แม้หลายคนจะเป็นสมาชิกสภาเทศบาลฯเพียงสมัยแรกและเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุอานามไม่มากแต่ท่วงทำนองและลีลาการอภิปรายตลอดจนเนื้อหาก็ต้องยอมรับว่ามีศักยภาพที่จะพัฒนาต่อไปได้
การแถลงนโยบายต่อสภาเทศบาลนครขอนแก่นของนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีนครขอนแก่น เมื่อวันที่ 15 มิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ของสภาเทศบาลนครขอนแก่นที่ทำให้เห็นพัฒนาของการเมืองท้องถิ่นและระบอบประชาธิปไตยไทย
ประการแรกคือ การอนุญาตให้มีการถ่ายทอดสดการประชุมสภาเทศบาลนครขอนแก่น ซึ่งเป็นการปกครองส่วนท้องถิ่นระดับเทศบาล (ผ่านสื่ออิสระ) ซึ่งก็ต้องชื่นชม “นันทวรรณ์ ไกรศรีวรรธนะ” (สท.เขต 1) ประธานสภาเทศบาลนครขอนแก่นที่มีความคิดริเริ่ม
เป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนผู้สนใจได้เห็นการทำงานของสมาชิกสภาเทศบาลฯในการอภิปรายและตั้งคำถามในข้อสงสัยต่างๆต่อฝ่ายบริหาร ได้เห็นฝ่ายบริหารตอบคำถามของสมาชิกสภาฯ ได้รับฟังข้อมูลในการตัดสินใจเพื่อการเข้ามาส่วนร่วมทางการเมืองในอนาคต
อีกทั้งประชาชนยังได้เห็นบรรยากาศในการชิงไหวชิงพริบและตอบโต้กันในทางการเมืองของสมาชิกสภาฯฝ่ายบริหารและสมาชิกสภาฯฝ่ายตรวจสอบท เป็นการสร้างการเรียนรู้แก่ประชาชนให้เท่าทันการเมือง ยกระดับตนเองขึ้นมาเป็น “พลเมืองผู้ตื่นรู้”
ประการที่สอง สำหรับเทศบาลนครขอนแก่นที่เคยบริหารงานโดยกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น เพียงกลุ่มเดียว โดยไม่มีฝ่ายตรวจสอบ ปัจจุบันแม้จะใช้ชื่อว่า“รักพัฒนานครขอนแก่น” เหมือนกันแต่ก็แยกเป็นฝ่ายสนับสนุนการบริหารและฝ่ายตรวจสอบการบริหาร
เนื้อหาการอภิปรายแม้หลายคนจะเป็นสมาชิกสภาเทศบาลฯเพียงสมัยแรกและเป็นคนรุ่นใหม่ที่อายุอานามไม่มากแต่ท่วงทำนองและลีลาการอภิปรายตลอดจนเนื้อหาก็ต้องยอมรับว่า มีศักยภาพที่พัฒนาต่อไปได้ในอนาคต
ฝ่ายบริหารนำโดยนายธีระศักดิ์ ฑีฆายุพันธ์ นายกเทศมนตรีฯเป็นบุคคลที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูงสามารถตอบคำถามได้ดีควบคุมอารมณ์ในระดับที่ต้องชื่นชมจากเดิมที่หลายๆคนเคยสัมผัสและรู้จักเขามา
นายธีระศักดิ์เปิดตัวทีมรองนายกเทศมนตรีฯ 4 คน เป็นรองนายกฯเก่า 2 คนประกอบด้วย นายธวัชชัย รื่นรมย์ศิริ ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักช่าง และนายมนตรี สิงหปุณณภัทร ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักปลัดฯและสำนักการศึกษา
