ผู้ว่าฯขอนแก่น ยกระดับป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อย่างเข้มงวด ตั้งจุดตรวจหลัก 3 จุดในเขตติดต่อกับจังหวัดข้างเคียงตรวจเข้มการลักลอบหลบหนีเข้าเมืองพร้อมยืนยันขอนแก่นไม่พบผู้ติดเชื้อตามที่ข่าวลือ
วันที่ 9 ธ.ค. 63 ที่ห้องประชุมแก่นเมือง ศาลากลางจังหวัดขอนแก่น ดร.สมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จังหวัดขอนแก่น (ศบฉ.จ.ขก.) ในการดำเนินงานในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (covid-19) ตามประกาศ เรื่อง การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร คราวที่ 8 ได้ขยายระยะเวลาการใช้บังคับประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปจนถึงวันที่ 15 มกราคม 2564 ประกาศ เรื่อง การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังคงมีผลบังคับ ประกาศ เรื่อง การให้ข้อกำหนดประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินยังมีผลบังคับใช้

ทั้งนี้ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 covid 19 (ศบค.)กระทรวงมหาดไทย ได้แจ้งกำชับให้จังหวัดวางมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดในพื้นที่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 covid-19 ของประเทศไทย ที่มีผู้ลักลอบเข้าประเทศจากประเทศเพื่อนบ้าน นายกรัฐมนตรีจึงมีบัญชาให้หน่วยงานผู้ปฏิบัติควบคุมการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จากประเทศเพื่อนบ้าน โดยแบ่งพื้นที่และความรับผิดชอบให้ชัดเจน ดังนี้ 1. การปฏิบัติในพื้นที่ชายแดน 2. การปฏิบัติในพื้นที่ตอนในให้ประสานการปฏิบัติกับตำรวจภูธร ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรวมทั้งเจ้าหน้าที่ศุลกากร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองโรค บุคคลและการขนส่งสินค้าจากประเทศเพื่อนบ้าน ดังนี้ การคัดกรองบุคคลที่เดินทางเข้าเมืองตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข การคัดกรองรถขนส่งสินค้าให้วางระบบการขนส่งสินค้าตามแนวชายแดนกำหนดจุดรับ ส่ง สินค้าให้อยู่ในพื้นที่และระยะเวลาที่กำหนด กำหนดให้มีผู้บัญชาการเหตุการณ์ประจำช่องทางผ่านแดนทุกแห่งที่มีการอนุญาตให้ใช้ในการผ่านเข้า ออก ของบุคคล สินค้าและยานพาหนะ ที่ชัดเจนสามารถปฏิบัติงานได้ตลอด 24 ชั่วโมง การปฏิบัติในพื้นที่หมู่บ้าน ชุมชน ให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน คณะกรรมการหมู่บ้าน ผู้นำชุมชนอาสาสมัครในพื้นที่


รวมทั้งขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่สำรวจตรวจสอบบุคคลที่เดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน ชุมชน รวมทั้งบุคคลที่เคยอยู่ในหมู่บ้าน ชุมชน แต่เดินทางไปทำงานในพื้นที่เสี่ยง โดยขอให้แจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมตรวจสอบและดำเนินการ หากพบบุคคลที่เดินทางจากพื้นที่เสี่ยงให้ดำเนินการตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขและกรณีพบการละเมิดให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมาย ชี้แจงทำความเข้าใจกับข้าราชการบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ห้ามมิให้ปล่อยปละละเลยหรือรู้เห็นเป็นใจในพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง ไม่สอดคล้องกับนโยบายและมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นความผิดทางวินัยหรืออาญา การสร้างการรับรู้ความเข้าใจในการขอความร่วมมือภาคประชาชนและภาคประชาสังคม โดยจังหวัดขอนแก่นได้ประชุมเพื่อพิจารณาการจัดตั้งจุดตรวจ จุดสกัด และจุดคัดกรองในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น อีกด้วย
แสดงความคิดเห็น