กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ซึ่งบริหารงานเทศบาลนครขอนแก่นแบบผูกขาดต่อเนื่องมายาวนานโดยไม่มีคู่แข่ง กว่า 25 ปี อาจจะถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ ที่เป็นความท้าทายอย่างยิ่งของผู้บริหารกลุ่ม เมื่อเกิดปรากฏการณ์ที่ชัดเจนว่า มีปัญหาความขัดแย้งภายในกลุ่มถึงขั้นแตกหักแล้ว
ช่วงปลายปี 2561 นายธนภณ กิตติวิมลชัย สมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ได้ทำหนังสือร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีฯ ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) อธิบดีกรมธนารักษ์ และหัวหน้าคณะรักษาเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.)
กรณีอนุญาตให้เอกชนรายหนึ่ง ก่อสร้างป้ายโฆษณาขึ้นมาหาประโยชน์บนที่ดินของกรมธนารักษ์ที่อยู่ในการดูแลของเทศบาลนครขอนแก่น จนในที่สุดก็ได้มีการรื้อถอนป้ายดังกล่าวออกไป เกมนี้ถือว่าเล่นกันแรงถึงขั้นแตกหัก และคงไม่สามารถประสานกันแล้วระหว่างคู่กรณี
ไม่เพียงเฉพาะกรณีป้ายโฆษณาเท่านั้น นายธนภณ ยังได้เดินหน้าตรวจสอบการทำงานของ นายธีระศักดิ์ นายกเทศมนตรีฯที่มาจากกลุ่มเดียวกันแบบเข้มข้นในหลายๆเรื่อง การประชุมสภาเทศบาลนครขอนแก่น ในแต่ละครั้งต้องใช้เวลาอภิปรายยาวนาน โดยเฉพาะการพิจารณางบประมาณต้องซักไซร้กันแบบเอาเป็นเอาตาย กว่าจะสามารถผ่านการพิจารณาของสภาเทศบาลฯไปได้แทบจะกระอัก
โดยข้อกล่าวหาต่างๆนั้น นายกฯธีร์ ได้ชี้แจงว่า ไม่มีมูลความจริง และได้มีการยุติในทางคดีไปแล้ว การออกมากล่าวถึงเป็นเพียงเจตนาที่หยิบยกขึ้นมาเพื่อโจมตีในทางการเมืองเท่านั้น ซึ่งข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรก็คงจะต้องรอดูกระบวนการตรวจสอบต่อไป
ความขัดแย้งยิ่งชัดเจนมากขึ้นไปอีก เมื่อ“เสี่ยโด่ง” ชัชวาล พรอมรธรรม หนึ่งในทีมรองนายกเทศมนตรี คนรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ในอนาคตอันใกล้ได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งไปแบบเงียบ ๆ โดยไม่มีใครทราบสาเหตุที่แท้จริงว่าคืออะไร ?
ยิ่งตอกย้ำรอยร้าวของกลุ่มฯแบบไม่อาจปฏิเสธได้ เมื่อ “น้าตุ้” เรืองชัย ตราชู ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น ที่มีสถานะเป็นประธานกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น และถือเป็นหนึ่งในสามผู้อาวุโสของกลุ่มฯได้ยื่นใบลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯ และสมาชิกสภาฯ โดยไม่มีใครรู้สาเหตุที่แท้จริงด้วยเช่นกัน หลายคนก็มีคำถามว่าเกิดอะไรขึ้น ?
(อีสานบิซ ได้สอบถามไปยัง “น้าตุ๊” เรืองชัย เพื่อขอทราบเหตุผลในการลาออกจากตำแหน่งประธานสภาฯและการยุติบทบาท ได้รับคำตอบว่า ไม่ขอพูดเหตุผลในการลาออก รวมทั้งเรื่องการยุติบทบาทในกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น “เอาไว้หลังเลือกตั้งค่อยว่ากันนะครับ”)
สถานการณ์เช่นนี้คงไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป 3 ผู้อาวุโส ซึ่งเป็นคีย์แมนสำคัญของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ซึ่งประกอบไปด้วย “เสี่ยติ่ง” ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ “เสี่ยต้อง” พีระพล พัฒนพีระเดช เลขาธิการกลุ่มฯ รวมไปถึง “น้าตุ๊” เรืองชัย ตราชู ที่แม้จะลาออกจากตำแหน่งประธานสภาเทศบาลฯ แต่ยังคงเป็นหนึ่งในผู้กำหนดทิศทางของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นจึงได้ตัดสินใจนัดหมายสมาชิกกลุ่มทั้งหมดมาประชุมหารือร่วมกันที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563
การประชุมในวันนั้น ผู้อาวุโสของกลุ่มฯ 3 คน ใช้วิธีการคุยกับสมาชิกแบบคราวละ 1 คนเรียงลำดับไป โดยใช้เวลาตั้งแต่ 9.00 น. ไปจนถึง 21.00 น. เป็นการคุยแบบเปิดใจสมาชิกรายบุคคลว่า มีความคิดเห็นอย่างไรกับปัญหาที่เกิดขึ้นในกลุ่มฯและมีข้อเสนออย่างไรที่จะคลี่คลายปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น
เป็นการรับฟังความคิดเห็นของสมาชิก เพื่อประมวลข้อมูลและประเมินสถานการณ์ของปัญหา ซึ่งก็สร้างความหนักใจอย่างมาก ให้แก่ 3 ผู้อาวุโสของกลุ่มเพราะหลังจากพูดคุยแล้วก็ยังคงไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป ?