ส่วนรองนายกฯใหม่ 2 คนที่เข้ามารับตำแหน่งแทนนายจุลนพ ทองโสภิต หรือ “รองฯตึก” ที่ประกาศวางมือทางการเมืองหลังการเลือกตั้งเสร็จสิ้นและนายชัชวาล พรอมรธรรม หรือ “รองฯโด่ง” ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้โดยเมื่อมีการเลือกตั้งได้เปิดตัวลงสมัครชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีแข่งกับนายธีระศักดิ์
รองนายกฯใหม่คนแรก คือ นายบุญฤทธิ์ พาณิชย์รุ่งเรือง ได้รับมอบหมายให้กำกับดูแลสำนักสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเป็นอดีตประธานสภาฯสมัยที่แล้ว
หลังจากนายเรืองชัย ตราชู “น้าตุ๊” แกนนำกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น นั่งในตำแหน่งนี้มายาวนานได้ลาออกจากตำแหน่งในช่วงที่มีความขัดแย้งภายในกลุ่มฯ พร้อมประกาศยุติบทบาททางการเมืองก่อนจะมีการเลือกตั้ง
นายบุญฤทธิ์หรือ “รองฯจอนห์” เป็นทายาทของกลุ่มธุรกิจขอนแก่นแสงทองซึ่งเป็นคณบดีเก่าแก่ของเมืองขอนแก่น ปัจจุบันดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์
รองนายกฯใหม่คนที่สองคือ พ.ต.ท.สมชาย โตเจริญ กำกับดูแลกองวิชาการและแผนงาน เป็นอดีตหัวหน้างานสืบสวน สำนักงานคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ขอนแก่น ที่เกษียณอายุราชการมาได้ประมาณ 2 ปี และถูกจับตามองดูอย่างมากว่า
การเข้ามารับตำแหน่งรองนายกฯในครั้งนี้มาด้วยคุณสมบัติ และเงื่อนไขอะไรเพราะเขาถือว่าเป็นคนใหม่ที่ยังไม่เคยร่วมงานกับกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นมาก่อน แต่ก็สามารถเบียดหลายๆคนคว้าเก้าอี้รองนายกฯไปครองได้
โดยหน่วยงานที่ “นายกฯธีร์” กำกับดูแลด้วยตนเอง ได้แก่ สำนักคลัง สำนักสวัสดิการสังคม หน่วยงานตรวจสอบภายใน สถานธนานุบาล 1 และสถานธนานุบาล 2 โดยนายธีระศักดิ์ได้แต่งตั้งที่ปรึกษาและเลขานุการนายกเทศมนตรีฯซึ่งมีค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนประจำตำแหน่ง ดังนี้
ที่ปรึกษา 1 ตำแหน่ง ได้แก่ นายกมล กิจกสิวัตร อดีตผู้สมัครส.ส.พรรคชาติพัฒนาเขต 1 ขอนแก่น เคยสมัคร สท.แข่งกับกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่นหลายครั้ง คราวนี้เปลี่ยนกลับมาเป็นพวกเดียวกัน ตำแหน่งเลขานุการ 4 ตำแหน่ง
ประกอบด้วยนายสมภพ วงศ์ก่อ (อดีตสท.สอบตกเขต 4) นายบุญสม วิจารจันทร์ (อดีตสท.สอบตกเขต 2) นายกนิษฐ์ อาวัชนาการ (อดีตสท.สอบตกเขต 3) นายกฤกษฎ์ สว่างไสว หรือ “อดีตสท.หมู/สอบตกเขต 1 ”โดยคนท้ายสุดนี้ ถือว่าเป็นคนใกล้ชิดที่ติดตามนายธีระศักดิ์คู่กับนายวรินทร์ เอกบุรินทร์ “สท.แนน”จากเขต 4 มาโดยตลอด
นายวรินทร์ เอกบุรินทร์ “สท.แนน”
