ออกกฎเข้มคุมพระสงฆ์!!!ชงมหาเถรสมาคม ออกกฎเหล็ก 6 ข้อ คุมพระสงฆ์กรณีบิณฑบาตไม่เอื้อต่อพระธรรมวินัย โดยกำหนดการออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ ไม่ควรเกิน 8 โมงเช้า ห้ามยืน-นั่งรับบาตร-นั่งในรถ ตามร้านขายอาหาร หรือเดินไปตามสถานที่ต่างๆ ห้ามสวดบทกรวดน้ำ
สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม กลุ่มคุ้มครองพระพุทธศาสนา ได้ออกหนังสือเรื่องขออนุมัตินำเรื่อง กรณีการบิณทบาตไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เสนอมหาเถรสมาคม (มส.) โดยหนังสือระบุว่า ตามที่มีข้อร้องเรียนผ่านทางระบบการจัดการเรื่องราวร้องทุกข์ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่ชาติ (พศ.) กรณีการบิณฑบาตของพระสงฆ์ที่ไม่เอื้อเฟื้อต่อพระธรรมวินัย เช่น การบิณฑบาตก่อนอรุณ การกลับวัดช้าเกินเวลาที่กำหนด รับบิณฑบาตมากเกินความจำเป็น หรือถ่ายเทอาหารให้บุคคลภายนอก นั่งหรือยืนปักหลักบิณทบาตบริเวณหน้าร้านค้าตลอดจนนำอาหารที่ได้รับมาให้ร้านจำหน่ายต่อ รวมทั้งหวังแต่ลาภสักการะ เมื่อบิณทบาตแล้ว อาหาร ดอกไม้ ธูปเทียนที่ได้ไม่นำกลับวัด ทิ้งไว้ข้างทาง เป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสมแก่สมณวิสัย ทำให้ผู้ที่ใส่บาตรและผู้ที่พบเห็นเสื่อมความศรัทธา เป็นหตุให้เกิดความเสียหายแก่พระพุทธศาสนาและคณะสงฆ์
จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ขอเรียนว่า เพื่อเน้นการป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวและลดปัญหาข้อร้องเรียน จึงเห็นควรนำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะกรรมการมหาเถรสมาคมเพื่อโปรดทราบและพิจารณากำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ดังนี้
▪️การออกบิณฑบาตของพระภิกษุสามเณรจะต้องออกบิณฑบาตเวลาได้รับอรุณ และไม่ควรเกินเวลา 08.00 น.
▪️การบิณฑบาตโดยยืนหรือนั่งประจำที่ตามร้านขายอาหาร หรือบิณทบาตโดยเร่ร่อนไปตามสถานที่ต่างๆ นอกพื้นที่บิณทบาตแห่งวัดตนไม่สมควรกระทำ
▪️การบิณทบาตด้วยการนั่งรับบาตรหรือนั่งในรถรับบาตรไม่สมควรกระทำ
▪️สถานที่ที่เป็นแหล่งอโคจร พระภิกษุไม่ควรเข้าไปบิณทบาต
▪️การบิณฑบาตไม่ควรสูบบุหรี่ สวมรองเท้า พูดคุยกันโดยไม่มีเหตุจำเป็น ถ่ายเทอาหาร หรือทิ้งดอกไม้ให้กับเจ้าของร้านอาหาร หรือแย่งกันรับของปัจจัย
▪️เมื่อบิณฑบาตเสร็จแล้ว ไม่ควรยถา…สัพพี
** ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ในทุกระดับ ตลอดจนพระวินยาธิการ คอยตรวจตรา สอดส่องดูแล พระภิกษุสามเณรในการบิณบาตให้เป็นไปตามหลักพระธรรมวินัย โดยยึดหลักเสขิยวัตรเป็นเกณฑ์.