ผู้ว่าฯ ขอนแก่นเปิดแผนพัฒนาเมือง ลุย9อำเภอ สู่ ‘Smart city’ เมืองใหม่

 

ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่นได้ กล่าว ปาฐกถา ‘ยุทธศาสตร์สมาร์ทซิตี้จังหวัดขอนแก่น’ โครงการเพิ่มสมรรถนะบุคคลหลักสูตร“ผู้นำพัฒนาเมืองอัจฉริยะ”(Smart City Developer : SCD)เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ณ ราชาวดี รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล

จากข้อมูลล่าสุดปี 2561 GDP ขอนแก่น อยู่ที่ 220,000กว่าล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อหัวของคนขอนแก่น ปี 2561 อยู่ที่ 121,000 บาท เยอะที่สุดในภาคอีสาน มีรายได้จากภาคการเกษตร 10.47% คิดเป็นประมาณ 21,369ล้านบาท อีก89.53 % คิดเป็นประมาณ 182,752ล้านบาท  นอกภาคการเกษตร ที่ประกอบไปด้วย พาณิชยกรรม การบริการ การศึกษา และอุตสาหกรรม แต่ที่น่าห่วง กลุ่มคนที่มีศักยภาพเหล่านี้อาจต้องลดจำนวนลงไปเรื่อยๆเพราะอัตราการเกิดน้อยลง ตาย ย้ายออก  เครื่องจักรที่ผลิตทางเศรษฐกิจเราน้อยลงไปอีก คุณลักษณะของคนที่มีกำลังซื้อเริ่มบางลงไปอีก โดยเฉพาะภาคการศึกษา เมื่อก่อนเด็กกรุงเทพฯจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยขอนแก่นค่อนข้างเยอะ พ่อแม่ผู้ปกครองเองก็มั่นใจในความปลอดภัยของขอนแก่น  แต่ตอนนี้เริ่มมีน้อยลง ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวต่อ สิ่งที่เราจะต้องทำก็คือ เพิ่มเงินเข้าระบบเศรษฐกิจของจังหวัดขอนแก่น เพื่อให้รายได้เฉลี่ยต่อหัวสูงขึ้น  คือต้องเพิ่มสัดส่วนของการผลิตภาคอุตสาหกรรม เราต้องแสวงหา ‘อุตสาหกรรมใหม่’  คาดการณ์เศรษฐกิจของแก่นในอนาคตอีก20ปีข้างหน้า คาดการณ์โดยนักวิชาการ ถ้าเป็นไปตามการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่นักวิชาการคาดการณ์ไว้ คนขอนแก่นจะมีรายได้อยู่ที่ 235,000 บาท ยังถือว่าน้อยมากไม่ถึงเดือนละ2หมื่นบาท แล้วเราจะอยู่อย่างไร?ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าว ถึงแผนพัฒนาจังหวัดขอนแก่นปี2563 จะพัฒนา2ขาที่รัฐบาลเขาตั้งเอาไว้ คือสมาร์ทซิตี้ และ ไมซ์ซิตี้  สำหรับเรื่อง สมาร์ทซิตี้  ความหมายของ สมาร์ทซิตี้ แท้จริงแล้ว คือเมืองที่นำเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาปรับใช้ให้ชีวิตมีความสะดวกสบายมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เรายังไม่ถึงขั้นอัจฉริยะ แต่คนส่วนใหญ่จะเข้าใจผิด  แต่เราก็พยายามปั้นเมืองของเรา ที่สะดวกสบายโดยใช้เทคโนโลยี จังหวัดขอนแก่นได้รับการรับรองจากสำนักงาน สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (กพร.)โดยได้รับรางวัลเลิศรัฐ เป็นปีที่ 2 ในการเป็น ‘จังหวัดราชการ 4.0’ คือมีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีค่อนข้างมาก และปีนี้คาดว่าเราจะได้รับเป็นปีที่ 3. ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวถึง การพัฒนาจังหวัดในปีงบประมาณ 2563 จะแยกออกเป็น 2 ส่วน คือ ‘สมาร์ทซิตี้เมืองใหม่’ กับ ‘สมาร์ทซิตี้เมืองเดิม’ ในส่วนของ สมาร์ทซิตี้เมืองเดิม ก็คือ ในเขตเทศบาลเมืองนครขอนแก่น จะเน้นในเรื่องสมาร์ท  Mobility พยายามทำสมาร์ทสองแถว ทำขอนแก่นซิตี้บัส และรถไฟรางเบา LRT ฯลฯ สมาร์ทเฮลธ์ ที่ได้รับรางวัลเมืองอัจฉริยะด้านสาธารณสุขจาก IDC  และต่อจากนี้ไป จังหวัดขอนแก่นได้กำหนดยุทธศาสตร์ การพัฒนาสมาร์ทซิตี้เมืองใหม่ขึ้นมาอีก 2 เฟส เฟสที่1ประกอบไปด้วย 6 อำเภอ ได้แก่ 1.อำเภอน้ำพอง 2.อำเภอบ้านไผ่ 3.อำเภอชนบท 4.อำเภอชุมแพ 5.อำเภอภูเวียง 6.อำเภอเวียงเก่า