มีความชัดเจนว่า สมาชิกจำนวนหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วย นายธนภณ กิตติวิมลชัย น.ส.นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ นายปรมินทร์ เลาหะพันธ์ นายวันชัย ซื่อศิริสวัสดิ์ นายถนอมทรัพย์ สรรพโส
นายสุทธิ ศศิพงษ์อนันต์ นายสุเทพ คุณกิตติ นายศักดิ์สิทธิ์ เตชะเกรียงไกร ซึ่งรวมไปถึง นายชัชวาล พรอมรธรรม อดีตรองนายกฯที่ลาออกไปด้วย ต่างเปิดใจว่า ไม่พอใจการบริหารงานของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรี ในนามกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น
และเห็นว่านายธีระศักดิ์ บริหารงานเทศบาลในนามกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น แต่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น หรือให้สมาชิกสภาเทศบาลฯ.ได้มีส่วนร่วมรับรู้กระบวนการตัดสินใจในเชิงนโยบายและการบริหารงานของเทศบาลฯ บางเรื่องมีความหมิ่นแหม่เหมือนเป็นการเอื้อประโยชน์กับธุรกิจบางกลุ่ม
โดยนายธนภณ ประกาศว่า หากกลุ่มฯเลือกนายธีระศักดิ์ ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามรักพัฒนานครขอนแก่น เขาและพวกที่ปรากฎรายชื่อข้างต้นจะลาออกจากกลุ่มฯไป
ทว่า…กลุ่มที่สนับสนุนนายธีระศักดิ์และมีจำนวนมากกว่า มองว่า นายธีระศักดิ์มีการทำงานที่รับฟังความคิดเห็นของสมาชิกอย่างกว้างขวาง แต่กลุ่มนายธนภณเองที่สร้างปัญหาไม่ยอมรับฟังความเห็นคนส่วนใหญ่ และเล่นการเมืองแบบกล่าวโจมตีให้ร้าย จึงเป็นปัญหาของกลุ่มฯ
เมื่อพิจารณาสถานการณ์ถึงตรงนี้แล้ว ชัดเจนที่สุด ก็คือ กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น มีความขัดแย้งที่ไม่สามารถประสานรอยร้าวให้กลับมาได้เหมือนเดิมอย่างแน่นอน มีฝั่งหนึ่งต้องไม่มีอีกฝั่งหนึ่ง
3 ผู้อาวุโสยังมีความพยายามที่จะคลี่คลายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจึงได้นัดหมายให้มีการประชุมสมาชิกกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น เป็นครั้งที่ 2 ในเวลา 14.00 น.วันที่ 2 พ.ย.2563 ที่โรงแรมขอนแก่นโฮเต็ล คราวนี้เป็นการประชุมกลุ่มใหญ่ มีสมาชิกของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น มาร่วมประชุมแบบพร้อมเพรียงกัน
ก่อนการประชุม 3 ผู้อาวุโส ได้ขอคุยกันเองนอกรอบพักหนึ่ง จากนั้นการประชุมเริ่มต้นด้วยนายเรืองชัย ตราชู ในฐานะประธานกลุ่มฯ ได้กล่าวทบทวนกระบวนการในการทำงานร่วมกันที่ผ่านมาของกลุ่มฯ ในขณะที่นายพีระพล ได้พยายามชี้ให้เห็นจุดแข็งของการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของกลุ่มฯ
จากนั้นนายเรืองชัยถามว่า..สมาชิกมีความเห็นอะไรมั้ย ? แต่ปรากฏว่า บรรยากาศเป็นไปแบบเคร่งเครียดทุกคนเงียบไปพักหนึ่ง จึงได้มีสมาชิกกลุ่มฯคนหนึ่งกล่าวว่า “ทำไมผู้ใหญ่ถึงถามแต่ว่า สมาชิกมีความเห็นอย่างไร ? แต่สมาชิกอยากให้ผู้ใหญ่ที่มีข้อมูลตัดสินใจให้สมาชิกมากกว่าว่าจะเอายังไง ? ”