สำหรับสท.ที่สนับสนุนฝ่ายบริหารมีสมาชิกได้รับเลือกตั้งจำนวน 7 คน ที่แสดงบทบาทได้อย่างโดดเด่นจนน่าแปลกใจ ในการทำหน้าที่องครักษ์ปกป้องนายกเทศมนตรี ด้วยการประท้วงการอภิปรายของฝ่ายตรวจสอบ คือนายสยมพร มนูปถัมภ์ ที่มีฉายาที่เขาเรียกตัวเอง“บักยอร์ช” สท.เขต 4
นายสยมพรเป็นสมาชิกสภาฯสมัยแรก แต่ลีลาการประท้วงและอ้างอิงข้อบังคับการประชุมสภาฯเหมือนการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในระดับประเทศ น่าจะ “เข้าตา” นายกฯธีร์ฯและเชื่อว่าภายในระยะเวลาไม่นานจะได้รับการโปรโมทให้ก้าวขึ้นมามีบทบาทในกลุ่มฯอย่างแน่นอน
โปรไฟล์ของนายสยมพร สำเร็จคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ทำกิจกรรมทางการเมืองร่วมกับ “กลุ่มดาวดิน” ซึ่งมีนายจตุภัทร ภัทรรักษา หรือ“ไผ่ ดาวดิน” เป็นแกนนำคนสำคัญ และเป็นที่รับรู้กันว่า “สท.บักยอร์ช” มีเครือข่ายสัมพันธ์กับนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ แกนนำกลุ่มก้าวหน้า
“สท.บักยอร์ช”มีความรักและชอบการเมืองมาก ก่อนหน้านี้เคยลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.)ขอนแก่น “สอบตก” แต่ได้คะแนนสูงกว่า 3,000 คะแนน จึงได้รับการทาบทามให้เป็นสมาชิกกลุ่มรักพัฒนานครขอนแก่น เป็นหนึ่งในเจ็ดสท.ฝ่ายบริหาร
นายสยมพร มนูปถัมภ์ “สท.บักยอร์ช”
สท.ฝ่ายบริหารอีกคนหนึ่งที่แสดงบทบาทได้โดดเด่น คือ วรินทร์ เอกบุรินทร์ หรือ “สท.แนน” สำเร็จการศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น มีกิจการร้านทองและรับเหมาก่อสร้างเป็นคนใกล้ชิดนายกฯธีร์อีกคนหนึ่งที่ทำหน้าที่ประท้วงหยุดเกมของฝ่ายตรวจสอบคู่กับสท.รุ่นน้อง “สท.บักยอร์ด”ได้อย่างลงตัว
กลับไปดูสท.ฝ่ายตรวจสอบซึ่งได้รับเลือกตั้งเข้ามา 17 คน จาก 24 คน โดย “นันทวัลย์ ไกรศรีวรรธณะ” อดีตรองประธานสภาฯสมัยที่แล้ว อาวุโสทางการเมืองมากที่สุด เป็น สท.มาตั้งแต่ปี 2533 ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน ก้าวขึ้นรับตำแหน่งประธานสภาฯ และ “กฤษณะวรุน ไชยนิจ” เป็นอดีตปลัดเทศบาลนครฯเกษียณอายุราชการ มาลงสมัครได้รับเลือกเป็นสท.เขต 1 เข้ารับตำแหน่งรองประธานสภาฯ
“สุเทพ บัวพา” สท.เขต 1 เป็นคนแรกที่ลุกขึ้นมาอภิปรายในฐานะฝ่ายตรวจสอบ แม้จะดูคล้ายกับอ่านสคลิปและคลุกคลักไปบ้าง เพราะถูกประท้วงเป็นระยะๆแต่การลุกขึ้นอภิปรายเป็นคนแรกก็ถือว่า มีความกล้าหาญ สำหรับการเป็นสท.สมัยแรกที่ยังไม่เคยขึ้นเวทีมาก่อน แต่ในฐานะที่เขาเป็นอดีตประธานชุมชนโนนชัย 2 มีความคุ้นเคยกับการทำงานของเทศบาลมายาวนานจึงได้รับความไว้วางใจให้อภิปรายเป็นคนแรก
นายสุเทพ บัวพา
ฝ่ายตรวจสอบมีบุคคลที่แสดงบทบาทในการอภิปราย “โดดเด่น” อย่างมาก คือ นายอภิโชค ประเสริฐรุ่งเรือง หรือ “สท.ติ่มซำ” สท.จากเขต 4 เป็นทายาทกลุ่มธุรกิจก่อสร้างรายใหญ่ขอนแก่น “ป.รุ่งเรือง” สำเร็จการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
