ตามที่นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ได้มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขต ท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ ต่อมาได้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศ สถานการณ์ฉุกเฉินดังกล่าวออกไปเป็นคราวที่ ๑๓ จนถึงวันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔ และออกข้อกําหนดออก ตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๒) ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ และคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ ๑๑/๒๕๖๔ ลงวันที่ 9 สิงหาคม ๒๕๖๔ กําหนดเขตพื้นที่สถานการณ์จําแนกตามเขตพื้นที่จังหวัด เพื่อการบังคับใช้ มาตรการควบคุมแบบบูรณาการ เป็น ๕ ระดับ คือ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) พื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม(สีส้ม) พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) และพื้นที่เฝ้าระวัง (สีเขียว) โดยกําหนดให้จังหวัดขอนแก่น เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๑๔ เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีคําสั่งเปลี่ยนแปลง เป็นอย่างอื่น นั้น
การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกเดือน เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๔ จังหวัดขอนแก่น ได้ออกประกาศมาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ตั้งแต่ฉบับที่ ๓๐ ถึง ฉบับที่ ๕๐ รวม ๒๐ ฉบับ แล้วนั้น โดยที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ค่อนข้างทรงตัวและมีแนวโน้มคลี่คลายไปในแนวทางที่ดีขึ้น ประกอบผู้ที่ได้รับการรักษาพยาบาล จนหายป่วยมีจํานวนเพิ่มมากขึ้น ทั้งมีการฉีดวัคซีนแก่กลุ่มที่มีภาวะเสี่ยงสูงต่อการติดโรค การค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุก การให้คําแนะนําและติดตามดูแลผู้ติดเชื้อ การกระจายยาและเวชภัณฑ์ที่จําเป็น ดังนั้นเพื่อให้การดําเนินมาตรการ ด้านสาธารณสุข โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของประชาชนในเขตพื้นที่จังหวัดขอนแก่นเป็นสําคัญ ตลอดจนบรรเทา ผลกระทบต่อประชาชนทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม จึงมีความจําเป็นที่จะต้องผ่อนคลายมาตรการควบคุมการระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพื่อให้บรรดาสถานที่ กิจการ หรือกิจกรรมที่อาจมีความเสี่ยงสูงต่อการ ระบาดของโรคสามารถดําเนินกิจการได้ ภายใต้มาตรการที่จําเป็นเพื่อป้องกันและและควบคุมการระบาดของโรค
อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒๒ (๑) (๒) มาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ ประกอบข้อกําหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๓๒) ลงวันที่ ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๔ และคําสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ ๑๑/๒๕๖๔ ลงวันที่ 9 สิงหาคม ๒๕๖๔ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ตามมติที่ประชุม ครั้งที่ ๓๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๖๔ จึงออกคําสั่งไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ให้ยกเลิก ประกาศจังหวัดขอนแก่น เรื่อง มาตรการ การเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) จังหวัดขอนแก่น (ฉบับที่ ๔๗)
ข้อ ๒ ให้ประชาชนที่เดินทางมาจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ตามที่กําหนด ในบัญชีรายชื่อจังหวัด ตามเขตพื้นที่สถานการณ์แนบท้ายข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่ง พระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ถือปฏิบัติดังนี้
๒.๑ ให้ลงทะเบียนรายงานตัว ผ่านระบบ QR code ของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ก่อนที่จะเดินทางมาถึงจังหวัดขอนแก่น ล่วงหน้าก่อนเดินทาง ๑ วัน หรือลงทะเบียนเมื่อมาถึงที่พักอาศัยในจังหวัด ขอนแก่นทันที
๒.๒ ให้กักกันตนเอง ๑๔ วัน (Home Quarantine) และห้ามออกจากสถานที่กักกันตนเอง นับจากวันที่เดินทางออกจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) และเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ภายใต้การกํากับของอาสาสมัครสาธารณสุขประจําหมู่บ้าน (อสม.) ผู้นําชุมชน ผู้ใหญ่บ้าน หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน พื้นที่ และถ้ามีอาการไข้ ไอ มีน้ํามูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ หรือจมูกไม่ได้กลิ่น หรือลิ้นรับรสไม่ได้ ให้รีบไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที พร้อมให้ข้อมูลอาการเจ็บป่วยและประวัติการเดินทางแก่แพทย์ผู้ทําการตรวจรักษาให้ถูกต้อง ครบถ้วน
