ผู้ว่าฯ นครราชสีมา เผย คนเมืองกรุงแห่ซื้อบ้านหลังที่ 2 เพื่อย้ายที่อยู่มาโคราชคึกคัก คาดได้อานิสงค์จากถนนมอเตอร์เวย์ และรถไฟความเร็วสูง ระดมความคิด ส.ส.-ส.ว. วางแผนพัฒนาเมืองรับการเติบโตในอนาคต
ที่ห้องประชุมลำปลายมาศ ชั้น 4 อาคาร 2 โรงแรมแคนทารี่ โคราช นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดการประชุมสัมมนารับฟังความคิดเห็น การทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ระยะ 5 ปี (พ.ศ.2561-2565) โดยมี ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง 15 เขต, ส.ว., หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และประชาชนผู้ที่สนใจทั่วไป ร่วมประชุมกว่า 300 คน ทั้งนี้ได้มีการเปิดโอกาสให้ ส.ส. และ ส.ว. ขึ้นกล่าวนำเสนอแนวทางการพัฒนาจังหวัด คนละ 10 นาที เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการได้รับทราบถึงปัญหาและแนวทางการทำงานพัฒนาจังหวัดร่วมกับ ส.ส. และ ส.ว. ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน
นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า เนื่องจากพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีความกว้างขวาง ดังนั้นการพัฒนาจังหวัดจึงต้องอาศัยความร่วมมือกับทุกฝ่าย เพื่อให้การพัฒนาเป็นไปอย่างทั่วถึงและไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะ ส.ส. และ ส.ว. ซึ่งทุกคนมีความรู้ ความเข้าใจกับพื้นที่เป็นอย่างดี อีกทั้งยังได้รับประสบการณ์จากการไปศึกษาดูงานในต่างประเทศมาแล้ว ดังนั้นในการทบทวนแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา ระยะ 5 ปีนี้ จึงต้องเชิญท่านเหล่านี้มานำเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อที่ทางจังหวัดจะได้นำข้อมูลกำหนดแนวทางปฏิบัติงาน ให้กับหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ให้สามารถทำงานพัฒนาพื้นที่จังหวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจากการนำเสนอข้อมูล ก็พบว่าจังหวัดนครราชสีมา มีศักยภาพมากที่จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา และศูนย์กลางของพลังงานทดแทนแห่งอนาคต เพียงแต่ยังมีปัญหาเรื่องภัยแล้งอยู่บางพื้นที่เท่านั้น ซึ่งต้องมาร่วมกันหาทางแก้ไขปัญหาต่อไป
ขณะเดียวกันพื้นที่ จ.นครราชสีมา ปัจจุบันก็ได้รับความสนใจจากประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ที่ย้ายถิ่นฐานมาซื้อบ้าน หรือสร้างบ้าน เพื่อใช้เป็นบ้านหลังที่ 2 ของคนเมืองเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงปีที่ผ่านมา พบว่ามีคนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มาซื้อบ้านอยู่ในพื้นที่ อ.ปากช่อง และ อ.เมืองนครราชสีมา อย่างคึกคัก เนื่องจากปลายปี 2564 ถนนมอเตอร์เวย์ บางปะอิน-โคราช ก็จะแล้วเสร็จเปิดใช้อย่างเป็นทางการ ก็จะทำให้การเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร สู่พื้นที่ จ.นครราชสีมา สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น และในปี 2568 รถไฟความเร็วสูงก็จะสร้างแล้วเสร็จ ยิ่งจะทำให้การเดินทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-โคราช ใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้นเอง ดังนั้นเมื่อการคมนาคมสะดวกรวดเร็ว ประกอบกับพื้นที่ จ.นครราชสีมา มีอากาศที่บริสุทธิ์ มีอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ซึ่งเป็นสถานีรถไฟความเร็วสูง ตัวเมืองโคราชเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา และราคาบ้านก็ไม่แพงด้วย จึงเหมาะกับการมาสร้างบ้านหลังที่ 2 ใช้เป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวคนเมืองได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นทางจังหวัดนครราชสีมา จึงต้องมีการวางแผนพัฒนาพื้นที่ให้สอดคล้องกับความเจริญเติบโตทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต