ประธานหอการค้ากลุ่มอีสานตอนบน ระบุภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ร่วมมือในการแก้ไขปัญหาโควิด 19 เป็นอย่างดี ขณะนี้คนทำงานต้องการกำลังใจ ขอให้ลดการด่าลงมาร่วมมือกันแก้ปัญหา ด้านธุรกิจการค้าขายไม่ดีนักแต่การส่งออกและภาคการเกษตรยังดี แนะให้ผู้ประกอบการตัดสิ่งที่เป็นภาระออกเพื่อประคองให้อยู่รอด
นายภมร เชาว์ศิริกุล ประธานหอการค้ากลุ่มอีสานตอนบน 2 กล่าวในการเสวนาการป้องกันควบคุมโควิด 19 และการขับเคลื่อนเศรษฐกิจภาคอีสาน ว่า สถานการณ์การแพร่เชื้อของโควิดปัจจุบันนี้ แตกต่างจากวิกฤตทุกวิกฤตที่เคยเจอมา เพราะเป็นสิ่งที่เกิดซ้ำซ้อน ควบคุมไม่อยู่ ในส่วนของภาคเอกชนก็พยายามช่วย เท่าที่เราสามารถช่วยได้เฉพาะในส่วนของท้องถิ่น เช่น ส่งข้าวให้แพทย์
ปัจจุบันก็ช่วยเรื่องของการพาคนกลับมารักษาที่จังหวัดบ้านเกิด โดยร่วมกับองค์กรมูลนิธิฯ หนึ่งครั้งสามารถพากลับมาได้ 3 – 7 คน ใช้เวลา 2-3 วัน และต้องเปลี่ยนคนขับตลอด เพราะต้องมีการกักตัวด้วย จนถึงวันนี้พากลับมาได้ประมาณ 10 เที่ยว นำคนกลับมาได้ประมาณ 50 คน
“ช่วง 7 เที่ยวแรกไม่มีงบ เราทำกันเอง โดยการตั้งโต๊ะบริจาคที่มูลนิธิฯร่วมกับกลุ่มธงแดง ปัจจุบันนี้ยังทำอยู่แต่ก็น้อยลงเรื่อยๆ คาดว่ายอดผู้ติดเชื้อจะลดลงช่วงกลางเดือนสิงหาคม ตอนนี้สิ่งที่ทำได้คือเป็นกำลังใจให้กับคนที่ทำงาน ต้องช่วยกันไม่ว่าฝ่ายไหน”
นายภมรกล่าวว่า ในส่วนของมุกดาหาร ภาครัฐและเอกชนช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี อาจจะเพราะว่ามีจำนวนชุมชนไม่มาก ยกตัวอย่างเช่น มุกดาหารมีผู้ติดเชื้อน้อยที่สุด เพราะมีคนอาศัยอยู่ในเมืองน้อย สังเกตได้ว่าชุมชนยิ่งหนาแน่น คนยิ่งติดเชื้อเร็วขึ้น ดังนั้นต้องระวังตัวเอง ละเว้นการไปในที่ที่คนเยอะ เว้นระห่างและใส่หน้ากากจะเป็นการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุด
“เรื่องวัคซีน เราอยากให้ทุกคนไปฉีด ยกตัวอย่างเช่นผมไปภูเก็ตมา ร่วมโต๊ะอาหารกับคนที่ติดเชื้อโควิด แต่ฉีดวัคซีนแล้วทำให้ไม่ติดเชื้อ และในปัจจุบันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้นใน 14 คนที่ไปเลย”นายภมรกล่าว
ส่วนของการป้องกันของส่วนกลางที่ประกาศออกมา สุดท้ายแล้วภายในจังหวัดก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ว่าราชการจังหวัดที่จะตัดสินใจว่าจะมีแนวทางอย่างไร เช่นจังหวัดมุกดาหาร ผู้ว่าฯตัดสินใจดีมากว่าต้องปิดส่วนไหนและเปิดส่วนไหน ทำให้ปัจจุบันยอดผู้ติดเชื้อมีไม่มาก
ประธานหอการค้ากลุ่มอีสานตอนบน 2 กล่าวอีกว่า การติดเชื้อเราวินิจฉัยไม่ได้ว่ามันติดง่ายหรือยาก แต่อยากให้ทุกคนไปฉีดวัคซีน เพราะหากฉีดแล้วจะทำให้มีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อได้ หรือเมื่อติดเชื้อแล้วอาการจะไม่หนักมาก และส่วนของชุมชนมีเรื่องดี ๆ มีเยอะมาก แต่คนอาจจะไม่ค่อยสนใจ คิดว่าในส่วนของเรา เราทำดีที่สุดแล้ว อาจจะมีช้าบ้าง ตอนนี้เอาใจช่วยรัฐบาลให้ทำแล้วประสบความสำเร็จ หากรัฐบาลทำสำเร็จ เศรษฐกิจก็จะเดินต่อไปได้
“ขณะนี้คนทำงานต้องการกำลังใจ คนบางกลุ่มฟังความฝ่ายเดียว อยากให้ลดการด่าไว้ก่อน หันมารณรงค์ให้ร่วมมือกัน เชื่อว่าประเทศไทยจะสามารถแก้ปัญหาโควิดได้แน่นอน ยกตัวอย่างเช่น จีน สามารถแก้ไขได้เพราะเป็นเผด็จการ ลาวก็เช่นเดียวกัน”นายภมรกล่าวและว่า
มุกดาหารมีการเปิดด่าน มีคนข้ามจากมุกดาหารไปลาว 300 – 500 คน คนลาวที่จะกลับไปรอที่ด่าน พอลาวหยุดรับก็มีคนตกค้างอยู่ที่ด่าน ปัญหาคือ ไม่มีที่พักและขาดอาหาร ทางหอการค้าฯก็ช่วยจัดหาในส่วนนี้อยู่ตลอด คาดว่าปัญหาโควิดน่าจะดีขึ้นช่วงต้นเดือนตุลาคม
นายภมรกล่าวอีกว่า ธุรกิจที่ขับเคลื่อนได้ในตอนนี้คือธุรกิจที่ส่งออกไปต่างประเทศ ส่วนธุรกิจค้าขายตอนนี้วิกฤตขายไม่ค่อยได้ การเกษตรเป็นไปได้ดี ตอนนี้คนบ้านนอกอยู่สบายกว่าคนในเมือง โรงแรมใหญ่ปิดไปเพราะอยู่ไม่ได้ ตลาดกลางคืนคนลดไปประมาณร้อยละ 50
“อยากขอเป็นกำลังใจให้คนทำงานทุกภาคส่วน ผมทำธุรกิจมา 40 กว่าปี เจ๊งมา 2 รอบ สิ่งที่คิดได้คือสิ่งไหนที่เป็นภาระจัดการออกให้หมด สิ่งที่มีประโยชน์เก็บไว้ให้ดี ต้องละทิ้งความคิดลบๆทั้งหมด ตั้งใจอย่างเดียวคือเศรษฐกิจเราต้องไปต่อได้ เราจะหยุดไม่ได้ ชีวิตต้องเดินต่อไป”นายภมรกล่าว