สร้างความอึดอัดให้แก่ 3 ผู้ว่าอาวุโสอย่างยิ่ง เพราะไม่สามารที่จะตัดสินใจชี้ขาดได้ แม้โดยข้อเท็จจริงฝั่งของนายธีระศักดิ์นั้น ยึดกุมสภาพเสียงข้างมากของกลุ่มไว้ได้ แต่ไม่ได้มีการเสนอให้โหวตเสียง เพราะประเพณีของกลุ่มนั้นใช้กระบวนการฉันทามติ ภาระทั้งหมดจึงตกอยู่กับ 3 ผู้อาวุโสของกลุ่ม
หลังจากเงียบไปพักหนึ่ง “น้าตุ๊” เรืองชัย ตราชู ประธานกลุ่มฯ ก็ทะลุกลางปล้องกับที่ประชุมว่า “ผมขอถอนตัวและยุติบทบาทภายในกลุ่มฯเนื่องจากอายุมากแล้ว” ยิ่งทำให้การแก้ไขปัญหาเลือนลางมากขึ้น
ไม่ทันสิ้นเสียง “น้าตุ๊” เรืองชัย “เสี่ยต้อง” พีระพล พัฒนพีระเดช เลขาธิการกลุ่มฯ ก็กล่าวต่อเนื่องด้วยเนื้อหาคล้ายกันว่า “ผมก็ขอถอนตัวและยุติบทบาทภายในกลุ่มด้วยเช่นกัน” สถานการณ์ของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น น่าจะแย่เสียแล้ว
ถึงตรงนี้ จึงเหลือเพียง “เสี่ยติ่ง” ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ หัวหน้ากลุ่มฯที่กล่าวว่า “เมื่อสองคนถอนตัวไปแล้วก็เหลือผมเพียงคนเดียว ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่นครั้งต่อไป
ผมมีทางเลือกให้สมาชิกตัดสินใจ 3 ทาง ทางที่หนึ่งคือ ยุบกลุ่มฯ ทางที่สองคือ ให้สมาชิกที่จะลงสมัครสามารถใช้ชื่อกลุ่มลงสมัครได้โดยอิสระ
และทางเลือกที่สาม คือ หากยังมีคนเก่าของกลุ่มฯหลงเหลือ และต้องการทำงานการเมืองในนามกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นต่อไป ผมจะเป็นคนดูแลและสนับสนุนให้ลงสมัครเอง” ข้อเสนอ 3 ทางเลือกนั้นที่ประชุมยังไม่มีการพิจารณาว่าจะตัดสินใจอย่างไร?
“เสี่ยต้อง” พีระพล พัฒนพีระเดช จึงตัดบทและบอกว่า “ขอให้ทุกคนกินข้าวเย็นและถ่ายรูปร่วมกันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนกลับบ้าน โดยใช้มุขติดตลกว่า อาหารสั่งเอาไว้แล้ว”
ไม่รู้ว่า การถ่ายรูปร่วมกันเป็นครั้งสุดท้าย หมายความว่าอย่างไรจะไม่มีกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นอีกแล้วหรือ ? แต่ที่ชัดเจนคือ ขณะนี้ มีสมาชิกกลุ่มอย่างน้อย 2 คน ที่เปิดตัวแล้วว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครขอนแก่น
คนหนึ่งคือ “นายกฯธีร์” ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ แชมป์เก่า อีกคนหนึ่งที่เปิดตัวลงสู้ด้วยคือ “เสี่ยโด่ง” ชัชวาลย์ พรอมรธรรม อดีตรองนายกฯในทีมนายกฯธีร์ ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้
3 ทางเลือกสุดท้ายที่ “เสี่ยติ่ง” หัวหน้ากลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ผู้อาวุโสของกลุ่มฯที่เหลือเพียงคนเดียวทิ้งไว้ให้สมาชิกกลุ่มฯได้ตัดสินใจ ณ ปัจจุบัน ยังไม่มีคำตอบ แต่คิดว่า อีกไม่นาน เราคงได้รู้กันว่า
คู่ชิงนายกเทศมนตรีนครขอนแก่นจากกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นจะมีกี่คน หรือ “รักพัฒนานครขอนแก่น” จะเหลือเพียงตำนานอันยิ่งใหญ่ให้ผู้คนได้กล่าวขานถึงในอนาคต ประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นจะตัดสินใจอย่างไร ? ติดตามอ่านตอน 3 (เปิดใจ ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ผู้ก่อตั้งกลุ่ม /ย้อนอดีตสู่ปัจจุบันและอนาคตกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น)