นายอภิโชค ประเสริฐรุ่งเรือง หรือ “สท.ติ่มซำ”
เขาประสบความสำเร็จในทางธุรกิจตั้งแต่อายุน้อย ขณะยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 จนมีการนำเรื่องราวมาเป็นแบบอย่างการทำธุรกิจในหัวข้อ “จากเด็กปี 3 สู่ธุรกิจร้อยล้าน” ได้รับเชิญไปเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษให้แก่สถาบันการศึกษาและหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนจำนวนมาก เห็นโปรไฟล์แล้วต้องยอมรับว่าเป็นคนที่มีศักยภาพคนหนึ่ง โดยเนื้อหาการอภิปรายจับประเด็นใหญ่ พุ่งเป้าไปที่โครงการรถไฟฟ้าระบบรางเบา หรือ LRT เป็นเรื่องหลัก
นอกจากนี้ยังมี “สท.ฝ่ายตรวจสอบ” ที่แสดงบทบาทแบบ “คนหนึ่งชง คนหนึ่งตบ” อีก 2 คนคือ นายอาณากร มาศอมรพันธุ์ หรือ “สท.ดับเบิ้ล” สท.เขต 1 ทายาทครอบครัวทนายความชื่อดังของขอนแก่นทั้งพ่อและแม้ เรียนสำเร็จด้านกฎหมายยึดอาชีพทนายความมาแล้ว 7 ปี เช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจว่า ”ทำไมเขาจึงสามารถอภิปรายได้แบบนักการเมืองมากประสบการณ์”
คนต่อมาที่น่าสนใจ คือ “สท.อาร์ม” หรือ นายณัฎฐกฤษยิ์ พฤกษะศรี เขต 2 อาชีพส่วนตัว เป็นนักจัดรายรายวิทยุที่เคยโด่งดังอย่างมากในช่วงปี 2537 – 2540 เป็นทายาทของ “สมพงษ์ พฤกษะศรี” อดีตข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ ขอนแก่น และอดีตนักจัดรายการอาวุโสที่มีความชอบและสนใจการเมืองด้วยคนหนึ่งมีความผูกพันกับพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน
“สท.อาร์ม” หรือ นายณัฎฐกฤษยิ์ พฤกษะศรี เขต 2
ไม่แปลกที่บุตรชายจะหันมาลงสมัครรับเลือกตั้งสท.ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของกลุ่มรักพัฒนาขอนแก่นและสามารถทำหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบร่วมกับสท.รุ่นน้องได้ดี
“สท.ขนมเค้ก” หรือ ธัญชนก สิทธิไกรพงศ์ สท.หญิงเขต 2 เป็นอีกคนหนึ่งของฝ่ายตรวจสอบ ซึ่งลุกขึ้นมาประท้วงการอภิปรายของนายธีระศักดิ์ แบบไม่เกรงบารมีด้วยข้อความว่า “ให้มาชี้แจงนโยบายไม่ใช่มาสั่งสอนสมาชิก” ทั้งที่พรรษาทางการเมืองแตกต่างกันอย่างมาก
“สท.ขนมเค้ก” หรือ ธัญชนก สิทธิไกรพงศ์ สท.หญิงเขต 2
บุคคลที่กล่าวถึงเหล่านี้ล้วนเป็นทรัพยากรทางการเมืองที่แสดงบทบาทเปล่งประกายแสงตนเองออกมาได้อย่างน่าสนใจ เชื่อได้ว่าพวกเขาน่าจะมีโอกาสเติบโตและก้าวขึ้นมามีบทบาทกับการเมืองท้องถิ่นและการเมืองระดับชาติของขอนแก่นในอนาคตต่อไปแน่นอน
นายอานากร มาศอมรพันธ์
……………..