“อีสานบิซ”ได้ชะลอการนำเสนอรายงานพิเศษเรื่อง “รักพัฒนานครขอนแก่น ฤาจะเหลือเพียงตำนาน” หลังจากที่ได้นำเสนอไป 3 ตอน เนื่องจากถูกติงว่าเนื้อหาเป็นประโยชน์แก่บางกลุ่ม แม้เราจะไม่ได้มีเจตนาดังกล่าวแต่เพื่อความสบายใจและไม่ต้องการหลุดเข้าไปอยู่ภายใต้เงื่อนไขการเมืองที่กำลังต่อสู้ขับเคี่ยวกันในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 28 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมาเราจึงได้ชะลอการนำเสนอรายงานชิ้นนี้ไว้ก่อน หลังจากรายงานตอนที่ 3 ไปแล้ว (อ่านลิ้งค์ย้อนหลัง ตอนที่ 1-3)
ทว่า…เมื่อการเลือกตั้งเสร็จสิ้นและคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ประกาศรับรองผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่นในรอบที่สามจำนวน 23 จังหวัด เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564
แต่ยังไม่รับรองตำแหน่งนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ ซึ่งได้รับคะแนนเสียงเป็นอันดับหนึ่ง เนื่องจากมีการร้องเรียนว่ามีการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
ทั้งนี้ตามพ.ร.บ.เลือกตั้งผู้บริหารและสมาชิกสภาท้องถิ่นฯได้ให้อำนาจกกต.ในการพิจารณารับรองผลการเลือกตั้งกรณีที่มีการร้องเรียนภายใน 60 วันนับแต่วันเลือกตั้ง (28 มีนาคม 2564)
นั่นหมายความว่ากกต.จะต้องพิจารณาสำนวนการร้องเรียนให้แล้วเสร็จและประกาศผลการพิจารณาภายในวันที่ 27 พฤษภาคม 2564 โดยหากยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จก็จะต้องประกาศรับรองผลการเลือกตั้งไปก่อนแล้วพิจารณาสำนวนต่อเนื่องไป
แนวการพิจารณาทางที่หนึ่ง คือ หากกกต.พิจารณาเห็นว่าเรื่องร้องเรียนมีหลักฐานที่อาจเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดจริงก็จะให้ “ใบเหลือง” ซึ่งหมายถึงการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ โดยกกต.ท้องถิ่นจะต้องดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีคำสั่ง
แนวทางที่สองหากกกต.พิจารณาแล้วเห็นว่ามีหลักฐานการกระทำผิดที่ชัดแจ้ง ก็จะประกาศให้ “ใบแดง” แก่ผู้ที่ถูกกระทำความผิดและจะเลื่อนผู้สมัครอันดับถัดไปขึ้นดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีแทนโดยไม่ต้องมีการเลือกตั้งใหม่
เป็นสถานการณ์ใหม่ที่จะต้องติดตามต่อไป
ผลการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ที่ปรากฏออกมา ว่า นายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ (ทีม) รักพัฒนานครขอนแก่นได้คะแนน 16,986 คะแนน เฉือนชนะคู่แข่งคือ นายชัชวาล พรอมรธรรม (กลุ่ม) รักพัฒนานครขอนแก่น ได้คะแนน 16,101 คะแนน ห่างกันเพียง 885 คะแนน
แต่ที่น่าสนใจคือ ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น ที่ทีมของนายธีระศักดิ์ ได้รับเลือกตั้งเข้ามาเพียง 7 คน ขณะที่กลุ่มของนายชัชวาล ได้รับเลือกตั้งเข้ามาจำนวน 17 คน จากจำนวน สมาชิกสภาเทศบาล(สท.)นครขอนแก่น ทั้งหมด 24 คน เป็นโจทย์ใหญ่ที่ท้าทายการบริหารงานของนายธีระศักดิ์เป็นอย่างยิ่ง หากเขาได้รับการรับรองจากกกต.ให้ดำรงตำแหน่งเรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2564 สมาชิกสภาเทศบาล (สท.) นครขอนแก่น ได้รวบรวมรายชื่อเสนอขอเปิดสมัยประชุมสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น ครั้งที่ 1 /2564 โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานการประชุม โดยมีระเบียบวาระที่สำคัญคือ การเลือกตั้งประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่น รองประธานฯและเลขานุการ เพื่อที่จะได้ทำหน้าที่นิติบัญญัติของเทศบาลนครขอนแก่น
บุคคลที่ได้รับเลือกเป็นประธานสภาฯได้แก่น.ส.นันทวรรธ์ ไกรศรีวรรธนะ อดีตรองประธานสภาฯ กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น และรองประธานสภาฯได้แก่ นายกฤษณวรุณ ไชยนิจ อดีตปลัดเทศบาลนครขอนแก่นฯ โดยทั้งสองคนมาจากกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น โดยนายชัชวาล พรมอมรธรรม ส่วนตำแหน่งเลขานุการฯได้แก่นายวิทยา ภูโยสาร ปลัดเทศบาลนครขอนแก่น
กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ที่เคยยึดครองเทศบาลนครขอนแก่น มากว่า 25 ปี ได้ถึงจุดเปลี่ยนผ่านที่สำคัญเมื่อ เพราะมีความขัดแย้งภายในกันอย่างรุนแรง และไม่สามารถเจรจากันได้ แกนนำกลุ่ม 2 คน ได้แก่ นายเรืองชัย ตราชู ประธานกลุ่มฯและนายพีระพล พัฒนพีระเดช เลขาธิการกลุ่มฯ ได้ประกาศยุติบทบาททางการเมืองของตนเอง เหลือเพียง นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ หัวหน้ากลุ่มฯที่ยังยืนยันจะรักษากลุ่มไว้ และประกาศให้สมาชิกสามารถใช้ชื่อกลุ่มลงสมัครรับเลือกตั้งได้โดยอิสระ
เกิดเป็นปรากฏการณ์การส่งทีมผู้สมัครภายใต้ชื่อเดียวกัน 2 ทีม คือ (กลุ่ม) รักพัฒนานครขอนแก่น โดยนายชัชวาล พรอมรธรรม ใช้สัญลักษณ์หรือ “โลโก้” เป็นรูปดอกคูณประดับอยู่ภายในวงกลมองค์พระธาตุขามแก่น ซึ่งเป็นโลโก้เดิม กับ (ทีม)รักพัฒนานครขอนแก่น โดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ ได้มีการจัดทำโลโก้ขึ้นมาใหม่เป็นรูปศาลหลักเมืองอยู่ภายในกรอบประตูเมือง
เป็นศึกสายเลือดที่สร้างความอึดอัดใจให้แก่ ผู้ที่เคยให้การสนับสนุนกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นในอดีตอย่างมาก เพราะทุกคนล้วนแล้วแต่รู้จักคุ้นเคยกันและเป็นคนกันเอง
แต่นี่คือ..การเมือง เป็นเรื่องธรรมดาเมื่อเห็นต่างกันและไม่สามารถคุยกันได้ก็จำเป็นที่จะต้องยืนอยู่คนละฝั่งให้ประชาชนตัดสินด้วยการเลือกตั้ง
ก่อนการเลือกตั้ง 28 มีนาคม บรรดาผู้ที่ติดตามการเมืองต่างมองว่า นายธีระศักดิ์และทีม เป็นต่อนายชัชวาลและทีมหลายช่วงตัว โดยปัจจัยสำคัญ คือ ตัวผู้สมัครนายกฯ นายธีระศักดิ์ นั้นเป็นผู้มีประสบการณ์ในการทำงานการเมือง โดยเฉพาะการบริหารเทศบาลนครขอนแก่นมาต่อเนื่องยาวนาน มีความใกล้ชิดกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม ตลอดองค์กรชุมชน เป็นอย่างดี และยังเป็นนักพูดฝีปากดีโดดเด่นอย่างมากเมื่ออยู่บนเวทีปราศรัย หรือ เวทีแสดงความคิดเห็น
นอกจากนี้ทีมผู้บริหารชุดเดิม หรืออดีตรองนายกฯทั้งหมด 3 คน จาก 4 คน เลือกที่จะยืนอยู่ฝั่งนายธีระศักดิ์ทั้งหมด ประกอบด้วย “จุลนพ ทองโสภิต” “มนตรี สิงหปุณณภัทร” “ธวัชชัย รื่นรมย์ศิริ” รวมทั้งทีมผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาลนครขอนแก่น ของนายธีระศักดิ์ ส่วนใหญ่เป็นสท.ชุดเดิมของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น
มีเพียง 5 คนที่แยกออกมาอยู่กับกลุ่มของนายชัชวาลได้ แก่ “ถนอมทรัพย์ สรรพโส” “วันชัย ซื่อศิริสวัสดิ์” “ธนพนธ์ กิตติวิมลชัย” 3 คนดังกล่าว ไม่ลงสมัครรับเลือกตั้ง มีเพียง 2 คน ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งได้แก่ นางนันทวัลย์ ไกรศรีวรรธนะ(ได้รับเลือกตั้งเขต 1) และนายปรมินทร์ เลาหพันธ์ (แพ้การเลือกตั้งเขต2)
ถ้าจะว่าไปแล้วก่อนการเลือกตั้งนายธีระศักดิ์ได้ยึดกุมองคาพยพของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นเอาไว้ได้เกือบเบ็ดเสร็จ แต่ยังให้เกียรตินายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ในฐานะหัวหน้ากลุ่มฯที่ถือว่าเป็นผู้อาวุโสทางการเมืองจึงไม่ได้แสดงออกแบบแตกหัก
