บุรีรัมย์คักขนาด!!4 เลน สายอ.ปะคำ – นางรอง เสร็จแล้ว บูมขนส่งโลจิสติกส์ หนุนศรษฐกิจ

#เสร็จแล้ว ขยาย4 เลน ทล.348 สาย อ.ปะคำ-อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ระยะทาง 26.6 กม. วงเงิน 476 กว่าล้านบาท เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมและระบบโลจิสติกส์ สนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจจังหวัด

ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า กรมทางหลวง (ทล.) กระทรวงคมนาคม โดยสำนักก่อสร้างทางที่ 2 ดำเนินการโครงการก่อสร้างขยายทางหลวงหมายเลข 348 สายอำเภอปะคำ – อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เป็นทางมาตรฐาน 4 ช่องจราจร รวมระยะทาง 26.625 กิโลเมตร เพิ่มประสิทธิภาพการคมนาคมขนส่งในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ รองรับการเดินทางระหว่างอีสานใต้และภาคตะวันออก
ทางหลวงหมายเลข 348 สายอรัญ – นางรอง หรือถนนธนะวิถี มีจุดเริ่มต้นจากแยกทางหลวงหมายเลข 33 อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เข้าสู่จังหวัดบุรีรัมย์ ที่อำเภอโนนแดง สิ้นสุดที่อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ ระยะทางรวม 141 กิโลเมตร เป็นเส้นทางสำคัญในการคมนาคมและขนส่งสินค้าเชื่อมโยงระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนใต้กับภาคตะวันออก จากการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 ทำให้เศรษฐกิจสังคมภายในภูมิภาคอาเซียนมีความสัมพันธ์มากขึ้น ส่งผลให้การเดินทางและการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น
ปัจจุบันทางหลวงหมายเลข 348 ช่วงอำเภอปะคำถึงอำเภอนางรองส่วนใหญ่เป็นถนนขนาด 4 ช่องจราจรอยู่แล้ว ยกเว้นช่วง กม. ที่ 112+000 – กม. ที่ 113+763 และ กม. ที่ 119+750 – กม. ที่ 129+535 มีขนาด 2 ช่องจราจร และ 4 ช่องจราจร เป็นช่วง ๆ เกาะกลางเป็นแบบเกาะสี มีความสามารถในการรองรับปริมาณจราจรค่อนข้างจำกัด ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการพัฒนาทางเศรษฐกิจของจังหวัดบุรีรัมย์ ทล. จึงดำเนินการก่อสร้างขยายทางหลวง สายดังกล่าว ช่วง กม. ที่ 112+000 – กม. ที่ 117+025 และ กม. ที่ 118+541 – กม. ที่ 140+141 เป็นมาตรฐานทางชั้นพิเศษ 4 ช่องจราจร (ไป – กลับ) ผิวทางแอสฟัลท์คอนกรีต กว้างข้างละ 7 เมตร ไหล่ทาง กว้างข้างละ 2.5 เมตร แบ่งทิศทางการจราจรด้วยเกาะกลางแบบยก (Raised Median) กว้าง 3 เมตร และ 4.2 เมตร มีการก่อสร้างจุดกลับรถและติดตั้งไฟฟ้าแสงสว่าง งบประมาณ 476,383,000 บาท
ทั้งนี้เมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะเพิ่มประสิทธิภาพในการรองรับปริมาณการจราจร บรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด สามารถลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า สนับสนุนการเดินทางระหว่างเมืองหลัก ได้แก่ อำเภอเมืองบุรีรัมย์ อำเภอนางรอง และอำเภอปะคำ อีกทั้งเพิ่มความสะดวกในการเดินทางของผู้ใช้เส้นทางระหว่างจังหวัดบุรีรัมย์และจังหวัดสระแก้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แสดงความคิดเห็น