รองผู้ว่าฯ ชัยภูมิ แจ้งเตือนแต่ละพื้นที่เฝ้าระวังอุทกภัย หลังอิทธิพลของพายุโกนเชิน ส่งผลให้ฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัด ทำให้ปริมาณน้ำในลำน้ำชีมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น
นายราชันย์ ซุ้นหั้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ด้วยโครงการชลประทานชัยภูมิ มีหนังสือแจ้งว่าจากอิทธิพลของพายุโกนเชิน ที่เข้าสู่ประเทศไทยช่วงระหว่างวันที่ 8-14 กันยายน 2564 ส่งผลทำให้เกิดฝนตกกระจายทั่วทั้งจังหวัดชัยภูมิ โดยโครงการชลประทานชัยภูมิได้ติดตามสถานการณ์น้ำและลำน้ำชีในเขตจังหวัดชัยภูมิ ข้อมูลปริมาณน้ำทำในลำน้ำชีมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวังติดตาม
ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม และให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่อาจเกิดขึ้น ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชัยภูมิ จึงขอให้กองอำนวยการป้องกันเทาสาธารณภัยอำเภอ กองอำนวยการป้องกันและบรรทาสาธารณภัย องค์กรปกครองในพื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งลำน้ำชี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ ดังนี้
1) แจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำสองฝั่งลำน้ำชี ทราบถึงสถานการณ์เป็นระยะพร้อมทั้งแจ้งแนวทางการปฏิบัติ เตรียมการขนย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นที่สูงหากเกิดสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งพร้อมเฝ้าระวังกรณีเด็กเสียชีวิตจากการลงเล่นน้ำ และขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำจากส่วนราชการอย่างใกล้ชิด
2) ดำเนินการตามแผนเผชิญเหตุอุทกภัย ในการแบ่งมอบพื้นที่ ภารกิจ หน่วยงานรับผิดชอบให้ซัดเจนโดยเฉพาะการจัดกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบน้ำ เรือยนต์กู้ภัย เรือท้องแบน รถสูบส่งน้ำระยะไกล รถปฏิบัติการบรรเทาอุทกภัย ฯลฯ เตรียมความพร้อมในพื้นที่เสี่ยงภัยไว้เป็นการล่วงหน้า เพื่อให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุช่วยเหลือประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง
3) เมื่อเกิดเหตุสารารณภัยในพื้นที่ ให้จัดชุดปฏิบัติการจากหน่วยราชการฝ่ายพลเรือน ทหาร ตำรวจ มูลนิธิ อาสาสมัคร ประชาชนจิตอาสา เร่งเข้าคลี่คลายสถานการณ์ พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของประชาชนในด้านต่างๆ ตลอดจนจัดตั้งโรงครัวพระราชทานในการประกอบเลี้ยง การแจกจ่ายถุงยังชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ
4) หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงในพื้นที่ ให้ผู้อำนวยการสั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้โดยทันที โดยให้ฝ่ายปกครอง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เครือข่ายอาสาสมัตร ประชาชนจิตอาสา เข้าดูแลให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเป็นระบบ
5) ให้อำเภอ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อเตรียมรับสถานการณ์ และประชาชน โดยหากเกิดสถานการณ์ขึ้นในพื้นที่ ให้ประสานความช่วยเหลือในเบื้องต้นทันทีที่เกิดเหตุ และรายงานจังหวัดชัยภูมิ ทราบทันทีตลอด 24 ชั่วโมง และรายงานผลการปฏิบัติการทุกระยะจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด