สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ออกแถลงการณ์ “เอกราช ช่างเหลา” เบี้ยวไม่นำเงินที่ยักยอกไป 431 ล้าน มาคืนตามกำหนด ทำหนังสือขอเลื่อน 6 เดือน สหกรณ์ฯไม่อนุมัติ มอบทนายฟ้องแพ่ง แจงคดีคืบหน้า ด้านตำรวจส่งสำนวนให้อัยการแล้ว ส่วนการฟ้องเองศาลนัดไต่สวน 23 ก.พ. ย้ำ 3 ข้อหา ยักยอกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสารและฟอกเงิน นัดประชุมผู้แทนแต่งดำไว้ทุกข์ 28 ธ.ค.พร้อมประขุมใหญ่สามัญ 12 ก.พ. 64
ดร.อนุศาสตร์ สอนศีลพงศ์ ประธานสหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดขอนแก่น ได้ออกแถลงการณ์ถึงสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ลงวันที่ 21 ธ.ค.2563 ระบุว่า ตามที่กลุ่มบุคคลประกอบด้วย นายเอกราช ช่างเหลา นายนพรัตน์ สร้างนานอก นายสมศักดิ์ โคตรวงศ์ นายนิวัฒร นิราศสูงเนิน และนางวราพร ธรณี ร่วมกันยักยอกทรัพย์ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น จำกัด โดยการเบิกเงินจากบัญชีเงินฝากประจำธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขา ถนนดินแดง เลขที่บัญชี 144 – 101918 – 9 ซึ่งมีเงินหายไปจำนวน 431,862,070 บาท
เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2554 แต่ทราบข้อเท็จจริงเมื่อมีการตรวจสอบเมื่อวันที่ 25 พ.ย.2562 โดยคณะกรรมการชุดปัจจุบันและคณะกรรมการดำเนินการได้ร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสถานีตำรวจภูธรเมืองขอนแก่น ดีเอสไอ และฟ้องตรงที่ศาลอาญา ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ตามที่ได้เคยแจ้งสมาชิกไปแล้วนั้น
แถลงการณ์ระบุว่า นายเอกราช ช่างเหลา ได้มาทำหนังสือรับสภาพหนี้ (รับสารภาพ) ว่าได้กระทำผิดจริง เมื่อวันที่ 27 ธ.ค.2562 และกำหนดนำเงินที่ยักยอกไปกลับคืนให้สหกรณ์ฯภายใน 27 ธ.ค.2563 พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา 6.75 % และได้นำหลักทรัพย์มาเป็นหลักประกันเป็นที่ดิน 10 แปลง มูลค่าประเมิน 169,710,750 บาท ครั้งที่สองเป็นที่ดิน 3 แปลงมูลค่าประเมิน 129,337,500 บาท เงื่อนไขตามสัญญารับสภาพหนี้ ต้องคืนเงินที่ยักยอกทรัพย์ไปเป็นเงินสดทั้งหมด ภายในวันที่ 27 ธ.ค. 2563 โดยในวันที่ 18 ธ.ค.2563 นายเอกราช ช่างเหลา ได้มีหนังสือขอขยายเวลาออกไปอีก 6 เดือน คณะกรรมการดำเนินการมีมติไม่อนุมัติ และได้มอบทนายความดำเนินการด้านคดีความแพ่งต่อไป
แถลงการณ์ระบุว่า การดำเนินการทางคดีอาญากับกลุ่มคณะบุคคลดังกล่าวได้รับการแจ้งความคืบหน้าคดีจากสภ.เมืองขอนแก่น ซึ่งเป็นการแจ้งความคืบหน้าครั้งที่ 5 ว่าได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว อยู่ระหว่างนำผู้ต้องหาและสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ ส่วนการฟ้องตรงที่ศาลอาญาขอนแก่นนั้น ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 23 ก.พ.2564 แต่เพื่อความรอบคอบด้านคดีอาจต้องรอพนักงานอัยการเพื่อประโยชน์สูงสุดของสหกรณ์ฯ
การดำเนินการร้องทุกข์กับกลุ่มบุคคลคณะดังกล่าว นอกจากข้อหายักยอกทรัพย์แล้ว ยังมีข้อหาเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ และกระทำความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ตามข้อบังคับสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น ข้อ 42 (7) คณะกรรมการดำเนินการจะแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนคดีดังกล่าวเป็นปฏิปักษ์หรือทำให้เสื่อมเสียแก่สหกรณ์ฯหรือไม่อย่างไร เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับที่กำหนดผลการสอบสวนเป็นเรื่องเสียหายตามข้อบังคับ จะเสนอคณะกรรมการฯให้ขาดจากสมาชิกภาพตามข้อบังคับ 40(6) ต่อไป
จากการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดำเนินการฯ จึงให้ความเชื่อมั่นว่า ผู้กระทำความผิดต้องได้รับโทษและสหกรณ์ฯจะต้องได้ทรัพย์ที่หายไปกลับคืนมาอย่างแน่นอน ตามกระบวนการยุติธรรม
จากเหตุการณ์ดังกล่าว กลุ่มคณะบุคคลไม่ได้ปฏิบัติตามสัญญารับสภาพหนี้ เราต้องมาร่วมกันระดมพลังความคิดและชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น พร้อมกับเรื่องสำคัญอื่นๆ เช่นกองทุนต่างๆ ซึ่งเปลี่ยนไปเป็นทุนสวัสดิการสงเคราะห์ คณะกรรมการฯจึงกำหนดประชุมผู้แทนสมาชิกในวันที่ 28 ธ.ค.2563 เวลา 8.30 น.เป็นต้นไป ณ โรงแมวีวิธ ขอนแก่น โดยขอความร่วมมือแต่งกายชุดขาวดำ
รแม้ว่าสหกรณ์จะเกิดวิกฤติดังกล่าว แต่คณะกรรมการฯก็พยายามอย่างเต็มที่ในการแก้ปัญหาต่างๆ เพื่อให้สหกรณ์เดินหน้าไปอย่างมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน เป็นที่พึ่งของสมาชิก สภาพคล่องการดำเนินการอย่างปกติ ปัจจุบันข้อมูล ณ วันที่ 30 พ.ย.2563 จำนวนสมาชิก 19,755 คน ทุนดำเนินการ 16,005,111,692.55 มีกำไรสะสม 1,055,610,885.38 บาท
ในการตั้งค่าหนี้สงสัยเผื่อจะสูญลูกหนี้เงินสดขาดบัญชีนั้น ได้ดำเนินครอบคลุมถูกต้องเรียบร้อยแล้ว ไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินงานของสหกรณ์ และการจัดสรรกำไรสุทธิประจำปี 2563 จึงฝากไปยังสมาชิกและสถาบันการเงินเจ้าหนี้ไม่ต้องตกใจและวิตกกังวลใดใด
ปัจจุบันกระบวนการตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใสตามหลักธรรมมาภิบาลเข้มแข็งดีมาก และไม่มีการนำเงินสหกรณ์ออกนอกระบบโดยเด็ดขาด คณะกรรมการดำเนินงานกำหนดประชุมใหญ่สามัญประจำปี วันที่ 12 ก.พ.2564 เพื่อรายงานประจำปี จัดสรรกำไรสุทธิ เป็นสิ่งที่สมาชิกรอความหวังคือเงินปันผลเฉลี่ยคืน จึงให้ความเชื่อมั่นว่า เมื่อที่ประชุมใหญ่อนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิ สหกรณ์จะโอนเงินเข้าบัญชีเป็นรายบุคคลทันทีในวันนั้น
ยกเว้นบางคนที่ไม่ยืนยันเลขบัญชีธนาคาร คณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการจะบริหารจัดการทุกอย่างให้เกิดความโปร่งใส ยึดประโยชน์สูงสุดที่จะเกิดกับมวลสมาชิกเป็นสำคัญ ขอเชิญสมาชิกรวมพลังสร้างสรรค์สหกรณ์ของเราให้เป็นสหกรณ์สีขาว
………………………..