เอกชนโคราชเสนอล็อคดาวน์14วันเจ็บแต่จบ ไม่รับเยียวยาแต่ให้แบงก์พักเก็บหนี้/ดบ.1ปี

เอกชนโคราชนัดหารือปัญหาเศรษฐกิจและการระบาดของโควิด 19 รอบ 2 ระบุไม่ต้องการมาตรการเยียวยาของรัฐ แต่ขอให้ออกนโยบายให้แบงก์หยุดเก็บเงินต้นและดอกเบี้ย 1 ปี เพื่อนำเงินมาจ้างงานและพยุงธุรกิจตนเอง และให้รัฐ”ล็อคดาวน์” ประเทศ 14 วัน เจ็บครั้งเดียวจบดีกว่าไม่รู้อนาคต

นายทวิสันต์ โลณานุรักษ์ อดีตประธานหอการค้าจ.นครราชสีมา เปิดเผยว่า ตนได้มีโอกาสไปร่วมการเสวนาที่จัดขึ้นโดยกลุ่มนักธุรกิจที่ไม่ได้สังกัดองค์กรใดใด แต่มีความห่วงใยต่อสถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังเกิดขึ้นของประเทศและจ.นครราชสีมา ในช่วงของการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรน่า 2019 หรือ โควิด 19 รอบท 2 โดยได้นัดหมายพบกันที่ มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล จ.นครราชสีมา

ทั้งในการพบกันโดยสรุปมีประเด็นความเห็นในการแลกเปลี่ยนที่น่าสนใจประการแรกคือ พวกเขาจะไม่ต้องการรับการเยียวยาใดๆ​จากรัฐบาลที่มีภาระมากอยู่แล้วในขณะนี้ ​โดยจะช่วยตัวเองตามทรัพย์สินที่มีอยู่ แต่จะขอให้รัฐบาลออกเป็นนโยบายดังนี้  ข้อแรกคือ ให้ธนาคารพาณิชย์​ หยุดเก็บเงินต้น/ดอกเบี้ย​ เป็นเวลา​ 1 ปี ให้สถาบันการเงิน/ไฟแนนซ์​ หยุดเก็บเงินต้น/ดอกเบี้ย​ เป็นเวลา​ 1ปี

“พวกเขามีสินทรัพย์อยู่กับสถาบันการเงินเป็นหลักประกันอยู่แล้ว เงินที่จะส่ง​จะได้เอามาใช้พยุงตัวเองเองในยามวิกฤตนี้และขอให้รัฐบาลหยุดเก็บภาษีทุกชนิด​เป็นเวลา 1 ปี​ เพื่อผู้ประกอบการจะได้นำเงินไปใช้ในกิจการและจ้างพนักงานต่อไปได้”นายทวิสันต์กล่าว

นายทวิสันต์ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอในระดับจังหวัด ต่อผู้ว่าราชการจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดนครราชสีมาดำเนินการนำเงินงบประมาณของ​ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท,) ทั้ง​ 334แห่ง​ ที่มีปีละ20,000  ล้านบาท​ โดยขอให้ช่วย10​ % เพื่อนำมาฟื้นฟูเศรษฐกิจ​ เช่นการจัดกิจกรรมต่างๆ ให้นำเงินสะสมของจังหวัด​ที่มีอยู่ 8,847​ ล้านบาท​ มาพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของเมือง

“พวกเขาขอให้รัฐบาลประกาศล็อกดาวน์ ประเทศ​เป็นเวลา 14วัน​ เมื่อครบแล้วให้ทำพิธีเปิดประเทศ​ ดีกว่าปิดๆเปิดๆในบางจุดอย่างที่ทำอยู่​ ถือเป็นการเจ็บในระยะสั้น​ ดีกว่าเจ็บแบบไม่รู้จะหายเจ็บเมื่อไร?”นายทวิสันต์กล่าวและว่า

ทางมหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุล ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนของจ.นครราชสีมาจะรับเป็นเจ้าภาพในการประมวลภาพ และรายงานสถานการณ์เศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทุก 15 วัน

นายทวิสันต์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีชุดความคิดอื่นๆ​ อาจารย์มหาวิทยาลัยวงษ์ชวลิตกุลจะประมวลและนำเสนอต่อสังคมต่อไป ยกตัวอย่างประเด็นที่ได้มีการนำเสนอความเห็น เรื่อง บ้าน วัด และโรงเรียน ขณะนี้เริ่มร้าง คนเกิดน้อย ต้องเพิ่มจำนวนประชากรด่วนและสังคมหวาดกลัวโควิด-19 มากๆทั้งที่ตายเพียง 61 ศพ แต่อุบัติเหตุบนถนนตาย 16,000 ศพ/ปี ทุกคนไม่มีงาน / เงิน ทำอย่างไรให้คนออกจากบ้าน ข้าราชการไม่มีการลดเงินเดือนขณะที่ประชาชนอ่อนแอ

สินค้าเกษตรโคราชไม่มีตัวเด่นที่จะทำให้คนอยากซื้อ นักท่องเที่ยวมาจ.นครราชสีมาน้อย โดยเฉพาะชาวต่างชาติมาน้อยมาก ประชากรในเขตเทศบาลนครฯ ลดลงจากเดิม 190,000 คน ปัจจุบัน ย้ายไปอยู่ปริมณฑล เพิ่มขึ้น โดยเขตเมืองลดลงเหลือ 140,000 คน .

“ขณะนี้ภาคธุรกิจยานยนต์ ยอดขายลดลง ผู้ประกอบการจะต้องเข้าใจการประนอมหนี้ คนรวยไม่ใช้เงินไม่มีความเชื่อมั่นโดยกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กรายย่อย ส่งร้องเรียนไปตามช่องทางต่างๆ หลายครั้งแล้ว ไม่ได้ผล”นายทวิสันต์กล่าว

แสดงความคิดเห็น