ศธ.ร่วมกับสธ. นำร่องโครงการ Sandbox Safety Zone in School (SSS) กับโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนบางแห่งที่มีความพร้อม จำนวน 68 แห่ง
นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เปิดเผยว่า โครงการโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School (SSS) เป็นมาตรการเปิดเรียนมั่นใจปลอดภัยไร้โควิด-19 ในโรงเรียนประจำ เช่น โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และโรงเรียนเอกชนบางแห่งที่มีความพร้อม ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.)จะประสานงานกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อเดินหน้าทำโครงการนี้ไปพร้อมกัน เพราะจะต้องมีการลงพื้นที่ตรวจโรงเรียนที่จะประสงค์เข้าโครงการว่าเป็นไปตามมาตรการที่เราได้วางไว้ ทั้งนี้เมื่อครูและบุคลากรทางการศึกษาและนักเรียนที่มีอายุ 12 ปีขึ้นได้รับวัคซีนครบหมดทุกคนแล้วก็จะนำไปสู่การเปิดเรียนในรูปแบบไฮบริดคือ การเปิดเรียนที่มีทั้งนักเรียนอยู่ประจำและออนไลน์ แต่ทุกอย่างจะยึดมาตรการความปลอดภัยด้านสุขภาพของนักเรียนเป็นหลัก
นางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผู้ตรวจราชการ ศธ.ในฐานะโฆษก ศธ. กล่าวว่า การเป็นโรงเรียน Sandbox Safety Zone in School มีเงื่อนไข 3 ข้อคือ 1)โรงเรียนประจำ 2)เป็นไปตามความสมัครใจของทุกฝ่าย และ 3)ผ่านการประเมินความพร้อม โดยมีแนวปฏิบัติตามมาตรการคือ โรงเรียนประจำ ที่มีความพร้อมเข้าร่วมโครงการแจ้งความประสงค์ผ่านต้นสังกัด มีการหารือร่วมกับผู้ปกครองและผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการโรคติดต่อของจังหวัด จัดให้มีสถานแยกตัวในโรงเรียน (School Isolation) จัดให้มี Safety Zone ในโรงเรียน มีการติดตามประเมินผลโดยทีมตรวจราชการของ ศธ. และ สธ. และโรงเรียนรายงานตามแบบรายงานติดตามผลผ่าน MOECOVID และ Thai Stop Covid Plus สำหรับโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ SSS
ขณะนี้มีจำนวนทั้งหมด 68 แห่ง ประกอบด้วย โรงเรียนสังกัดสำนักบริหารการศึกษาพิเศษ 20 แห่ง โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 3 แห่ง โรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา (สพม.) 1 แห่ง และโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน (สช.) แบ่งเป็น โรงเรียนนานาชาติเอกชน 14 แห่ง โรงเรียนเอกชนนักเรียนไทย 12 แห่ง รวม 44 แห่ง