อ.น้ำพอง ตอนนี้มีการสร้างจุดจอดรถบรรทุก และท่าเรือบก เป็นสถานที่วางตู้คอนเทนเนอร์ของท่าเรือบก  และจะเป็นจุดที่นำขึ้นตู้ ตรงนี้จะเป็นจุดที่สำคัญ และจะเป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญ และยังมีแผนสร้างศูนย์ซ่อมเครื่องบินขนาดกลางและขนาดเล็ก พอเป็นอุตสาหกรรมแบบนี้ขึ้นมามันก็จะมีคนหลั่งไหลเข้าไปอยู่พอสมควร เราจะให้ทางอำเภอน้ำพองเตรียมพร้อมเรื่องนี้หาสิ่งอำนวยความสะดวกรองรับ สมาร์ทซิตี้เมืองใหม่ ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่น กล่าวว่า สำหรับ อ.บ้านไผ่ เป็นศูนย์รวมของรถบรรทุกน้ำมัน เขตเศรษฐกิจพิเศษ ไบโออีโคโนมี อนาคตรถไฟความเร็วสูงสาย นครสวรรค์-บ้านไผ่และรถไฟทางคู่สายใหม่ บ้านไผ่-นครพนม

อ.ชนบท สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2561จังหวัดขอนแก่นได้รับการรับรองจาก ยูเนสโก้ ให้เป็นเมืองหัตถกรรมโลกแห่งผ้ามัดหมี่เราจึงต้องมีการเตรียมความพร้อมให้กับนักท่องเที่ยว

“ปกติขอนแก่นนั้นจะจะขายผ้าได้ปีละประมาณ 1,269 ล้านบาทหลังจากที่จังหวัดขอนแก่นเราได้ รับรองเมืองหัตกรรมโลกผ้ามัดหมี่ และมีลายผ้าแคนแก่นคูณ เราสามารถขายได้ในปีถัดไป2,200 กว่าล้านบาทเพิ่มขึ้นมาเกือบพันกว่าล้านและในปี 2563 เราขายผ้าไหมได้ 3,400 ล้านแล้ว  เรายังวาดฝันไว้ว่าไม่เกิน 5 ปีเรา จะได้รายได้จากผ้าไหม ไม่ควรจะต้องต่ำกว่า1หมื่นล้านบาท” ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าวต่อ ในส่วนอีก2อำเภอสุดท้ายในเฟส1 เป็นอำเภอคู่แฝด คืออำเภอภูเวียงและเวียงเก่า  ซึ่งเราพัฒนาเป็นอุทยานธรณีระดับประเทศและเรามีไทม์ไลน์ในการดำเนินงานเพื่อที่จะเป็น อุทยานธรณีระดับโลก ไม่เกินปี 2566 ทั้งนี้ เพื่อเป็นแหล่งศึกษาวิจัยไดโนเสาร์ภาคอีสาน เพราะที่อำเภอภูเวียงและเวียงเก่า  ค้นพบถึง5สายพันธ์เยอะที่สุดในประเทศไทย  ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว  สำหรับ อ.ชุมแพ พัฒนาระบบถนน สายชุมแพ-สีชมพู ขยาย 4 เลน สายชุมแพ-ภูเขียว ขยายช่องจราจรเป็น8ช่องจราจร เชื่อมต่อถนนไปยังจังหวัดหนองบัวลำภู และที่สำคัญโรงพยาบาลชุมแพ จ.ขอนแก่น โชว์ศักยภาพยกระดับบริการผ่าตัดแบบ One Stop Service รวมทั้งเป็น Excellence Center ด้านศูนย์ส่องกล้องทางเดินอาหาร การผ่าตัดแบบแผลเล็ก และการผ่าตัดแบบไปกลับวันเดียว นอกจากนี้ยังจะมีการออกแบบวงแหวนบายพาสของอำเภอชุมแพ เพื่อรองรับการเป็นสมาร์ทซิตี้ ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าวต่อ สำหรับเฟสที่ 2 จะเป็น อ.พล อ.เขาสวนกวาง และ อ.อุบลรัตน์  สำหรับ อ.พล จะโดดเด่นเรื่องผ้าไหมมัดหมี่ ซึ่งทางสภาหัตกรรมโลกก็ได้มาประเมินพร้อมกันกับที่ อ.ชนบท

อ.เขาสวนกวาง มีไก่ย่างเขาสวนกวางที่ขึ้นชื่อ เป็นสินค้าGI และมีสวนสัตว์ขอนแก่น บนเนื้อที่ 3 พันไร่มีคนเข้ามาเที่ยวสวนสัตว์เดือนหนึ่งประมาณ 5 หมื่นคน เพราะฉะนั้นเราจะต้องพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวก พัฒนาคุณภาพชีวิตให้ กับนักท่องเที่ยวนักเดินทางด้วย

และอำเภอสุดท้าย คือ อุบลรัตน์ ปี2564 จะเตรียมลุยโครงการ ‘โฮบริด’ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน พลังน้ำ ผสาน โซลาร์เซลล์ บนเขื่อนอุบลรัตน์ ซึ่งจะเป็นการผลิตพลังงานสะอาดให้กับจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดโดยรอบ ดร.สมศักดิ์ ผวจ.ขอนแก่นกล่าว

 

 

แสดงความคิดเห็น