“สานิตย์ พลศรี” เดินหน้ากอบกู้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของตนเอง เช็คบิลข้าราชการที่เจตนาปลดเขาออกจากตำแหน่งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูชัยภูมิ กรณีแชร์ลอตตารี่ ยื่นถอดถอน “สมชาย ชาญณรงค์กุล” อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ออกจากตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา เตรียมยื่นฟ้องศาลทุจริตเอาผิดทางอาญาและเรียกค่าเสียหายทางแพ่งบุคคลที่เกี่ยวข้อง “สหกรณ์จังหวัดขอนแก่น”โดนด้วย
ภายหลังศาลปกครองสูงสุดได้คำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น ในคดีที่นายสานิตย์ พลศรี และพวก 6 คน ได้ยื่นฟ้องอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ และคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ เป็นเจ้าหน้าที่กระทำการโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
จากกรณีปลดนายสานิตย์ พลศรี ขณะดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดชัยภูมิ พร้อมคณะกรรมการฯ 15 คน ออกจากตำแหน่ง เมื่อวันที่ 22 มี.ค.55 โดยศาลชั้นต้นได้วินิจฉัยไปเมื่อวันที่ 10 ก.ย.55 และศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษายืนไปเมื่อวันที่ 30 ก.ค.63
รายงานข่าวแจ้งว่า นายสานิตย์ พลศรี ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมสวัสดิการ ลวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) จังหวัดชัยภูมิ ได้ทำหนังสือลงวันที่ 10 ส.ค.63 จำนวน 2 ฉบับ ถึงผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิและสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ เสนอให้ทำการประชาสัมพันธ์คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่เจ้าหน้าที่ให้พึงสังวร
นอกจากนั้น ยังได้ทำหนังสือลงวันที่ 27 ส.ค.63 อีก 2 ฉบับ ถึงประธานวุฒิสภาและนายกรัฐมนตรี โดยมีเนื้อหาโดยสรุปคล้ายกันว่า นายสมชาย ชาญณรงค์กุล สมาชิกวุฒิสภา อดีตอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เป็นผู้ถูกฟ้องคดีก่อนดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในคดีเป็นเจ้าพนักงานของรัฐกระทำการไม่ชอบด้วยกฎหมาย ย่อมหมายถึงการเป็นบุคคลต้องห้าม เป็นข้าราชการการเมืองในตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาด้วย เนื่องจากไม่มีความเหมาะสมในบทบาท โดยขอให้ทำการถอดถอนออกจากตำแหน่งต่อไป
นายสานิตย์ เปิดเผยเพิ่มเติมว่า นอกจากการทำหนังสือข้างต้นแล้ว เขายังได้เตรียมดำเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องในการกระทำให้เขาเสื่อมเสียเกียรติยศและชื่อเสียงทุกคนตามที่ระบุไว้ในคำฟ้องดังกล่าว ซึ่งจะได้ยื่นฟ้องอาญามาตรา 157 ต่อศาลทุจริตในพื้นที่จ.สุรินทร์ และเรียกค่าเสียหายไปพร้อมด้วย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดตัวเลข อยู่ระหว่างปรึกษาทนายความ
“นายทะเบียนสหกรณ์ขณะนั้น คือ นายสมชาย ชาญณรงค์กุล ซึ่งเป็นสมาชิกวุฒิสภาในปัจจุบัน รวมทั้งคณะกรรมการพัฒนาสหกรณ์แห่งชาติ จำนวน 18 คน โดยรมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นรองประธาน”นายสานิตย์กล่าวและว่า
สำหรับบุคคลที่จะมีการดำเนินคดีเพิ่มเติมได้แก่ นายโอภาส กลั่นบุตร รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (ตำแหน่งขณะนั้น) นายสุกรี พันละบุตร ผู้ตรวจราชการกรมส่งเสริมสหกรณ์ (ตำแหน่งขณะนั้) นายสุพจน์ รัตนวิเชียร อดีตสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ สหกรณ์จังหวัดกาฬสินธ์(ตำแหน่งขณะนั้น) นายบุญเสริม ไกรสินธ์ สหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ (ตำแหน่งขณะนั้น)
นายวรรณศักดิ์ ไม้จัตุรัส ผอ.กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์ รักษาราชการแทนสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ (ตำแหน่งในขณะนั้น) และนางวราภรณ์ กุลบวรรัตน์ ผอ.กลุ่มจัดตั้งและสำนักงานส่งเสริมสหกรณ์จังหวัดชัยภูมิ (ตำแหน่งขณะนั้น) ปัจจุบันเป็นสหกรณ์จังหวัดขอนแก่น
“บุคคลเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องในการดำเนินการ ปลดผมออกจากตำแหน่งประธานสหกรณ์ครูจังหวัดชัยภูมิในขณะนั้น ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่มีเจตนาไปในทางมิชอบ และศาลปกครองสูงสุดได้วินิจฉัยชี้ขาดออกมาแล้ว โดยผมจะดำเนินคดีจนถึงที่สุดแน่นอน”นายสานิตย์กล่าว
นายสานิตย์ พลศรี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครู จังหวัดชัยภูมิ เขาได้ปฎิเสธที่จะชำเงินค่ามัดจำล็อตตารี่ตามสัญญาที่ประธานและคณะกรรมการสหกรณ์ชุดก่อนหน้าตนเองได้ทำไว้ หลังจากพบว่า ไม่มีโค้วต้าล้อตตารี่จริง และมีผลประโยชน์แอบแผงอยู่จำนวนมา เพื่อรักษาผลประโยชน์ของสหกรณ์ แต่ปรากฏว่า เขาได้ถูกนายทะเบียนสหกรณ์ขณะนั้นปลดออกจากตำแหน่ง
นายสานิตย์จึงได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครองจังหวัดนครราชสีมา และศาลได้วินิจฉัยว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นไปโดยไม่ชอบ เมื่อวันที่ 10 ก.ย..55 จำเลยได้ยื่นอุทรณ์ ต่อมาศาลปกครองสูงสุด ได้พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลปกครองชั้นต้น เมื่อวันที่ 30 ก.ค.63
สำหรับกรณีของนายสานิตย์นั้น ทำให้มีการเปิดโปงกรณีแชร์ลอตตารี่ที่มีการกระทำการโดยไม่สุจริตร่วมกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูทั่วประเทศจำนวน 13 แห่ง และนำไปสู่การตรวจสอบและดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งทางแพ่งและอาญาไปแล้ว
เชื่อว่า การพิพากษาคดีของศาลปกครองสูงสุดครั้งนี้ จะเป็นการจุดประกายให้มีการดำเนินการกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูบางแห่งที่ยังมีพฤติกรรมประพฤติมิชอบอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเงียบหายไปนาน