อบจ. จับมือ ภาคเอกชน แถลงกรณี จังหวัดอุดรธานี ถูกหั่นงบพัฒนาจังหวัดจาก 300 กว่าล้านบาทเหลือแค่ 26 ล้านน้อยสุดในประเทศ ร้องขอให้ทบทวนงบประมาณจังหวัดอุดรธานี ให้สอดคล้องกับจำนวนประชากรและความเป็นศูนย์กลางของภาคอีสานตอนบน
วันนี้ (6ส.ค.64) เวลา 15.00 น. นายวิเชียรขาวขำ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เปิดแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ขอให้ทบทวนงบประมาณจังหวัดอุดรธานี ปี 2565 โดยมี ส.ส.อุดรธานี นำโดย นายขจิต ชัยนิคม นายศราวุธ เพชรพนมพร นายอนันต์ ศรีพันธุ์ นางเทียบจุฑา ขาวขำ นางอาภรณ์ สาราคำ ร่วมแถลงในนามตัวแทนประชาชน และภาคเอกชน ประกอบด้วย นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย รองประธานหอการค้าไทย/ประธานหอการค้าภาคอีสาน หอการค้าไทย นายวันชัย อนุตรชัชวาลย์ ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี นายพรเทพ ศักดิ์สุจริต รองประธานสภาอุตสาหกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายวีรพงษ์ เต็งรังสรรค์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดอุดรธานี นายภาคภูมิ บุปผามาศ ประธานคณะทำงานประชารัฐจังหวัดอุดรธานี ร่วมกันแถลงข่าว ที่ องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี
ด้วยการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 ในงบจังหวัดของจังหวัดอุดรธานี ได้รับจัดสรรรวมทั้งสิ้น 26,300,000 บาท ซึ่งเปรียบเทียบกับจังหวัดในกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 ทั้ง 5 จังหวัด จังหวัดอุดรธานีได้รับงบประมาณต่ำสุด องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี สมาชิกผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี และภาคเอกชนจังหวัดอุดรธานี จึงเห็นร่วมกันในการยื่นหนังสือถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2565 สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ทบทวนงบประมาณจังหวัดอุดรธานีให้เหมาะสมกับจังหวัดอุดรธานี
ในส่วนของภาคเอกชน มีความเห็นตรงกันในการขอให้ทบทวนงบประมาณจังหวัดให้มีความเหมาะสม ซึ่งนายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานี เป็นจังหวัดใหญ่ของภาคอีสานตอนบน 1 มีศักยภาพความเป็นศูนย์กลางในหลายๆ ด้าน ทั้งด้านการค้า การลงทุน การขนส่งโลจิสติกส์ การเกษตร การค้าการบริการ ภาคอุตสาหกรรม และประตูสู่อินโดจีน ทีผ่านมาจังหวัดอุดรธานีได้รับงบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ยังไม่เพียงพอต่อการพัฒนาเมื่อเทียบกับจำนวนประชากร ฉะนั้นการได้รับงบประมาณเพียง 26 ล้านบาท ทำให้โอกาสในการพัฒนาจังหวัด “หยุดลงทันที” ดังนั้นภาคเอกชนจึงได้ร่วมกับ อบจ. ร้องขอให้มีการทบทวนงบประมาณจังหวัดให้มีความเป็นธรรม และเหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนอย่างสูงสุด