เมื่อวันที่ 15 ก.ย.ประชาสัมพันธ์กระทรวงคมนาคม ระบุว่า กรมท่าอากาศยาน (ทย.) กระทรวงคมนาคม ขานรับนโยบายรัฐบาล ในการกำหนดยุทธศาสตร์ท่าอากาศยานของประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ด้วยการเสริมศักยภาพการบริหารจัดการและใช้ทรัพยากรท่าอากาศยานของภาครัฐให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยดำเนินการตามแนวทางมอบความรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) จำนวน 3 แห่ง คือ ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานกระบี่ และท่าอากาศยานบุรีรัมย์ เพื่อเพิ่มปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการบินได้อย่างคล่องตัว
สำหรับแนวทางดังกล่าว เป็นการดำเนินงานเพื่อร่วมกันพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการท่าอากาศยานที่มีอยู่ของ ทย. ซึ่งเป็นท่าอากาศยานของภาครัฐ ให้มีความสามารถในการจัดหารายได้ให้เพิ่มขึ้น โดยที่ ทย. ยังคงได้รับเงินชดเชยรายได้ที่ขาดหายไปจากการมอบความรับผิดชอบดังกล่าว เพื่อนำไปบริหารจัดการท่าอากาศยานที่เหลืออยู่ เพื่อลดการใช้เงินงบประมาณของภาครัฐ รวมทั้งจะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการบริหารงานที่คล่องตัวของ ทอท. ด้วย ซึ่งการมอบความรับผิดชอบในบริหารจัดการ ไม่ได้มีการโอนทรัพย์สินของรัฐให้กับ ทอท. แต่เป็นการมอบความรับผิดชอบในการบริหารจัดการผ่านสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ ส่วนรายได้ของ ทย. ที่หายไป ทอท. จะชดเชยให้เช่นเดียวกับในขณะที่ ทย. บริหารจัดการเอง โดยอยู่ระหว่างการศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำมากำหนดรูปแบบที่เหมาะสม ซึ่งประเทศไทยจะได้รับประโยชน์จากการใช้ทรัพยากรรัฐร่วมกัน ส่งผลให้ปริมาณเที่ยวบินและผู้โดยสาร รวมถึงกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับการบินเพิ่มมากขึ้น เป็นประโยชน์ต่อการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศไทยในอนาคต
ทั้งนี้ ทย. ยังคงมีภารกิจในการพัฒนาและจัดสร้างท่าอากาศยานแห่งใหม่ เพื่อรองรับการเดินทางและการขนส่งทางอากาศของประเทศในอนาคต เช่น ท่าอากาศยานมุกดาหาร ท่าอากาศยานบึงกาฬ เป็นต้น ซึ่งแนวทางการมอบความรับผิดชอบการบริหารจัดการท่าอากาศยานให้ ทอท. จะทำให้ภาครัฐสามารถประหยัดงบประมาณในการลงทุน เนื่องจาก ทอท. จะเป็นผู้ลงทุนและบริหารจัดการแทน ภายใต้ข้อกำหนดและกรอบระยะเวลาการลงทุนที่ชัดเจน
แสดงความคิดเห็น