แต่การที่นายธีระศักดิ์ได้สร้างโลโก้หรือสัญญลักษณ์ของทีมรักพัฒนานครขอนแก่นขึ้นมาใหม่ก็ย่อมเป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่า เขาได้สร้างพื้นที่หรือทีมใหม่ของตนเองขึ้นมารองรับไว้แล้ว
หากทีมรักพัฒนานครขอนแก่นของนายธีระศักดิ์ได้รับชัยชนะ ก็หมายความว่า กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นจะเหลือเพียงนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ เป็นหัวหน้ากลุ่มฯคนเดียว แต่ไม่ได้มีนัยทางการเมืองเพราะองคาพยพทั้งหมดเป็นของนายธีระศักดิ์ ที่ได้ยึดกุมไว้ทั้งหมด
ทว่า…ผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่ากลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ภายใต้การนำของนายชัชวาล พรอมรธรรม ได้รับเลือกตั้งสท.เข้ามาถึง 17 คน ขณะที่กลุ่มนายธีระศักดิ์ ได้รับเลือกเข้ามาเพียง 7 คน แม้จะได้รับชัยชนะในตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯก็ตาม แต่คะแนนทิ้งก็ห่างกันไม่มากจึงเป็นเสมือนชัยชนะบนความพ่ายแพ้ของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ ที่ไม่อาจปฎิเสธได้
สถานการณ์ข้างหน้าของนายธีระศักดิ์ ย่อมไม่เหมือนเดิม ทั้งในด้านการบริหารเทศบาลนครขอนแก่น ที่มีสมาชิกสภาฯเป็นเสียงข้างน้อย แม้จะมีกระแสข่าวว่า มีความพยายามที่จะเจรจาต่อรองให้ทีมของนายชัชวาลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของทีมบริหารด้วย เพื่อจะให้การบริหารงานเทศบาลนครขอนแก่น ดำเนินไปแบบไม่ชะงักงัน
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับการตอบรับจากฝั่งของนายชัชวาล พวกเขาอธิบายว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาประชาชนต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจึงเลือกพวกเขาด้วยคะแนนจำนวนมาก เขาไม่สามารถหักหลังประชาชนได้
ก่อนการเลือกตั้ง “ประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ” หัวหน้ากลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นประกาศว่าให้สมาชิกทุกคนสามารถใช้ชื่อกลุ่มลงสมัครได้ เขาพร้อมสนับสนุนทุกคน แต่ปรากฏว่า ภรรยาของนายประจักษ์ “ลักขณา แกล้วกล้าหาญ” ได้ปรากฏตัวออกไปช่วยนายชัชวาลและทีมฯรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งก็เป็นที่ชัดเจนว่า เขาเลือกข้างไหน
ขณะที่ “พีระพล พัฒนพีระเดช” ที่ประกาศยุติบทบาททางการเมืองไปแล้ว แต่ก็ปรากฏว่า มีการถ่ายภาพโปสเตอร์ร่วมกับนายธีระศักดิ์ และทีมรองนายกฯ ในนามกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ที่ถูกฝั่งของนายชัชวาล มองว่า นายพีระพลยืนข้างนายธีระศักดิ์มากกว่านายชัชวาล
ข้อเท็จจริงเป็นเช่นนั้นหรือไม่ ? ไม่มีใครรู้ได้? แต่เป็นที่เข้าใจได้ว่า ทั้งคู่เป็นเพื่อนสนิทที่เกื้อหนุนกันมานานมากกว่าถ้าเทียบกับนายชัชวาล “น้องชาย” ที่นายพีระพล เคยสนับสนุนให้เข้าสู่เส้นทางการเมืองในฐานะคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้และมีความพร้อมทางเศรษฐกิจ
คำถามคือ เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาเช่นนี้ กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ที่แหลือเพียงนายประจักษ์ หัวหน้ากลุ่มคนเดียว จะมีการจัดโครงสร้างเลือกบุคคลเข้ามาทำหน้าที่แทนนายเรืองชัย ตราชู ประธานกลุ่มฯและนายพีระพล พัฒนพีระเดช เลขาธิการกลุ่มฯหรือไม่?
