143.48 บาท รายการงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชี 422,306,527.95 บาท
คณะกรรมการชุดที่ 56/61 ดร.เชิดศักดิ์ ศรีสง่าชัย เป็นประธานฯต่ออีกวาระ เสนองบการเงินอันเป็นเท็จต่อที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี
ตามรายงานงบการเงินประจำปี รายการเงินฝากธนาคาร (หมายเหตุประกอบงบการเงิน 427,136,498.98 บาท รายการเงินฝากมีอยู่จริง 78,924.91 บาท รายงานงบการเงินมากกว่าเงินในบัญชีจำนวน 427,057,574.07 บาท
ทั้งหมดจากการวิเคราะห์ ข้อมูลการเคลื่อนไหวของงบการเงินสหกรณ์ เปรียบเทียบระหว่างรายงานประจำปี 2553-2561 (กรรมการชุดที่ 43-56) รายการเบิกถอนคงเหลือ ณ วันสุดท้าย ของแต่ละปีบัญชี
ปรากฏจากรายการเบิกถอนเงินหรือ (เสตทเม้นท์) บัญชีเงินฝาก ชื่อบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด ธนาคารไทยพาณิชย์จำกัด (มหาชน) บัญชีเลขที่ 144-101918-9 สาขาดินแดง (เทสโก้โลตัส ฟอร์จูน) ประเภทประจำ 12 เดือน
ส่วนรายการเบิกถอนที่ปรากฏในแต่ละเดือนและบัญชีอื่นๆ ยังไม่ได้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงแต่อย่างใด ฉะนั้นเพื่อไม่ให้สหกรณ์ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคลเกิดความเสียหายเพิ่มเติมอีก และเป็นการติดตามทรัพย์สินของสหกรณ์คืน
ดังเหตุผลที่กล่าวข้างต้น ชมรมสมาชิกสอ.ขก. จึงได้ทำหนังสือขอให้สหกรณ์จังหวัดในฐานะรองนายทะเบียนสหกรณ์ ซึ่งได้รับมอบหมายจากนายทะเบียน พิจารณาฟ้องร้องต่อศาลทั้งทางแพ่งและอาญาต่อกระทำผิดดังกล่าวข้างต้นตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
นี่เป็น…เอกสารรายงานงบดุลที่เจาะลึกลงไปในบัญชี เงินฝากประจำเพียงเล่มเดียว โดยเบื้องต้นพบมีการปลอมบุ๊กแบงก์ การทำรายการบัญชีอันเป็นเท็จ ที่แสดงให้เห็นชัดเจนว่ามีการวางแผนการซับซ้อนหากไม่เข้าใจ
อาจทำให้คนสุจริตหลายคนที่เข้าไปเป็นกรรมการฯโดยบริสุทธิ์ ต้องได้รับผลพวงแห่งการกระทำอันไม่สุจริตและเชื่อได้ว่าความเสียหายของสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ขอนแก่น ตัวเลขอาจจะสูงมากกว่าต 431 ล้านบาทที่ปรากฏออกมาในคราวแรกหรือไม่ ?
……………………..