นายแพทย์สสจ.ขอนแก่น แจงยอดจัดสรรวัคซีนทั้งหมด หลังกลุ่มองค์กรแพทย์รพ.ขอนแก่น ออกแถลงการณ์ตั้งคำถามโค้วต้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์เพียง 720 คน จากยอดที่ขอไป 1,400 คน คิดเป็น 49.96 % ระบุ รพ.ขอนแก่นได้รับเอสต้าเซนิก้า จำนวน 1,444 ราย รวมเป็นวัคซีนทุกยี่ห้อ 2,164 ราย หากคำนวณแล้วคิดเป็น 74.81 %
น.พ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น เขียนในเฟสบุ๊กส่วนตัวชี้แจงกรณีข่าวจากการที่องค์กรแพทย์ โรงพยาบาลขอนแก่น ออกแถลงการณ์ขอวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรด่านหน้าครบเต็มจำนวน แต่ได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จากสำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่น เพียง 700 ว่า จากเดิมได้มีการเสนอขอรับวัคซีนไฟเซอร์ในการฉีดให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าของโรงพยาบาลที่มีอยู่ทั้งหมด 1,400 คน โดยจะเริ่มทำการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าของรพ.ขอนแก่นตั้งแต่วันที่ 9 ส.ค. ตามที่สำนักงานสาธารณสุข จ.ขอนแก่นได้จัดสรรให้ในรอบแรก 720 คน
“ขอนแก่นได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้า รอบแรก 9,480 โด๊ส จากที่นำเสนอขอรับการจัดสรรให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าทั้งจังหวัด 17,035 คน โดย รพ.ขอนแก่น ขอรับการบูสเตอร์เข็ม 3 รวม 1,449 คน รพ.ศรีนครินทร์ 5,547คน”
ดังนั้นในรอบแรกที่จังหวัดขอนแก่นได้รับมา คณะทำงานได้เร่งจัดสรรไปในระดับอำเภอ หรือ รพ.ต่างๆตามสัดส่วน ซึ่งต้องแบ่งเฉลี่ยตามที่ได้รับมาในแต่ละรอบ โดยในรอบแรกนี้รพ.ขอนแก่น ได้รับการจัดสรร 720 คน เท่ากับร้อยละ 50 หรือ ครึ่งหนึ่งของบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าที่ได้เสนอขอรับการจัดสรรขึ้นมา
ข้อมูลวัคซีนบุคลากรทางการแพทย์ที่ขอมาและจัดสรรให้รอบแรก ของจังหวัดขอนแก่น ดังนี้ สสจ.ขอนแก่นขอวัคซีน ตามรายชื่อในแบบฟอร์มที่ กระทรวงสาธารณสุขให้มาบันทึก จำนวนทั้งหมด 19,942 คน แบ่งเป็น Pfizer 17,073 คน AstraZeneca 2,869 คน รวม 19,942 คน
ทั้งนี้สสจ.ขอนแก่นจัดสรร AstraZeneca 2,929 คน โดยเป็นยอดที่ขอมา 2,869 คน และแบ่งให้รพ.กรุงเทพ 60 คน เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม นอกจากนี้สสจ.ขอนแก่นยังได้จัดสรร Pfizer 9,840 คน คิดเป็น 57.6 % ของหน่วยงานที่ขอมาทั้งหมดเมื่อวันที่ 6 – 7 สิงหาคม
น.พ.สมชายโชติ ระบุว่า รพ.ขอนแก่น ขอมาทั้งหมด 2,893 คน โดยคนที่ขอมาต้องมีรายชื่อ เลขบัตร ประชาชนระบุแผนกที่ทำงาน ตามแบบฟอร์มของกระทรวง สาธารณสุข อาจเป็นว่า ส่วนหนึ่ง รพ.ขอนแก่น ฉีดก่อนแล้ว จึงขออีกไม่ได้ ยอดก็เลยน้อย แบ่งเป็น ขอ Pfizer 1,449 คน AstraZeneca 1,444 คน
เราได้จัดสรร AstraZeneca ให้ รพ.ขอนแก่นแล้ว 1,444 คน ครบ 100% ตามที่ขอมา เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมและรอบนี้ ได้จัดสรรให้ Pfizer 720 คน (49.69% หรือ 50%) สรุปจัดสรรให้ รพ.ขอนแก่น Pfizer 720 คน และ AstraZeneca 1,444 คน รวมทั้งหมด 2,164 คน คิดเป็น 74.81% ตามที่ขอมา
ในส่วนของรพ.ศรีนครินทร์ ขอมา 5,547 คน มีรายชื่อเหมือน รพ.ขอนแก่น แบ่งเป็น Pfizer 5,359 คน AstraZeneca 188 คน ได้จัดสรรให้ รพ.ศรีฯ Astraฯ 188 คน Pfizer 2,700 คน รวม 2,888 คน คิดเป็น 52.07 % ตามที่ขอมา
“สรุป ถ้ารวม วัคซีนที่จัดสรรไปแล้ว รพ.ศรีฯ ได้ 52.07% ส่วน รพ.ขอนแก่น ได้ 74.81% ตามที่จำนวนที่ขอมาโดยสสจ.ขอนแก่น ได้จัดสรรให้หน่วยงานทั้งหมด 41 หน่วยงาน จาก Pfizer 9,840 คน”
นพ.สมชายโชติ กล่าวตั้งข้อสังเกต ว่า สสจ.ขอนแก่น ไม่ได้ระบุว่าให้หน่วยงานขอวัคซีนประเภทไหน จำนวนเท่าไร ในการบันทึกข้อมูลตามแบบฟอร์ม กระทรวงสาธารณสุข(กสธ.) เพื่อลงทำเบียน ส่งให้กสธ. หน่วยงานเลือกประเภทการฉีดวัคซีนและจำนวนการฉีดเอง เป็นคำถามจาก รพ.ขอนแก่นว่า หน่วยงานอื่น ขอ Pfizer มาก คำตอบคือ รพ.ขอนแก่น แจ้งขอ Pfizer กับ AstraZeneca ครึ่งต่อครึ่ง ในการจัดสรรวัคซีนเข็ม 3
สำหรับการบูสเตอร์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้านั้นจะส่งมอบให้กับ รพ.ขอนแก่น เพื่อทำการฉีดให้กับเฉพาะรพ.ของตนเอง และได้กระจายวัคซีนไปรพ.ต่างๆ อาทิ รพ.สิรินธร ที่จะดำเนินการฉีดให้กับกลุ่มรพ.อำเภอในพื้นที่โซนใต้และโซนกลาง รพ.ศรีนครินทร์ จะฉีดให้กับ รพ.อำเภอพื้นที่โซนเหนือของจังหวัด รวมทั้ง รพ.ชุมแพ จะฉีดให้พื้นที่รพ.ในอำเภอโซนตะวันตก
…………..