“อีสานบิซ”ได้สอบถามไปยัง นายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ ได้รับคำตอบว่า หลังการเลือกตั้ง นายชัชวาล พรอมรธรรม และนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีฯ ได้นำผู้สมัครรับเลือกตั้งเข้าไปพบตนเองทั้งคู่ ซึ่งตนก็ได้ให้ข้อแนะนำไปว่า ขอให้แต่ละฝ่ายได้ทำหน้าที่ของตนเอง โดยยึดเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยเมื่อนายธีระศักดิ์ ได้รับเลือกเป็นนายกเทศมนตรีก็ทำหน้าที่บริหารไป ส่วนนายชัชวาล นั้นตนก็อยากที่จะให้เขาได้ทำงานการเมืองต่อไป เพราะอายุยังน้อยและคะแนนที่ได้ก็ไม่น้อย โดยทำหน้าที่เป็นฝ่ายตรวจสอบไป
สำหรับอนาคตของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น จะยังไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร แม้ว่านายพีระพล พัฒนพีระเดช จะขอยุติบทบาท แต่ก็เป็นบทบาทที่เกี่ยวข้องกับการบริหารเทศบาลฯ ไม่ได้เกี่ยวกับกลุ่ม ตนคิดว่าเรื่องกลุ่มเขายังคงจะช่วยเป็นที่ปรึกษาให้ต่อไป รวมทั้งนายเรืองชัย ตราชู ด้วย
“กลุ่มจะยังไม่มีการประชุมเพื่อปรับปรุงโครงสร้างองค์กร หรือเลือกใครเข้ามารับตำแหน่งแทนนายพีระพล และนายเรืองชัย เว้นแต่ว่า การบริหารงานของเทศบาลได้ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน เราถึงจะได้มาหารือกันอีกครั้งว่ากลุ่มจะดำเนินการอย่างไรต่อไป”นายประจักษ์ กล่าว
ถึงบรรทัดนี้ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า กลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น จะยังคงดำรงอยู่ต่อไป ภายใต้การนำของนายประจักษ์ แกล้วกล้าหาญ แต่แบ่งเป็นสองขั้วคือ ขั้วที่หนึ่งภายใต้การนำของ “ชัชวาล พรอมรธรรม”และขั้วที่สองภายใต้การนำของ “ธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์”
ปิดฉากการต่อสู้กันภายในของกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น ในสถานการณ์การเมืองการเลือกตั้งเทศบาลนครขอนแก่น ในวันที่ 28 มีนาคม 2564 หากไม่มีอุบัติเหตุการเมืองเกิดขึ้น ก็คงจะต้องรอต่อไปอีก 4 ปี ข้างหน้า
เมื่อครบวาระการบริหารงานของเทศบาลนครขอนแก่น แต่ถึงวันนั้น ชื่อกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นจะยังคงมีความหมายสำหรับประชาชนในเขตเทศบาลนครขอนแก่นหรือไม่ ? ต้องรอดูกันต่อไป…
“””””””””””””””””””