ในปัจจุบันที่ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น โอนเงิน ชำระเงิน ผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออินเทอร์เน็ต แต่อย่างไรก็ตามหากต้องการจะขอสินเชื่อส่วนบุคคล ยังคงต้องไปติดต่อธนาคารหรือผู้ให้บริการทางการเงินและยื่นหลักฐานเกี่ยวกับรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน รายการหมุนเวียนในบัญชีเงินฝาก เป็นต้น แล้วแบบนี้หากอยากจะขอสินเชื่อแต่ไม่มีหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ถึงรายได้ จะทำอย่างไร
ปัญหาหลักของคนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อส่วนบุคคลในระบบได้ ส่วนหนึ่งก็เพราะไม่มีหลักฐานในการพิสูจน์รายได้ หรือไม่มีทรัพย์สินที่สามารถใช้เป็นหลักประกันในการขอกู้ ทำให้ต้องหันไปพึ่งพาการกู้เงินจากเจ้าหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง ๆ แทน
ในอนาคตอันใกล้นี้ประชาชนจะมีทางเลือกในการเข้าถึงสินเชื่อส่วนบุคคลได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน ซึ่งผู้ให้บริการทางการเงินจะใช้ข้อมูลทางเลือก (alternative data) ของ
ผู้กู้ในการพิจารณาให้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัล โดยข้อมูลทางเลือกที่พูดถึงนี้ เช่น ข้อมูลเกี่ยวกับการชำระค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ รายได้หรือพฤติกรรมการซื้อขายออนไลน์ เป็นต้น
ดังนั้น เพียงแค่ท่านมีวินัยในการชำระค่าสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้ตรงเวลา ก็เท่ากับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้ท่านมีโอกาสในการขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลได้ต่อไป
สำหรับการขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลนี้ จะให้วงเงินกู้สูงสุดไม่เกินคนละ 20,000 บาท
กำหนดระยะเวลาการชำระเงินคืนภายใน 6 เดือน และคิดอัตราดอกเบี้ย ค่าปรับ ค่าบริการ และค่าธรรมเนียมใด ๆ รวมกันได้ไม่เกิน 25% ต่อปี โดยเงินกู้ดังกล่าวไม่จำกัดวัตถุประสงค์ในการกู้ยืม ดังนั้นผู้กู้สามารถนำเงินกู้ไปใช้จ่ายได้ตามที่ผู้กู้ต้องการ
นับเป็นโอกาสที่ดีของประชาชนที่ต่อไปจะมีทางเลือกในการเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ง่ายขึ้น โดย ณ วันที่ 22 มีนาคม 2564 มีผู้ให้บริการทางการเงินที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลแล้ว 2 ราย ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีผู้ให้บริการทางการเงินรายอื่น ๆ
เปิดให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลมากขึ้น ทั้งนี้ สามารถเข้าไปดูรายชื่อผู้ให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลได้จากเว็บไซต์ธนาคารแห่งประเทศไทยตาม link นี้ https://www.bot.or.th/Thai/FinancialInstitutions/Pages/DigitalPloan_ServiceProvider.aspx
ถึงแม้ว่าสินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลจะเป็นช่องทางให้ท่านเข้าถึงเงินกู้ได้สะดวกสบายขึ้น
แต่ในการก่อหนี้ควรพิจารณาถึงความจำเป็นและกู้ให้พอเหมาะกับความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ เพื่อให้หนี้ก้อนนี้ไม่เป็นภาระให้เราต้องหนักใจในอนาคตค่ะ
—————————————————————————————————————————-
บทความนี้เป็นข้อคิดเห็นส่วนบุคคล จึงไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับข้อคิดเห็นของธนาคารแห่งประเทศไทย
โดย-นางสาวพรวิภา แสงศิริวิวัฒน์
ผู้วิเคราะห์อาวุโส ส่วนคุ้มครองและให้ความรู้ผู้ใช้บริการทางการเงิน