ทัวร์ลงคำชะโนด!!หลังประกาศไม่ต้อนรับนทท.ชียงใหม่-เชียงราย หวั่นแพร่โควิด-19

#อย่าหาทำ ศูนย์อำนวยการคำชะโนด หลังชาวโซเชียลฯ แชร์โพสต์ประกาศไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่มาจากเชียงราย-เชียงใหม่เข้าท่องเที่ยวกราบไหว้ปู่-ย่าพญานาค อ้างเป็นการควบคุมโรคโควิดไม่ให้แพร่ระบาด บริษัทนำเที่ยวเผยทำเสียหายเพราะกรุ๊ปทัวร์จองล่วงหน้าไว้แล้ว ขณะที่ชาวเหนือรุมด่า หลายรายถึงขั้นจะบอยคอตไม่เหยียบคำชะโนดอีก
#ล่าสุด ศูนย์อำนวยการคำชะโนด ”โพสต์ขออภัยชาวเชียงใหม่-เชียงราย ยอมรับผิดใช้ข้อความไม่เหมาะสม

มีรายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ในสังคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ในเชิงตำหนิกันอย่างมาก กรณีทางผู้ดูแลเกาะคำชะโนด แหล่งท่องเที่ยวลี้ลับชื่อดังเกี่ยวกับพญานาค ได้ออกประกาศห้ามไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจังหวัดเชียงราย และเชียงใหม่ เพราะมองว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจนำเชื้อไวรัสโควิด-19 มาแพร่ระบาด

โดยข้อความที่ประกาศในแฟนเพจศูนย์อำนวยการคำชะโนด อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ระบุว่า “เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโรค Covid-19 ใน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย เพื่อให้การควบคุมโรคไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด จึงขอให้คณะกรรมการคำชะโนดไม่รับนักท่องเที่ยวที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าว จนถึงวันที่ 14 ธ.ค. 63 ขออภัยนักท่องเที่ยวในความไม่สะดวกนะคะ”

แหล่งข่าวบริษัทนำเที่ยวรายหนึ่งใน จ.เชียงราย แสดงความเห็นต่อกรณีประกาศดังกล่าวว่า ส่งผลกระทบต่อธุรกิจรถตู้นำเที่ยวในพื้นที่ภาคเหนือ โดยเฉพาะเชียงใหม่และเชียงรายเป็นอย่างมาก เพราะคำชะโนดเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งหนึ่งที่ชาวบ้านทางภาคเหนืออยากเดินทางไปกราบไหวปู่-ย่าพญานาค เพื่อขอพรหรือขอโชคลาภ ตอนนี้มีกรุ๊ปทัวร์จองรถตู้ของตนไปคำชะโนดในช่วงวันหยุดยาวนี้มากถึง 5 กลุ่ม

“เมื่อทางคำชะโนดไม่ให้เข้าเที่ยวอย่างนี้ ทางผมก็เดินทางไปไม่ได้ เราได้แจ้งข่าวไปยังลูกค้าที่จองรถไว้แล้ว พวกเขาก็ไม่ค่อยพอใจที่ถูกห้ามถูกรังเกียจขนาดนี้ เสียความรู้สึกมาก” แหล่งข่าวกล่าว และบอกอีกว่า ยอมรับว่าเหตุการณ์แพร่ระบาดโควิดที่มีชาวเชียงรายติดเชื้อมาจากฝั่งท่าขี้เหล็กกันหลายคนอาจทำให้คนในสังคมกลัว แต่มันก็มีมาตรการป้องกันที่ทำให้เสี่ยงน้อยลงหรือไม่เสี่ยงเลยถ้าปฏิบัติตามกันอย่างเคร่งครัด ทั้งใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์บ่อยๆ และใช่ว่าคนเชียงรายและเชียงใหม่ทุกคนเป็นกลุ่มเสี่ยงกันหมด

