นายกฯสั่งเร่ง!!ช่วยปชช.เข้าถึงแหล่งเงินกู้ลุยปราบเจ้าหนี้ดอกเบี้ยโหด

นายกรัฐมนตรี สั่งเดินหน้าช่วยประชาชนรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนและจัดการเจ้าหนี้นอกระบบ

นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความห่วงใยประชาชนผู้ที่ต้องการเข้าถึงเงินกู้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่มีสินทรัพย์และรายได้ที่มั่นคง ยิ่งในสภาวะที่เศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ความจำเป็นที่ต้องกู้มาใช้ในสิ่งจำเป็นอาจมีเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอเรื่องการออกใบอนุญาตให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อย ได้แก่ สินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) ที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงการคลัง เพิ่มช่องทางให้ประชาชนรายย่อยเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบ รวมถึงเป็นการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบในเวลาเดียวกันด้วย โดยผู้ประกอบธุรกิจสามารถเรียกเก็บดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการและค่าธรรมเนียมใดๆ ได้ไม่เกินร้อยละ 36 ต่อปี ในขณะที่ผู้กู้สามารถกู้เงินในระบบได้ง่ายกว่าเดิม รายละไม่เกิน 50,000 บาท ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เงินต้นและดอกเบี้ยลดลงเรื่อยๆ ปัจจุบันผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ใน 72 จังหวัดทั่วประเทศ อนุมัติสินเชื่อแก่ประชาชนรายย่อยไปแล้วจำนวนทั้งสิ้น 328,300 บัญชี คิดเป็นวงเงิน 8,250.38 ล้านบาท

นอกจากนี้ รัฐบาลยังมอบหมายให้ธนาคารออมสิน เป็นอีกหน่วยงานหลักในการช่วยเหลือประชาชนรายย่อยให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยทางธนาคาร ได้ออก “สินเชื่อเสริมพลังฐานราก” รอบ 2 ที่กู้ได้สูงสุดได้ไม่เกินรายละ 50,000 บาท คิดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.35 ต่อเดือน (Flat Rate) ระยะเวลาผ่อนชำระเงินกู้ไม่เกิน 3 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลค้ำประกัน อีกทั้งยังปลอดชำระเงินต้นและดอกเบี้ย หรือไม่ต้องชำระเงินงวดใน 6 เดือนแรก

นายกรัฐมนตรี สั่งการเข้มกับการเอาผิดเจ้าหนี้นอกระบบผิดกฎหมาย และกำชับให้ทุกภาคส่วนทำงานอย่างบูรณาการตามนโยบายแก้หนี้นอกระบบของรัฐบาล ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2563 สามารถจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายได้ 7,476 ราย สำหรับประชาชนที่ถูกขูดรีดจากเจ้าหนี้ผิดกฎหมาย สามารถร้องเรียนได้โดยตรงที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สายด่วน 1599 ศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สายด่วน 1359 ศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้และประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม (ศนธ.ยธ.) โทร. 0 2575 3344

 

ที่มา:สำนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์

แสดงความคิดเห็น