อย.เบรคดังเอี๊ยด!!ไม่อนุมัติฉีด ‘ซิโนฟาร์ม’ ในเด็ก 3 ปีขึ้นไปด้านเพจ ‘หมอ’เดือดชี้ ‘เด็กไม่ใช่หนูทดลอง’

วันที่ 20 กันยายน 2564 นายแพทย์ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เปิดเผยว่า ตามที่ บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด ผู้ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีนซิโนฟาร์มในประเทศไทย ได้ยื่นเอกสารกับ อย. ช่วงที่ผ่านมา เพื่อขออนุญาตขยายกลุ่มอายุผู้ใช้วัคซีน จากเดิมกำหนดไว้ที่ 18 ปีขึ้นไป เป็นตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

ทั้งนี้ คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญของ อย. และผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายหน่วยงานได้ร่วมกันพิจารณาด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีน เมื่อวันที่ 10 ก.ย. โดยมีมติยังไม่สามารถอนุญาตขยายการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็กตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป

เนื่องจากข้อมูลความปลอดภัยในการใช้วัคซีนยังไม่เพียงพอ และขาดข้อมูลด้านประสิทธิผลของวัคซีนในการป้องกันโรคในกลุ่มอายุ 3-17 ปี 

เบื้องต้น อย. ได้แจ้งให้ทาง บริษัท ไบโอจีนีเทค จำกัด รับทราบ และขอให้นำส่งข้อมูลเพิ่มเติมแก่ อย. โดยด่วน โดยเฉพาะข้อมูลความปลอดภัยและประสิทธิผลที่ได้จากประสบการณ์การใช้วัคซีนแบบฉุกเฉินในเด็กจากประเทศต่าง ๆ ที่อนุญาต เช่น สาธารณัฐประชาชนจีน สหรัฐอาหรับ  อิมิเร็ตส์ เพื่อให้คณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาโดยเร็วต่อไป

ด้านเพจ ‘ภาคีบุคลากรสาธารณสุข’ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ถึงการวิจัยวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็ก อายุ 3 ปีขึ้นไป โดยระบุว่า “เด็กและเยาวชนไม่ใช่หนูทดลองวัคซีน”เครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์ ขอแสดงจุดยืนคัดค้านการทำงานวิจัยการฉีดวัคซีน Sinopharm ในเด็กที่มีอายุ 3 ปีขึ้นไป เป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเมื่อบริษัทที่ได้รับอนุญาตนำเข้าวัคซีน Sinopharm ยื่นขอขยายกลุ่มอายุผู้ใช้วัคซีนจาก 18 ปี เป็นตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป แต่สุดท้ายถูก อย. ปัดตก

ประกอบกับในโลกออนไลน์มีการแชร์ภาพแบบฟอร์มยินยอมผู้ปกครองในการให้บุตรหลาน (อายุ 10-18 ปี) ในความดูแลเข้าร่วมโครงการวิจัยความปลอดภัยของวัคซีน Sinopharm

คำถามที่ต้องถามกลับไปยังราชวิทยาลัยคือ งานวิจัยนี้ผ่านการขอจริยธรรมงานวิจัย (IRB) แล้วหรือไม่ และหากผ่านคณะกรรมการจริยธรรมแล้ว ใช้เกณฑ์อะไรในการรับรองความปลอดภัยของ Sinopharm ในเด็กที่มีอายุระหว่าง 10-18 ปี ทั้ง ๆที่เพิ่งมีผลการวิจัย Phase 2 ไปในกลุ่มเด็กที่มีอายุ 3-17 ปี จำนวน 720 คนเท่านั้น !!!

หรือแท้ที่จริงแล้วเป็นเพียงละครฉากใหญ่เพื่อระบายวัคซีนคงค้างเพื่อเคลียร์ที่ว่างให้กับวัคซีน Moderna ที่เพิ่งเซ็นสัญญานำเข้า ?

เมื่อย้อนรอยดูวาทกรรม “ด้อยค่าวัคซีน” ของคนบางกลุ่ม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Stakeholder ที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับวัคซีน Sinopharm จะเห็นได้ว่า มีความพยายามอย่างยิ่งที่จะกล่อมประสาทประชาชนด้วยวาทกรรม “ประสิทธิภาพวัคซีนเป็นเรื่องไร้สาระ” รวมไปถึงความพยายามชี้ให้เห็นถึง Adverse effect ของวัคซีน mRNA อย่างน่าประหลาดใจ สวนทางกับคำแนะนำของ CDC ที่แนะนำให้เด็กที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปรับวัคซีน Pfizer

ซึ่งข้อมูลล่าสุด (21 กันยายน 2564) ผลการวิจัย Phase 2/3 ของวัคซีน Pfizer ในเด็กอายุ 5 – 11 ปี จำนวน 2,268 คนพบว่ามีประสิทธิภาพดี และไม่มีรายงานกล้ามเนื้อเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ

หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้มีคุณธรรมสูงส่งที่เคลมตัวเองว่าเป็นหน่วยงานวิจัยระดับโลกจะมีสามัญสำนึกมากพอในการทำการวิจัยในเด็กผู้เป็นอนาคตของชาติ อย่าหากินอยู่บนความลำบากและความกลัวตายของประชาชน เพราะถ้ายังดื้อด้านฉีดวัคซีนเชื้อตายต่อไป #เมืองไทยพังแน่

แสดงความคิดเห็น