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบความคิดเห็นของประชาชนในแฟนเพจหลายบัญชี โดยเฉพาะในเพจข่าว MGR online ภาคเหนือ พบว่ามีแต่คนไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวของศูนย์อำนวยการคำชะโนด เช่น ถึงขั้นแบบนี้เลยเหรอ ตายๆ ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร รังเกียจกันแบบนี้เลยเหรอ ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการออกมาแถลงการณ์ แบบนี้, ตลาดที่นั่นมีปลาขายไหมครับ? ถ้าไม่มี ขอหมู่เฮาช่วยกันส่งไปให้คนที่เป็นต้นคิดออกประกาศนี้ด้วยครับ นักท่องเที่ยวจากที่อื่น ที่ตั้งใจออกเดินทาง เขามีแพลน มาเที่ยวเชียงใหม่ แล้วก็ ไปเชียงราย แล้วก็ไป อุดร ต่อด้วยขอนแก่น คิดซิ! ว่ามีนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ไหม?, บ้านผมอยู่ใกล้คำชะโนด แต่ผมไม่เห็นด้วยเลย ที่ออกกฎแบบนี้ น่าจะหาทางออกได้ดีกว่านี้, ขนาดนั้นเลยเหรอ.. เราควรยอมรับที่จะอยู่กับโรคนี้ค่ะ อีกทั้งปีของปีหน้า ถ้าเจอที่จังหวัดไหนคนจังหวัดนั้นโดนรังเกียจ ไม่ถูกต้องค่ะ, รวมตัวกันเลิกไปสถานที่แห่งนี้ก็จบ ฯลฯ

ล่าสุดวันที่ 8 ธ.ค. เพจศูนย์อำนวยการคำชะโนดฯ ได้โพสต์ข้อความใหม่ ระบุว่า ตามที่ปรากฏข่าวสารเกี่ยวกับข้อความการเข้าสักการะในพื้นที่คำชะโนดของชาวจังหวัดเชียงราย เชียงใหม่นั้น คณะกรรมการบริหารคำชะโนดต้องขอประทานอภัยต่อป้ายข้อความดังกล่าวที่จัดทำขึ้นโดยความเข้าใจคลาดเคลื่อนในขณะนั้น และอาจใช้ข้อความที่ไม่เหมาะสม

ดังนั้น ขอเรียนว่าขณะนี้ทุกท่านสามารถเข้าสักการะได้ตามปกติตามมาตรการของสาธารณสุข ทั้งนี้ คณะกรรมการบริหารคำชะโนดจะได้ระมัดระวังการจัดทำข้อความต่างๆ ให้มากที่สุดต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

นายพงษ์ศักดิ์ ศรีชนะ กำนันตำบลบ้านม่วง อ.บ้านดุง ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการบริหารคำชะโนดได้เปิดเผยต่อผู้สื่อข่าวต่อกรณีดังกล่าวว่า ข้อความดังกล่าวคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริง เพราะนักท่องเที่ยวที่มาจากจังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่ยังสามารถเข้าเที่ยวชม กราบไหว้ขอพรจากปู่พญานาคศรีสุทโธและย่าปทุมมาได้ตามปกติ อย่างกรณีวันนี้ก็มีนักท่องเที่ยวมาจากเชียงใหม่และเชียงราย 2 คันรถบัส โดยช่วงเช้าเป็นทัวร์จากเชียงใหม่ 43 คน

นายพงษ์ศักดิ์กล่าวว่า คณะกรรมการบริหารคำชะโนดไม่ได้รังเกียจนักท่องเที่ยวจากเชียงใหม่-เชียงรายแต่อย่างใด ยินดีต้อนรับเสมอ เพียงแต่ในห้วงนี้เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย นักท่องเที่ยวหรือนักแสวงบุญที่มาจาก 2 จังหวัดดังกล่าวจะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ

คือแยกกลุ่มออกจากนักท่องเที่ยวที่มาจากที่อื่น ไม่ปะปนกับกลุ่มทั่วไป และทุกคนต้องสแกนบัตรประชาชนแสดงตัวตนชัดเจน

“สำคัญที่สุดนักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าจะมาจากภูมิลำเนาใด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคของสาธารณสุข คือ วัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ และต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา และรักษาระยะห่างให้พอเหมาะ เพียงแค่นี้ก็โอเคแล้ว” นายสมศักดิ์กล่าว

ที่มา :MGR Online อีสานบ้านเฮา
แสดงความคิดเห็น