เว้นแต่บุคคลที่เดินทางมาจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ที่มีหลักฐานการ ได้รับวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากสํานักงานคณะกรรมการอาหารและยา ครบเกณฑ์ที่กําหนด หรือ กรณีได้รับวัคซีน Astra Zeneca เข็มที่ ๑ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๒๘ วัน หรือ Pfizer หรือ Moderna หรือ Johnson & Johnson เข็มที่ ๑ มาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑๔ วัน หรือมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 ในทางเดินหายใจ (RT-PCR) เป็นลบไม่เกิน ๗๒ ชั่วโมง ก่อนเข้าพื้นที่จังหวัดขอนแก่น หรือมีเอกสารรับรองว่า เป็นผู้เคยติดเชื้อโควิด-19 มาไม่เกิน ๙๐ วัน หรือมีเอกสารรับรองว่าเป็นผู้ผ่านการกักตัวแล้ว หรือมีเอกสาร รับรองว่าได้ดําเนินการตามโครงการพื้นที่จังหวัดนําร่องด้านการท่องเที่ยว (Sandbox) ให้เฝ้าระวังอาการตนเอง (Self Monitoring)โดยให้ถือปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด ดังนี้
(๑) D – Distancingให้เว้นระยะห่างระหว่างบุคคลอย่างน้อยหนึ่งเมตรและหลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น (๒) M – Mask wearing ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย หรือหน้ากากผ้า เมื่ออยู่นอกเคหะสถาน หรือเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ และต้องสวมให้ถูกวิธีตามที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนํา (๓) H – Hand washingล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่ เจลล้างมือ หรือน้ํายาฆ่าเชื้อโรค จัดให้มีจุดบริการเจลล้างมืออย่างทั่วถึงเพียงพอ (๔) T – Temperatureตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายหรือคัดกรองอาการป่วยในระบบทางเดินหายใจ ทุกครั้งก่อนเข้าใช้บริการเข้าและเข้าสถานที่สาธารณะ (@) T – Testingตรวจหาเชื้อโควิด-19 (๖) A -Applicationติดตั้งและใช้แอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” หรือ “หมอชนะ” ในการเข้าออกสถานที่สาธารณะทุกครั้ง
ข้อ ๓ การปฏิบัติสําหรับประชาชนที่เดินทางมาจากเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุด (สีแดง) พื้นที่ควบคุม (สีส้ม) พื้นที่เฝ้าระวังสูง (สีเหลือง) ตามที่กําหนดในบัญชีรายชื่อจังหวัด ตามข้อกําหนด ออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดขอนแก่น ให้ถือปฏิบัติดังนี้
๓.๑ ให้ลงทะเบียนรายงานตัวผ่านระบบ QR code ของสํานักงานสาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ก่อนที่ จะเดินทางมาถึงจังหวัดขอนแก่น ล่วงหน้าก่อนเดินทาง ๑ วัน หรือลงทะเบียน เมื่อมาถึงที่พักอาศัยในจังหวัดขอนแก่น ทันที
๓.๒ ให้เฝ้าระวังอาการป่วยของตนเอง ๑๔ วัน (Self Monitoring) นับจากวันที่เดินทางออกจากพื้นที่ ควบคุม หากมีอาการไข้ ไอ มีน้ํามูก เจ็บคอ ปวดกล้ามเนื้อ หรือจมูกไม่ได้กลิ่น หรือลิ้นรับรสไม่ได้ ให้รีบไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที พร้อมให้ข้อมูลอาการเจ็บป่วยและประวัติการเดินทางแก่แพทย์ผู้ทําการตรวจรักษาให้ครบถ้วน
๓.๓ ในระหว่างการเฝ้าระวังสังเกตอาการของตน สามารถเดินทางไปในสถานที่ต่างๆ ได้ แต่ต้องปฏิบัติ ตามมาตรการป้องกันโรค (D-M-H-T-T-A) อย่างเคร่งครัด
ข้อ ๔ หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งในประกาศนี้ มีความผิดตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และหากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อได้มีคําสั่งตามมาตรา ๓๔ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.๒๕๕๘ เกี่ยวกับการแยก กักกัน หรือควบคุมไว้สังเกต หรือห้ามกระทําการ หรือดําเนินการใดๆ ซึ่งก่อให้เกิดสภาวะที่ไม่ถูกสุขลักษณะที่อาจเป็นเหตุให้โรคติดต่ออันตรายแพร่ออกไป แล้วไม่ปฏิบัติตาม ผู้ฝ่าฝืนมีความผิดตามมาตรา ๕๑ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.๒๕๕๘ ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔
(นายสมศักดิ์ จังตระกุล)
ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น
ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดขอนแก่น ผู้อํานวยการศูนย์บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัดขอนแก่น