นิวยอร์กไทม์สระบุ ไทยและบางชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อาจเกิดจากหลายปัจจัยที่ช่วยเกื้อหนุน ทั้งวัฒนธรรมการทักทายแบบไม่ต้องสัมผัสตัว ความพร้อมใจกันใส่หน้ากากอนามัย และระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็ง
สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทม์ (The New York Times) เผยแพร่บทความ No One Knows What Thailand Is Doing Right, But So Far, It’s working โดยระบุว่าการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 ของประเทศไทยยังคง ‘ได้ผลดี’ แม้จะไม่มีใครรู้ว่าเกิดจากปัจจัยใดกันแน่
สำนักข่าวของสหรัฐฯได้ตั้งคำถามว่าเหตุใดประเทศไทย ถึงมีประสิทธิภาพในการรับมือโรคระบาด?เพราะวัฒนธรรมของไทย?เพราะยีนพันธุกรรมของคนไทยสามารถต้านทานโควิด-19? หรือเพราะคนไทยสวมใส่หน้ากาก?
นิวยอร์กไทมส์ระบุ ไทยและบางชาติในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดีกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก อาจเกิดจากหลายปัจจัยที่ช่วยเกื้อหนุน ทั้งวัฒนธรรมการทักทายแบบไม่ต้องสัมผัสตัว ความพร้อมใจกันใส่หน้ากากอนามัย และระบบสาธารณสุขที่เข้มแข็งสำนักข่าวนิวยอร์กไทมส์ได้อ้างอิงคำพูดของนายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. ที่เคยแถลงไว้ว่า
“It has to do with culture. Thai people do not have body contact when we greet each other. This is how the countries in the Mekong region greet each other as well.”
แปลว่า “มันอยู่ที่วัฒนธรรม เพราะคนไทยไม่ได้แตะเนื้อต้องตัวเวลาทักทายกัน และนี่คือวิธีการทักทายของกลุ่มประเทศลุ่มแม่น้ำโขง”
เดอะนิวยอร์กไทม์ยังวิเคราะห์อีกว่า อัตราการแพร่เชื้อในประเทศไทยที่ต่ำมากๆ เป็นเพราะวัฒนธรรมการไหว้ของไทย ที่ไม่ต้องกอดหรือสัมผัสตัวกัน แต่ก็ยังสามารถทักทายและสื่อสารพูดคุยกันได้ และยังเป็นวัฒนธรรมที่สอดรับกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ ‘social distancing’ ที่สามารถลดการกระจายของเชื้อโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งตรงกับสิ่งที่นพ.ทวีศิลป์กล่าว
สื่ออเมริกันสำนักนี้ ยังระบุถึง นายแพทย์วิพุธ พูลเจริญ ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยนพ.วิพุธ ชี้ว่า คนไทยและคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เคยรับมือกับไวรัสไข้เลือดออก ซึ่งคณะนักวิจัยของนพ.วิพุธ กำลังศึกษาค้นคว้าระบบภูมิคุ้มกันโรคที่อาจมีความเกี่ยวเนื่องกัน ระหว่างเชื้อไข้เลือดออก กับเชื้อโควิด-19
แม้ว่าสถานการณ์ในช่วงต้นปีจะค่อนข้างน่ากลัว ที่เชื้อโควิด-19 หรือโคโรนาไวรัสเริ่มแพร่ระบาดอย่างหนักในเมืองอู่ฮั่นของประเทศจีน โดยไทยเป็นประเทศแรกๆ ที่พบผู้ติดเชื้อภายนอกประเทศจีน ทั้งยังต้องเจอกับผู้ติดเชื้อที่เป็นนักท่องเที่ยวจากญี่ปุ่น จากยุโรป และจากสหรัฐฯ บวกกับการแพร่กระจายเชื้อในเวทีมวยที่เรียกได้ว่าเป็น ‘ซูเปอร์สเปรดเดอร์’ (super-spreader)
หลังจากรัฐบาลไทยประกาศดำเนินการ ‘ล็อกดาวน์’ ตั้งแต่เดือนมีนาคม ทำให้ธุรกิจ ห้างสรรพสินค้า สำนักงานต่างๆ และร้านค้าส่วนใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องปิดทำการชั่วคราว แม้ว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง แต่มาตรการ ‘ล็อกดาวน์’ ก็ทำให้ประเทศไทยสามารถยับยั้งการแพร่เชื้อได้สำเร็จ และทำให้ไม่พบการแพร่เชื้อภายในประเทศมานานแล้ว 7 สัปดาห์ เหลือเพียงผู้ติดเชื้อในศูนย์กักกันที่เดินทางมาจากต่างประเทศ
ที่มา:
https://www.nytimes.com/…/…/coronavirus-thailand-photos.html
#NNT
#Thainews
#TheNewYorkTimes
#สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์
#โควิด19
#Covid19