ผู้เลี้ยงกระชังปลาระวัง! ระดับน้ำพองเพิ่มหลังเขื่อนปล่อยน้ำเป็นเท่าตัว หวั่นกระแสน้ำทำให้กระชังเสียหาย

ผู้เลี้ยงปลากระชังที่บ้านนาเพียง อ.เมืองขอนแก่น เฝ้าระวังระดับน้ำในลำน้ำพองหลังเขื่อนเพิ่มปริมาณปล่อยน้ำเท่าตัว

 

 

เกษตรกรผู้เลี้ยงปลากระชังที่บ้านนาเพียง จังหวัดขอนแก่น ต้องเฝ้าระวังระดับน้ำในลำน้ำพองหลังวันนี้เขื่อนอุบลรัตน์เพิ่มการระบายน้ำ จาก 5 ล้านเป็น 10 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน หวั่นกระแสน้ำทำให้กระชังพังเสียหายและปลาที่อาจปรับสภาพไม่ทัน

หลังจากที่เขื่อนอุบลรัตน์ได้เพิ่มการระบายน้ำจากวันละ 5 ล้าน ลบ.ม. เป็น 10 ล้าน ลบ.ม. เพื่อรองรับน้ำจากจังหวัดชัยภูมิที่ไหลเข้าเขื่อนวันละ 100 ล้าน ลบ.ม. พบน้ำมีปริมาณเพิ่มสูงขึ้น กระแสน้ำไหลเชี่ยวและยังมีสีขุ่นแดง ส่งผลให้ผู้เลี้ยงปลาในกระชังรายใหญ่ที่บ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ต้องเฝ้าระวังระหวั่นความแรงของน้ำ จะส่งผลให้กระชังชำรุดเสียหาย เกษตรกรต้องเร่งนำปลาที่พอจำหน่ายได้ออกส่งขายก่อนกำหนดในราคาที่ถูกลง พร้อมงดลงปลาใหม่ในช่วงนี้

 

 

นางสมจิตร์ บุญใบ เจ้าของธวัชชัยฟาร์ม ที่บ้านนาเพียง ต.สำราญ อ.เมือง จ.ขอนแก่น เปิดเผยว่าตนทราบข่าวว่าเขื่อนอุบลรัตน์ได้มีการเพิ่มการระบายน้ำขึ้นอีกจากเดิมที่ระบายก่อนหน้านี้อยู่ที่วันละ 5 ล้าน ลบ.ม.แต่ขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นวันละ 10 ล้าน ลบ.ม.ทำให้ต้องเฝ้าระวังกระแสน้ำที่ไหลค่อนข้างรุนแรงในลำน้ำพอง ซึ่งรอบนี้ตนได้ลงปลาไปในกระชังทั้งหมด 400 กระชัง จำนวนหลายแสนตัว จากกระแสน้ำที่ไหลแรง อาจจะทำให้กระชังชำรุดเสียหายได้ เช่นเมื่อปี พ.ศ. 2554 ที่เคยประสบเหตุการณ์โดนกระแสน้ำพัดกระชังพังเสียหายอย่างหนักมาแล้วครั้งหนึ่ง รวมถึงเฝ้าสังเกตความขุ่นของน้ำจนส่งผลกระทบกับปลาที่เลี้ยงเอาไว้ด้วย

นางสมจิตร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปีนี้การลงทุนเลี้ยงปลากระชังค่อนข้างลำบากเพราะด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ยอดสั่งซื้อปลานิลลดลงอย่างมาก แบบครึ่งต่อครึ่งกับสถานการณ์ปกติ เช่น ปลานิล ขนาดน้ำหนัก 3 กิโลกรัม ตอนนี้ส่งขายอยู่ที่ 50 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งต่างจากก่อนหน้านี้ที่ขายอยู่ที่ประมาณ 80-100 บาทต่อกิโลกรัม และสถานการณ์น้ำท่วมที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้ตนต้องรอบคอบในการเลี้ยงปลากระชังในแต่ละรอบเช่นกัน

แสดงความคิดเห็น