โควิดสอนคน ตอนที่ (3) มากดีกว่าน้อย?

เขียนโดย นพ.อำพล จินดาวัฒนะ รอง ปธ.กธม.แก้จน ลดความเหลื่อมล้ำ สมาชิกวุฒิสภา (สว.)

ฐานความเชื่อเศรษฐศาสตร์ทุนนิยม คือ “more is better” เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนมีความละโมบโลภมากเป็นที่ตั้ง ต้องการเอาให้ได้มากที่สุด ไม่มีที่สิ้นสุด

ฐานความเชื่อนี้ จึงนำมาสู่การออกแบบระบบเศรษฐกิจที่เอื้อให้คนทำมาหากินแบบกอบโกย เอามากๆ

โดยไม่คำนึงถึงคนอื่น ไม่คำนึงถึงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่เป็นของส่วนรวม หรือพูดถึงบ้างก็เพียงเพื่อให้ดูดี

จึงเกิดปรากฏการณ์

“0กับ700,000,000,000”

คนจนมีเงินศูนย์บาท หรือติดลบ ในขณะที่คนรวยบางคน มีมากถึง7แสนล้าน กลายเป็นความเหลื่อมล้ำสุดๆบนโลกใบนี้

ในระบบทุนนิยมเสรี (capitalism) คนรวยมากกว่า คนเก่งมากกว่า คนมีอำนาจมากกว่า คนมีโอกาสมากกว่า มีพลังอำนาจดูดกลืนความร่ำรวยมั่งคั่งเอาตัวมหาศาล (1-10%)

คนจน มีความรู้น้อย อำนาจน้อย ด้อยโอกาส ขาดทุนตั้งแต่ยังไม่เกิด เกิดมาแล้ว ทำอะไรก็ขาดทุนซ้ำซาก หรือได้มาบ้างก็เพียงเล็กน้อย กลายเป็นคนส่วนใหญ่ที่ไม่รวย (90-99%)

ระบบทุนนิยมเสรี จึงเป็นระบบการพัฒนาที่เน้นเอาเงิน เอาความมั่งคั่งเป็นตัวตั้ง แต่ขาดสมดุล (imbalance growth)

รวยก็ยิ่งรวยมาก จนก็ยิ่งจนลง

ในสหรัฐอเมริกา ประเทศที่ได้ชื่อว่าพัฒนาแล้ว เป็นผู้นำของโลก เดินบนระบบทุนนิยมเสรี มีความเจริญทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสูงมาก เป็นผู้นำด้านสินค้าไฮเทค การแพทย์ ยาและเวชภัณฑ์ การศึกษา ภาพยนตร์ ดนตรี ศิลปะ เกษตร สารเคมี พลังงาน ยาสูบ เคมี การทหาร อาวุธ ฯลฯ มีความมั่งคั่งแนวหน้าของโลก เป็นศูนย์กลางตลาดเงิน ตลาดทุน เป็นผู้นำเศรษฐกิจทุนนิยมเสรี

และได้ชื่อว่าเป็นประชาธิปไตยแม่แบบ

แต่อเมริกากลับมีความเหลื่อมล้ำสุดๆ คนรวย รวยล้นฟ้า คนจนแทบไม่มีอะไรจะกิน ต้องพึ่งอาหารแจก(food bank)นับล้านๆคน

ในจำนวนประชากร350ล้านคน ไม่น้อยกว่า40ล้านที่ไม่มีหลักประกันสุขภาพ เวลาป่วยไข้ไปหาหมอได้ยากลำบาก เพราะค่ารักษาพยาบาลแพงมาก การแพทย์ที่เก่งสุดๆ ยาและเวชภัณฑ์ ตกอยู่ภายใต้ระบบทุนนิยม

วิกฤติโควิด อเมริกามีผู้ป่วยเกิน1ล้านคนไปแล้ว เสียชีวิตมากกว่า6หมื่นคน ในเวลาเพียงเดือนเศษๆ มากกว่าชาวอเมริกันที่ตายในสงครามเวียดนามเสียอีก

คนป่วยจำนวนมากต้องรักษาตัวเองที่บ้าน จะเข้ารพ.ได้ก็เมื่อมีอาการหนักมากแล้วเท่านั้น จึงมีผู้ป่วยต้องล้มตายเป็นเบือ

วัสดุ อุปกรณ์การแพทย์ เครื่องช่วยหายใจมีไม่เพียงพอ

ในขณะที่ความร่ำรวยมั่งคั่งสุดๆ ไปอยู่ที่อาวุธยุทโธปกรณ์ อยู่ในทรัพย์สินฟุ่มเฟือยส่วนเกินอื่นๆ อยู่ในตลาดเงินตลาดทุน อยู่กับคนร่ำรวยมั่งคั่ง

แต่ไม่สามารถนำมาช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ได้!

แถมผู้นำยังกลับเรียกร้องให้คนออกมาทำงานๆๆ เพื่อให้เศรษฐกิจทุนนิยมเดินหน้าต่อไปแบบไม่สะดุด

หรือ “More is better” กลายเป็นว่า

“ตายมากๆ ดีกว่าตายน้อยๆ” ไปซะแล้ว?

———
อำพล : 2พค.2563

แสดงความคิดเห็น